...พระวิปัสสนาจารย์...
สาเหตุที่พลอยโพยมเข้าปฏิบัติธรรมติดกันมากขนาดนี้ เพราะช่วงจังหวะเวลาการสอนของพระวิปัสสนาจารย์นั่นเอง บางคอร์ส มีเพียงครั้งเดียวในรอบปี บางคอร์สมีแค่ 2 ครั้งคือต้นปีปลายปี โดยเฉพาะคอร์สที่มีพระวิปัสสนาจารย์ ต่างวัด มาร่วมกันเป็นพระวิปัสสนาจารย์พร้อมๆกัน ทีมเดียวกัน เป็นของหายากอย่างยิ่งนั่นเอง ได้เข้าปฏิบัติแล้ว ก็ดื่มดำในคำสอนของพระพุทธองค์ อยากปฏิบัติบูชา ต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นไปตามธัมมานุสสติที่ว่า
สันทิฏฐิโก , เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
อะกาลิโก , เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล และ
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิตี , เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้พระวิปัสสนาจารย์ ที่รอบรู้ รู้จริง และมีเมตตาต่อเหล่าศิษย์ อย่างมิมีที่เปรียบ 'พลอยโพยม' ก็กตัญญู เลยต้องประกาศเกียรติคุณของท่านพระอาจารย์ ให้เป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชน ขอคัดลอกประวัติพระอาจารย์มาดังนี้
ประวัติโดยย่อ : พระครูปลัดประจาก สิริวณฺโณ
ชื่อ – ฉายา พระประจาก ฉายา สิริวณฺโณ
อายุ ๖๕ ปี
พรรษา ๔๔
วัน เดือน ปี เกิด ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ วันศุกร์ที่ ๙ สิงหาคม ๒๔๘๙ ที่บ้านพันหลังต. สำราญราษฏร์ อ. ดอยสะเก็ด จ. เชียงใหม่
บรรพชา บรรพชาเมื่ออายุ ๑๒ ปี วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๐๑ ณ วัดพันหลังจ. เชียงใหม่
อุปสมบท อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๑๐ ณ พัทธสีมา วัดปรินายกแขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
การศึกษา ศึกษาปริยัติธรรมที่ประเทศสหภาพเมียนมาร์หลายสำนัก อันมีสำนักเรียนวัดมหาวิสุตาราม เป็นต้น เป็นเวลา ๑๔ ปี ๖ เดือน
การปฏิบัติธรรม ครั้งแรกได้เข้าปฏิบัติธรรมที่สำนักวัดเมืองบาง ต. หายยา อ. เมืองจ. เชียงใหม่ ล่าสุดได้ไปปฏิบัติธรรมที่สำนักเช็กขุ่นหยั่ว ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของหลวงพ่อมหาสีสยาดอ
งานเผยแผ่ เป็นวิปัสสนาจารย์ในหลักสูตรพิเศษของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันราชภัฏ
ปัจจุบัน สังกัดอยู่ ณ วัดปรินายก คณะ ๒ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
ซึ่งพบว่ามีบุคคลเขียนลงเวปไซด์ว่าไม่ใช่ต้นและดอกสาละ แต่เราส่วนมากยอมรับว่านี่คือดอกสาละ
ประวัติโดยย่อ : พระสว่าง ติกฺขวีโร
ชื่อ - ฉายา พระสว่าง ติกฺขวีโร
วัน เดือน ปี เกิด วันเสาร์แรกเดือนมกราคม ๒๕๐๐
อายุ ๕๔ ปี
พรรษา ๓๔
อุปสมบท วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๒๐ ณ.วัดสิทธาราม ต.บ้านปรางค์ อ.คงจ.นครราชสีมา โดยมีพระครูสิทธิ บริหารเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการจำลอง และพระสุรินทร์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
การศึกษา จบนักธรรมชั้น ตรี โท เอก อภิธรรมมิกตรี โท เอก และอภิธรรมมัชฌิมตรีตามลำดับ
ศึกษาบาลีไวยากรณ์ ณ วัดท่ามะโอ จ.ลำปาง เป็นเวลา ๕ ปีเศษ
ศึกษาต่อที่ประเทศพม่าเป็นเวลา ๙ ปีเศษ โดยได้ศึกษาที่วัดปัญจนิกายเป็นเวลา ๕ ปีเศษ และศึกษาที่มหาวิทยาลัยสงฆ์กบาเอ จังหวัดย่างกุ้ง อีก๔ ปีเศษ ขณะที่ศึกษาที่ประเทศพม่านั้นได้เข้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานทุกครั้งที่ปิดภาคเรียนในแต่ละปี ท่านได้สำเร็จวิชาครูด้านวิปัสสนากรรมฐานที่สำนักมหาสีและเป็นล่ามแปลให้สถานปฏิบัติธรรมที่สำนักมหาสีสาสนยิตตา ท่านได้เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อปลายเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๘
การปฏิบัติงาน
๑. งานสอน
- สอนวิปัสสนากรรมฐาน ประจำโบสถ์วัดมหาธาตุในวันอาทิตย์วันอุโบสถและที่คณะ ๕ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร
- สอนวิปัสสนากรรมฐานพิเศษแก่นิสิตของ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อนรับปริญญาพุทธศาสตร์บัณฑิต
- สอนวิปัสสนากรรมฐานหลักสูตรพิเศษและโครงการแสงธรรมวันอาทิตย์ ของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
- สอนกรรมฐานที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และที่อื่นๆทั้งภาครัฐและเอกชนอีกหลายแห่ง
- เป็นวิทยากรบรรยายธรรม/ตอบปัญหาธรรมทางสถานีวิทยุและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกหลายแห่ง
๒. งานเผยแพร่ศาสนธรรม ณ.ต่างประเทศ
- เป็นพระธรรมฑูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๕ ปฏิบัติศาสนกิจที่อเมริกาและพม่าทุกปี
๓. งานวิชาการอื่นๆ
- เป็นกรรมการวิทยานิพนธ์นักศึกษาปริญญาเอก มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยและนักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- เป็นผู้ทรงคุณวุฒิการทำวิทยานิพนธ์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ เช่นมหาวิทยาลัยมหิดล ฯลฯ
- เป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบหนังสือแปลด้านการปฏิบัติธรรมให้แก่ผู้เขียนและผู้แปลด้านการปฏิบัติธรรมหลายท่านและหลายเรื่อง
ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่ คณะ ๓ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ท่าพระจันทร์กรุงเทพมหานคร
ประวัติย่อ : พระมหาทองมั่น สุทฺธจิตฺโต
ชื่อ – ฉายา พระมหาทองมั่น สุทฺธจิตฺโต (นามสกุล แสนไชย)
อายุ ๕๕ ปี
พรรษา ๓๔
วัน/เดือน/เกิด วันศุกร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๔๙๙ ณ บ้านเลขที่ ๓๖หมู่ที่๔ ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
บรรพชา เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๑๑ ณ วัดบ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๒๐ ณ วัดกระจับพินิจ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
การศึกษา - เปรียญ ๕ ประโยค นักธรรมเอก ประสบการณ์วิชาชีพครู
- ศึกษาและปฏิบัติธรรมรวมเวลา ๕ ปีเศษ ดังนี้
- พ.ศ. ๒๕๓๖–๒๕๓๗ ศึกษาและปฏิบัติกรรมฐาน ณ สำนักวิปัสสนาวิเวกอาศรม จ.ชลบุรี เป็นเวลา ๒ ปี กับหลวงพ่ออาสภะมหาเถระ และพระอาจารย์ชาลี จารุวณฺโณ
- พ.ศ. ๒๕๓๘–๒๕๓๙ ศึกษาและปฏิบัติกรรมฐาน ณ สำนักวิปัสสนามหาสีสยาดอ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เป็นเวลา ๑ ปี
- พ.ศ. ๒๕๓๙–๒๕๔๑ ศึกษาและปฏิบัติกรรมฐาน ณ สำนักวิปัสสนาเชมเย เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่ากับพระปรมาจารย์ อู ชะนะกาภิวังสะ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เป็นเวลา ๑ ปี ๖ เดือน
การปฏิบัติงาน
๑. งานการบริหาร
พ.ศ. ๒๕๔๒–๒๕๔๕ ปฏิบัติหน้าที่เจ้าสำนัก วิปัสสนาวิเวกอาศรมรวมถึงเป็นอาจารย์สอนการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน แก่พระสงฆ์และฆราวาสที่เข้าปฏิบัติ โดยตลอด
๒. งานการสอน
พ.ศ. ๒๕๔๖-ปัจจุบัน เป็นพระวิปัสสนาจารย์ประจำศูนย์วิปัสสนายุวพุทธิกสมาคม แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และสถานที่ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง
๓. งานด้านวิชาการ
- แต่งหนังสือแนะนำการปฏิบัติธรรมและหนังสือธรรมต่างๆ ที่เป็นคติเตือนใจ
- จัดพิมพ์หนังสือหลายเล่มที่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม คือ
๑. คู่มือการเจริญสติปัฏฐาน ๔
๒.ธรรมบรรยายภาคปฏิบัติ
๓.ธรรมบรรยายหลายรส
๔. วิธีตอบแทนพระคุณพ่อแม่
ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่ วัดภัททันตะอาสภาราม
๑๑๘/๑ หมู่ ๑ บ้านหนองปรือ ต.หนองไผ่แก้ว
อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ๒๐๒๒๐
Webiste : www.Sati99.com
ทั้งนี้ พระอาจารย์พระครูปลัดประจากมีศูนย์ปฎิบัติธรรม ตาณัง เลนัง เฉลิมราช ๖๐ ปี อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ,
พระอาจารย์พระสว่าง มีศูนย์ปฏิบัติธรรม ติกขวราราม บ้านคลองสะท้อน ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
ศิษย์ขอนอบน้อมกราบขอบพระคุณในเมตตาของพระอาจารย์ ทั้งสามรูป โดยขอก้มกราบลง ณ เบื้องนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น