พระเจ้าอโศกมหาราช มีความเลื่อมใสในพระพุุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง วันหนึ่งพระราชาทรงถวายมหาทานที่อโศการาม ตรัสถามปัญหาท่ามกลางพระภิกษุสงฆ์ว่า
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ชื่อว่าพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว มีประมาณเท่าใด
พระสงฆ์ถวายพระพรว่า
มหาบพิตร ชื่อว่าพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงแล้วมี ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์
พระราชาเมื่อทราบว่า พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้ามี ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ทรงรับสั่งว่า เราจักบูชาพระธรรมขันธ์แต่ละขันธ์ ด้วยวิหารแต่ละหลัง
จึงโปรดให้สร้างวิหารและเจดีย์ไว้ในนครต่าง ๆ จนครบ ๘๔๐๐๐ แห่งทั่วชมภูทวีป
ส่วนพระองค์เองทรงสร้างมหาวิหารในเมืองปาฏาลีบุตรชื่อ อโศการาม โดยมีพระอินทคุตตเถระ ผู้มีฤิทธิ์มากมีอานุภาพมากสิ้นอาสวะแล้วเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง พระเถระได้ดูแลการก่อสร้างให้สำเร็จภายใน ๓ ปี
เมื่อวิหารสร้างเสร็จแล้ว พระราชาตรัสถามภิกษุสงฆ์ว่า โยมให้สร้างวิหาร ๘๔๐๐๐ วิหารแล้ว จักได้บรมธาตุจากไหนเล่า
ภิกษุสงฆ์ทูลว่า
ถวายพระพร พวกอาตมภาพได้ฟังมาว่า สถานที่เก็บพระบรมธาตุมีอยู่ในกรุงราชคฤห์นี้ แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน
พระราชาจึงรับสั่งให้รื้อพระเจดีย์ในกรุงราชคฤห์ ก็ไม่พบ ทรงให้ทำเจดีย์คืนดีอย่างเดิมแล้ว ทรงพาบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ไปยังกรุงเวสาลี แม้ในที่นั้นก็หามิได้ เสด็จไปยังกรุงกบิลพัสดุ์ ไปยังเมืองปาวา เมืองกุสินารา เมืองอัลงกัปปะ เวฏฐทีปะ
ในที่ทุกแห่งที่เสด็จไป รื้อเจดีย์แล้วก็ไม่ได้พระบรมธาตุเลย
จากนั้นเสด็จไปยังรามคาม เหล่านาคในรามคามไม่ยอมให้รื้อพระเจดีย์ของตน ครั้นทำเจดีย์เหล่านั้นให้คืนดีดังเดิมแล้วก็เสด็จกลับไปยังกรุงราชคฤห์
ขอขอบคุณข้อมูลจากพระพุทธกิจ ๔๕ พรรษา สุรีย์ มีผลกิจ-วิเชียร มีผลกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น