วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดเทศน์มหาชาติ จบในวันเดียว
นอกจากนี้ยุวพุทธได้จัดพิมพ์หนังสือของคุณแม่ สุรีย์ มีผลกิจ แต่เปลี่ยนรูปเป็นงานของครูเหม เวชกร
พิธีชาดกเทศนามาชาติ มีปรากฎอยู่ในพระราชนิพนธ์ มหาชาติคำหลวงในสมัยพระเจ้าทรงธรรมแห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งยังสวดอยู่ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเวลาเข้าพรรษา และปรากฎอยู่ในเรื่องขุนช้างขุนแผนว่าด้วยสามเณรแก้วขึ้นเทศน์กัณฑ์มัทรี
ประเพณีมีเทศน์มหาชาติ
เป็นทานมัยกุศลที่นิยมในเมืองไทย ผู้นับถือพระพุทธศาสนาที่ชอบบำเพ็ญกุศลบริจาคทานในขบวนเทศน์มหาชาติ มีเครื่องส่อ ๓ ประการ
๑. เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธวจนะ ซึ่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสประทาน เทศนาแก่พระภิกษุสงฆ์ พุทธบริษัทนิโครธาราม ในกรุงกบิลพัสดุ์ก็แลบรรดาพระพุทธวจนะ ทั้งหลาย เมื่อผู้ใดสดับย่อมเกิดสิริสวัสดิมงคล เป็นกุศลราศี
๒. เชื่อกันว่าผู้ใดปรารถนาจะใคร่ประสบพระศาสนาของพระศรีอริยะเมตไตรย ซึ่งนิยมกันว่าจะเป็นการที่มนุษย์มีความเจริญเกษมสุขยิ่งยวด บุคคลผู้นั้นสดับตรับฟังเวสสันดรชาดกอันประดับด้วยคาถาถึงพัน ในวันและราตรีเดียวให้จบและบูชาด้วย ประทีปธูปเทียนธงฉัตรสารพัดดอกไม้ ดอกบัว ดอกอุบลจงกลนี ราชพฤกษ์ ดอกผักตบ ให้ครบจำนวนถ้วนสิ่งละพัน ผลอานิสงส์นั้น จะชักนำให้สมมโนรถจำนง ฉะนี้
๓. มหาชาตินี้ ท่านผู้เทศนาก็สำแดงกระแสเสียงเป็นทำนองอันไพเราะต่าง ๆ ทั้งที่สมาคมก็ครึกครื้น เกิดปิติโสมนัสรื่นเริงบันเทิงใจ ได้ทันใจบริเวณที่มีเทศน์
มหาชาติจะต้องมีพิณพาทย์จบกัณฑ์หนึ่งก็มีเพลงประจำกัณฑ์ ตามเค้าเรื่องในกัณฑ์นั้นๆ เช่น จบกัณฑ์ทศพร ซึ่งพระอินทร์ให้พรพระผุสตี พิณพาทย์ก็ตีเพลง สาธุการ เหมือนธรรมเทียบ ตีฆ้องชัยระหว่างสวดมนต์เย็นก็มี ทางที่ก็ประดับประดาครึกครื้นรุ่งโรจน์ด้วย แสงเทียน ธูปหอมรื่นชื่นชูใจ ทำนองพระเทศน์ ไพเราะจับใจ เสียงพิณพาทย์ประโคมสนั่น บางแห่งมีเทศน์เป็น ๒ – ๓ วัน หรือแบ่งมีแต่บางกัณฑ์ บางวัน ก็มี แต่อย่างที่ตั้งพิธี ที่จะให้ได้รับผลอานิสงส์สมบูรณ์ตามที่เชื่อดังกล่าวย่อมมีในวันเดียวครบ ๑๓ กัณฑ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น