วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ชลวิถี.....ที่บางกรูด 3.......
กาลเวลาแม้ผันผ่าน แต่วิถีชาวบ้าน ยังสืบสานกันต่อมา
เป็นภาพการวางลอบยืน ตามชายคลอง
อุปกรณ์การจับสัตว์น้ำ
เชงเลง ( Cone-shaped Bamboo Trap )
เป็นเครื่องมือที่ทำด้วยไม้ไผ่ผ่าซีกมัดด้วยหวายทรงกรวย คล้ายขวดก้นกลวงรูปร่างคล้ายลอบ
เชงเลงปากกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร สูงประมาณ 1 เมตรเศษ มีเชือกผูกปากเชงเลง สำหรับหย่อนลงในน้ำ ที่ปากเชงเลง และส่วนกลางมีซี่ไม้ไผ่ เรียกงาแซง 3 ชั้น เป็นช่องทางให้สัตว์น้ำที่เข้ามาในเชงเลงเช่น ปูทะเล หรือปลาที่เข้ามาในเชงเลง เข้ามาแล้วออกไปไม่ได้ เข้ามาได้อย่างเดียว มีการวางเหยื่อในเชงเลงล่อสัตว์น้ำเข้ามากินเหยื่อ เมื่อหลงเข้ามาแล้ว สัตว์น้ำจะกลับออกไปไม่ได้
เชงเลงที่บ้านมีขนาดใหญ่กว่าปกติมากเพราะทำพิเศษ( ก็เพราะมีกอไผ่ใหญ่หลายกอนั่นเอง)นำไปหย่อนลงที่ชายฝั่งแม่น้ำที่หน้าบ้าน และตรึงไว้ด้วยสมอเรือ มีเชือกผูกที่ก้นเชงเลงที่เป็นกรวยแหลม กับถังพลาสติก เป็นจุดสังเกตว่าหย่อนเชงเลงไว้ในบริเวณใด เชงเลงนี้จะอยู่ในแนวนอนกับพื้นดิน ประมาณเวลาว่าน่าจะมีสัตว์น้ำเข้ามาในเชงเลง ก็นำเรือมาดใหญ่(มาดแจว)ออกไปกู้เชงเลงขึ้นมา เชงเลงของที่บ้านมีความยาวเท่าเรือมาดพาย จึงใช้เรือมาดพายออกไปกู้เชงเลงไม่ได้
โดยทั่วไปปลาที่เข้ามาในเชงเลง เช่นปลาช่อน ปลาชะโด ปลากระทิง ปลาตะเพียน ปลาดุกทะเล ปูทะเล
ลอบจับปลา (Bamboo Trap )
มี 2 ชนิด คือลอบนอนและลอบยืน
ลอบนอน
ในบางท้องที่เรียกว่าไซนอน หรือไซลอบ ใช้ทั้งน่านน้ำจืดและน้ำเค็ม รูปร่างทรงกระบอก กลมยาว ด้านหัวเปิดด้านท้ายปิด ทำด้วยไม้ไผ่ซีก ไม้ไผ่เหลา ผูกมัดด้วยหวาย ด้านหัวที่เป็นทางให้ปลาเข้ามาในลอบ มีงาแซง และตอนกลางของลอบ อีก 1 ที่ เพื่อให้ปลาเข้ามาแล้วออกไม่ได้เหมือนเชงเลง มีประตูเปิดปิดด้านท้าย ลักษณะเด่นของลอบนอนคือ ส่วนท้ายของลอบงอนขึ้นเล็กน้อย เมื่อวางลอบในน้ำ ( แถบน้ำตื้น) ส่วนท้ายของลอบจะโผล่พ้นน้ำ ปลาที่ติดอยู่ในลอบมีโอกาสโผล่ขึ้นมาหายใจได้ ปลาที่จับได้ในลอบจึงได้เป็นปลาเป็นๆ การวางลอบ ต้องมีการใส่เหยื่อเพื่อล่อปลาไว้ในลอบ
สัตว์น้ำที่ได้จากการวางลอบ เช่นปลาหมอ ปลาดุก ปลาไหล ปลาช่อน กุ้งน้ำจืด ปู และงูที่หลงเข้ามา
นอกจากใช้ลอบดักปลาแล้ว เวลาที่พี่ชายและน้องชาย เอาขอล้วงปูไปล้วงปูทะเล บางครั้งไม่ประสบผลสำเร็จ ปูทะเลไม่ออกมาจากรูปู ก็จะนำลอบดักปลามาดักปูที่ปากรูปูทะเล กรณีนี้ไม่ต้องวางเหยื่อล่อ เพียงอดทนรอเวลาน้ำขึ้น ปูทะเลจะต้องออกจากรูอยู่แล้ว ก็กลับมาเอาปูทะเลกลับบ้านได้
ส่วนลอบยืน ไม่เป็นที่นิยมใช้ และที่บ้านไม่เคยใช้อุปกรณ์นี้
ลักษณะของลอบยืน ทำจากไม้ไผ่มัดด้วยหวายหรือเชือกในลักษณะตั้งขึ้นหรือยืน ส่วนบนมัดรวมไว้รูปร่างคล้ายถุงเงิน ด้านหน้ามีทางให้สัตว์น้ำเข้า และมีงาแซง
สุ่ม
ทำด้วยไม้ไผ่ และหวายรูปร่างคล้ายไห มีช่องอยู่ด้านบน สำหรับใช้มือล้วงจับปลาที่ติดอยู่ในสุ่ม ส่วนกลางป่อง ด้านบนแคบด้านล่างกว้าง ทำไว้เป็นซี่ๆ ปลายแหลมเพื่อให้ปักลงในดินโคลนได้แน่นหนา ปลาที่ติดอยู่ในสุ่มดิ้นออกไปไม่ได้
นิยมใช้สุ่มครอบจับปลาในแหล่งน้ำตื้น ตามห้วยหนองคลองบึง ท้องนา
ที่บ้านมีวิธีตกกุ้งก้ามกรามโดยผูกสายเชือกกับไม้ที่ใช้ปักตามริมตลิ่งชายฝั่งแม่น้ำในช่วงน้ำเริ่มขึ้น น้ำที่ชายฝั่งยังน้อย ใช้เนื้อมะพร้าวห้าวหั่นเป็นรูปสี่เหลี่ยมเป็นเหยื่อล่อ ต้องใช้เรือพายไปปักไม้และหย่อนสายเชือก ที่ทำจากการกรีดทางมะพร้าวออกมาเป็นเส้นๆ และใช้เรือพายสำรวจไม้ปักที่มีเหยื่อล่อ หากกุ้งก้ามกรามกินเนื้อมะพร้าว สายเชือกก็จะตึง คนที่อยู่บนเรือ หากไม่ใช้สวิงช้อนกะระยะต่ำกว่าเชือกที่สุดปลายเชือกมีเนื้อมะพร้าว บางครั้งก็ใช้สุ่ม ครอบลงไปในน้ำ แล้วล้วงจับตัวกุ้งขึ้นมา
วิธีการนี้บางที่เรียกว่าสุ่มกุ้ง ถ้าใช้สุ่มครอบ หากใช้สวิงช้อน ก็เรียกว่า ช้อนกุ้ง แต่เด็กๆในบ้านเรียกกันเองว่าตกกุ้ง
นอกจากมีสุ่มจับสัตว์น้ำแล้ว ยังมีสุ่มอีกประเภทบนบก คือสุ่มไก่ เพื่อการกักขังไก่ นั่นเอง แต่รูปทรงไม่เหมือนสุ่มของสัตว์น้ำ และมีขนาดใหญ่กว่า (ก็ไก่น่ะตัวโตกว่าปลามากเลยทีเดียว)
อ้อและมีสุ่มของสุภาพสตรี เป็นกระโปรงที่มีลักษณะคล้ายสุ่มไก่ เรียกว่ากระโปรงทรงสุ่มไก่ ที่จะพบเห็นได้บ่อยครั้งในทีวีกับละครย้อนยุคหลายๆเรื่อง
ไซ
เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ รูปร่างเรียวยาวทำด้วยไม้ไผ่ มีหลายขนาด โดยทั่วไป มี ช่องสำหรับให้ปลาเข้าอยู่บริเวณคอไซ มีงาแซงอยู่ในช่องนี้ เพื่อไม่ให้ปลาที่เข้ามาในไซออกมาได้ มักใช้ไซดักปลาตามคันนา โดยขุดคันนาให้เป็นช่อง วางไซให้ช่องดักปลาอยู่ส่วนล่างติดกับพื้นดิน ใช้จับปลาในขณะน้ำลด ปลาที่จับได้ เช่น ปลากระดี่ ปลาซิว ปลาดุก ปลาแขยง การกู้ไซ ยกขึ้นมาแล้วเปิดปากไซเทปลาที่ติดอยู่ข้างในออกมา
ปัจจุบันตามร้านค้านิยมแขวนไซเล็กๆ เป็นการเรียกลูกค้าเข้าร้าน ( ร้านค้าเป็นไซ ลูกค้าเป็นปลานั่นเอง)
ไซมีหลายรูปแบบตามท้องถิ่นและแหล่งน้ำ รวมทั้งประเภทสัตว์น้ำ
ตุ้ม
เป็นเครื่องมือจักสานด้วยไม้ไผ่ และหวาย ใช้ดักล่อสัตว์น้ำให้เข้ามาภายในตุ้ม แล้วย้อนกลับออกไม่ได้ มีหลายรูปแบบตามท้องถิ่นและประเภทของสัตว์น้ำที่ต้องการดักล่อ บางชนิดรูปร่างคล้ายไห ขวด สุ่ม ตะกร้า หรือกระบุงใส่ข้าว
ตุ้ม สูงประมาณ 2 ศอก ด้านบนมีปาก ใช้กะลาทำเป็นฝา ด้านก้นใช้ไม้ไผ่สานเป็นแผงกลม เปิดปิดได้ มีช่องสำหรับเป็นทางให้ปลาเข้า ใช้ดักในที่น้ำตื้น มีหลักไม้ 2 อันปักข้างๆ เพื่อไม่ให้เคลื่อนที่ มีเหยื่อวางล่อในตุ้ม
มีหลายประเภท คือ ตุ้ม (คล้ายสุ่ม หรือไห ) ตุ้มยืน ตุ้มโพง ตุ้มปลากด ตุ้มปลาดุก เป็นต้น
ตุ้มยืน ทำด้วยไม้ไผ่ รูปร่างคล้ายขวด สูงประมาณ 2 ศอก รอบตุ้มใช้ดินเหนียวผสมมูลควายพอกโดยรอบ ช่องปลาอยู่ที่ขอบพื้นล่าง มีงาแซงกันปลาออก วางเหยื่อล่อไว้ภายใน
เบ็ด ( Hook)
เป็นเครื่องมือที่ใช้ลวดเหล็ก เป็นส่วนสำคัญ เป็นลวดปลายแหลมโค้งงอ ส่วนปลายแหลมคม เรียกว่าเงี่ยง
เบ็ดมีส่วนประกอบคือ ตัวเบ็ด เงี่ยงของตัวเบ็ด สายเบ็ด คันเบ็ด
ตัวเบ็ด ทำด้วยเหล็ก มีหลายขนาด โค้งงอเป็นรูปตะขอ ปลายด้านหนึ่งผูกติดกับสายเบ็ด ปลายอีกด้านแหลมคมมีเงี่ยง ใช้สำหรับเกี่ยวเหยื่อล่อให้ปลามากินเบ็ด เงี่ยงของตัวเบ็ดนี้มีอันตราย จากการตวัดสายเบ็ดขึ้นมา หากพลาดพลั้งก็จะเกี่ยวถูกคนที่อยู่ใกล้ คมเบ็ดจะทำให้เกิดรอยแผลและมีแรงกระชากซ้ำด้วย มีบางคนถึงกับตาบอดหากถูกเงี่ยงเบ็ดตวัดเข้าที่นัยน์ตา
การผูกสายเบ็ดกับตัวเบ็ดให้มั่นคงไม่หลุดง่าย ใช้การผูกที่เรียกว่าเงื่อนตะกรุดเบ็ด โดยการทำเส้นด้ายเป็นวงกลมสองวงซ้อนทับกันแล้วคล้องที่โคนเบ็ดดึงให้ตึงโดยไม่เลื่อนหลุด
สายเบ็ดอาจเป็นเชือกหรือด้ายขนาดเล็กใหญ่ต่างๆกันตามการใช้งาน บางครั้งก็ใช้เป็นเอ็นไนลอน ความยาวของสายตามความต้องการใช้งาน ใช้สายเบ็ดผูกกับตัวเบ็ดด้านหนึ่งปลายอีกด้านอยู่กับคันเบ็ด
คันเบ็ดส่วนมากใช้ลำไม้ไผ่ ลำเล็กๆ กะทัดรัด ลิดกิ่งแขนงออก การเลือกลำไผ่มักเลือกลำเรียวยาวและลำตรงไม่โค้งงอ
เบ็ดมีหลายประเภทตามการใช้งานและสัตว์น้ำที่ต้องการจับ เช่น เบ็ดคัน เบ็ดล่อ เบ็ดราว เบ็ดธง เบ็ดตกปลาหมึก เบ็ดตกกุ้ง เบ็ดตกปลาไหล เบ็ดธงปลาดุก เบ็ดธงปลาช่อน เบ็ดธงปลาหมอทะเลเบ็ดแร้ว เบ็ดลาก
บ้านในชนบททุกบ้านมีเบ็ดติดประจำบ้าน เพราะทำง่ายใช้งานง่าย ใช้ได้ในทุกสถานที่ที่เป็นแหล่งน้ำและนิยมใช้เบ็ดคันหรือเบ็ดตก เลือกใช้ตามขนาดของสัตว์น้ำที่ต้องการตก
เบ็ดคัน หรือเบ็ดตก ( Pole and line )
การใช้งานของเบ็ด ใช้คำว่า ตกเบ็ดผู้ที่จะไปตกเบ็ดหาปลาต้องเตรียมเหยื่อ หากเป็นชาวสวนก็นิยมขุดไส้เดือน กุ้งฝอย ตัวหนอน ตัวแมลง ลูกกุ้ง ลูกปลา ไปเป็นเหยื่อล่อ หากใช้ไส้เดือนเวลาเกี่ยวเหยื่อเนื่องจากไส้เดือนตัวยาวมาก จึงต้องเด็ดไส้เดือนออกจากลำตัวทีละท่อนๆ แล้วเอาตัวเบ็ดเกี่ยว เมื่อออกไปตกเบ็ดมักมีข้องใส่ปลาติดตัวไปด้วย แหล่งน้ำที่ใช้ตกปลามีทั้ง แม่น้ำ ห้วย หนอง ลำคลอง บึงต่างๆ
เมื่อเกี่ยวเหยื่อแล้วก็ขว้างตัวเบ็ดลงไปในแหล่งน้ำ รอจนมีปลามาฮุบเหยื่อ เมื่อปลากินเหยื่อก็จะถูกตัวเบ็ดเกี่ยวข้างในปาก ปลาก็จะดิ้นและว่ายหนีทำให้เป็นการดึงสายเบ็ดจนตึง คนถือคันเบ็ด จะตวัดเบ็ดขึ้นมา หากตัวเบ็ดเกี่ยวไม่แน่นดีก็จะหลุดจากปากปลา ปลาก็หล่นลงในน้ำหนีรอดไปได้
ปลาตัวที่ไม่รอดคมเบ็ด ก็จะถูกคนจับอ้าปลาปลดตัวเบ็ดออกมา ถูกจับใส่ข้องเอากลับบ้านตอนเลิกตกปลา ปลาบางตัวไม่สามารถปลดเบ็ดออกก็มีบ้าง คนตกปลาก็ตัดใจตัดสายเบ็ดออกมาแล้วผูกเบ็ดตัวใหม่ คนตกปลาต้องมีการสำรองตัวเบ็ดติดตัวไปด้วยหากไปตกปลาไกลบ้าน
การตกปลาด้วยเบ็ดตก ต้องการความเงียบสงบ พยายามไม่ส่งเสียงดังให้ปลาแตกตื่นและรู้ว่ามีผู้คนอยู่บริเวณนั้น เพราะปลาก็ต้องระแวดระวังภัยให้กับตัวเอง ดังนั้นคนที่ไปตกเบ็ดด้วยกันก็จะไม่คุยกันเสียงดัง หากต้องพูดกันก็จะทำเสียงกระซิบกระซาบพูดเบาๆ หากมีผู้คน คนอื่นผ่านมาทำเสียงดังทักทาย คนตกเบ็ดก็จะยกนิ้วมือขึ้นมาที่ปาก ทำเสียง จุ๊.จุ๊. ให้เงียบๆหน่อย พ่อคุณ แม่คุณเอ๋ย... เดี๋ยวปลาในน้ำนี้หนีไปหมด
พลอยโพยมไม่ค่อยตกปลาด้วยเบ็ด เพราะไม่คุ้นเคยกับไส้เดือนอันเป็นเหยื่อตกปลายอดฮิตของเด็กในบ้าน เพราะแค่ใช้เสียมขุดลงไปในดินของสวนก็ได้ไส้เดือนแล้ว หาง่ายกว่าเหยื่ออื่นๆ เวลาไส้เดือนคลานยั้วเยี้ยในภาชนะที่ใช้ใส่ช่างไม่น่าดูเลยทีเดียว มองแล้วกระอักกระอ่วน แหยงๆในใจ ยิ่งการเด็ดตัวไส้เดือนออกมาเกี่ยวตัวเบ็ดช่างน่าสยองขวัญ การตกปลาด้วยลูกกุ้ง ลูกปลาก็เพียงเกี่ยวเหยื่อใช้ทั้งตัว และกว่าจะตกปลาจริงๆ บางทีลูกกุ้งลูกปลาก็ตายแล้วไม่ทรมานเหยื่อมากนัก
ปัจจุบัน การตกปลากลายเป็นกีฬาอย่างหนึ่งเป็นที่นิยมมาก ใช้ตกปลาด้วยเบ็ดฝรั่ง ซึ่งที่คันเบ็ดมีรอกผ่อนสายเบ็ดไปตามแรงน้ำหรือแรงดึงของปลา เมื่อปลากินเบ็ดก็สามารถผ่อนคลายหรือดึงให้ตึงได้ตามแรงของปลา
บางครั้งมีนักตกปลา เดินทางข้ามจังหวัดในช่วงวันหยุด มากันเป็นคันรถรวมกัน 5-6 คน เพื่อการมาหาสถานที่ตกปลาเพียงอย่างเดียว ตกแต่เช้าจนเย็นก็มี
คนใจร้อนไม่เหมาะกับการตกปลาด้วยเบ็ด เพราะในบางครั้งต้องใช้ความอดทนในการรอคอยปลามากินเหยื่อ และต้องรอให้แน่ใจว่าตัวเบ็ดเกี่ยวปากปลาแน่นอนแล้ว
มีการใช้เบ็ดสำหรับตกกุ้งก้ามกรามในแม่น้ำ
คนตกกุ้งต้องพายเรือออกไปที่ห่างฝั่งพอสมควร แล้วลอยเรือตกกุ้ง โดยมีไม้ไผ่ลำยาวปักเป็นหลักยึดเรือไม่ให้ลอยเลื่อนหรือเรือหมุนไปหมุนมา
ขนาดคันเบ็ดยาว 1 เมตร สายเบ็ดยาวประมาณ 6 เมตร ใช้เข็มลนไฟให้ร้อนและอ่อนตัวลงงอทำตัวเบ็ด เหยื่อคือ ลูกกุ้งฝอย คนตกกุ้งจะตกกุ้งก้ามกรามโดยใช้คันเบ็ด 4-8 คัน ต่อลำเรือ การตกกุ้งจะได้ผลดีในช่วงเวลาน้ำนิ่งไม่ไหลแรงนัก และออกมาตกเป็นพักๆ ไม่นั่งตกทั้งวัน
กุ้งก้ามกรามที่ตกได้นี้ คนตกกุ้งจะใส่ขังไว้ในกระชังไม้ไผ่ ที่ผูกติดแช่น้ำ ไว้ข้างลำเรือนั่นเอง
และ จะมีเรือหางยาว ของนายโต นายรอด วิ่งมารับซื้อราคาประมาณกิโลกรัมละ 150 บาท หรือมากกว่านี้หากได้กุ้งก้ามกรามตัวโต
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น