วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

เดินเท้าเปล่าเข้าโรงเรียน 1








เยอบีร่าพันธุ์ใหม่ในสมัยปัจจุบัน

การเดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดผาณิตาราม พวกเราเดินด้วยเท้าเปล่า ทั้งคุณครูและนักเรียนอื่น ๆ ก็เช่นกัน เราเดินลงจากบ้านทางบันไดด้านหลังเรือนครัวซึ่งแยกคนละหลังกับตัวบ้าน(สามหลัง) (ต่อมายายขาปลูกครัวใหม่ยกพื้นให้สูงขึ้นมีต้นยี่โถสีชมพูอยู่เชิงบันได) ผ่านโรงฟืนสองสามโรงและแปลงค้างใบพลู มีกอมะลิซ้อนกอใหญ่แน่นทึบยาวประมาณสองเมตร (ตั้งแต่จำความได้พลอยโพยมก็เห็นต้นมะลิซ้อนกอนี้แล้ว) เดินไปสู่ท้ายสวนของตัวเอง สุดเขตสวนมีต้นตาลสองต้นและมีลำรางทางน้ำขุดคั่นระหว่างที่สวนและที่นาริมลำรางเป็นแนวต้นสะแก เปิดช่องทางโล่งเดินชิดด้านริมคลองศาลเจ้าออกไปสู่ท้องนา ที่หน้าบ้านพี่อุทัยวรรณเป็นทางสองแพร่งให้เลือก หากข้ามสะพานข้ามคลองไปฝั่งบ้านพี่ทัย ก็จะมีดอกไม้ทั้งสวยและหอมให้ดอมดมและชมเพลิน ๆ มีแปลงเยอบีร่าหลากสีที่หน้าบ้าน




มีกอเข็มสีชมพูกอใหญ่ ตัดเป็นพุ่ม 2 กอ ออกดอกสดสวยทั้งปี คู่กับสายหยุดสองต้นส่งกลิ่นหอมรวยรินอยู่ที่บันไดขึ้นบ้าน โดยมีเข็มสีชมพูปลูกซ้ายขวาตีนบันได และ มีต้นสายหยุดปลูกซ้ายขวาชิดบันไดขั้นบนสุดส่งกลิ่นระรวยรื่นหอมชื่นหทัยในรอบเช้า

กอต้นเข็มชมพูที่บ้านพี่ทัย ทั้งสูงและใหญ่ประมาณ สองเท่าของภาพตัวอย่างข้างบนนี้รวมทั้งดอกที่ออกสะพรั่งสีชมพูอะร้าอร่ามงามตาทั้งปี
 


เราต้องเลี้ยวขวาข้างถังน้ำปูนกลมสูงใหญ่ใช้เก็บน้ำฝนก่อนถึงบันไดบ้าน เดินข้ามคลองเล็กอีกครั้ง คลองนี้ขุดต่อมาจากคลองใหญ่(คลองศาลเจ้า) อ้อมมาเป็นที่เก็บเรือนั่นเอง มีไม้แผ่นกระดานทอดข้ามระหว่างสองฝั่งและไปสู่สวน มีต้นนมแมวปลูกอิงโคนต้นไม้ใหญ่ที่จำไม่ได้ว่าเป็นต้นอะไรอยู่อีกฝั่ง กลิ่นดอกนมแมวหอมเย็นเย้ายวนให้ต้องหยุดหาดอกที่ส่งกลิ่นโชยชื่นใจ เส้นทางนี้เป็นการเดินที่ที่ชิดตัวบ้านพี่ทัยมาก ๆ ก่อนออกสู่สวน สุดสวนเป็นบ่อเลี้ยงปลาดุก มีลุงจ้อยเป็นผู้ดูแลมีเรือนพักใกล้บ่อเลี้ยงปลา เดินพ้นเขตก็จะเจอบ้านเจ้ลุ้ย ทิดสม อยู่ไม่ไกลกับสวนกำนันสนั่น กัญจนา (ปัจจุบันทายาทของกำนันสนั่นทำโฮมเสตต์ ชื่อ เรือนลำพูรีสอร์ท อยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง) อยู่ด้านซ้ายมือ บ้านกำนันสนั่นปลูกมันแกวด้วย ซึ่งสวนอื่นๆ รวมทั้งที่บ้านพลอยโพยมก็ไม่มีปลูก ( จึงเป็นที่หมายปองของเด็ก ๆ อีกเช่นกัน) มีท้องนาคั่นด้านขวามือ วกกลับมาทางคลองศาลเจ้ามีแปลงอ้อยขาไก่ของป้าเชื่อม (แม่ลุงช้อยลูกนาอีกคนของยายขา) ป้าเชื่อมเช่าที่ทำสวนเล็ก ๆ จากบ้านพี่ทัยมีบ้านอยู่ริมคลองศาลเจ้า








ปกติดอกนมแมวจะคว่ำดอกลงไม่หงายดอกขึ้นอย่างในภาพ

เส้นทางนี้มีทุ่งนาขวางอยู่ซอยเป็นแปลงไม่ใหญ่นักสองสามแปลง จะมีควายหลายตัวปล่อยไว้ให้หาหญ้ากินในท้องนาในช่วงที่ไม่มีต้นข้าว เมื่อเดินข้ามไปอีกด้านของท้องนาโดยเดินตามคันนาจะมีคันนาค่อนข้างกว้าง (ซึ่งบอกลักษณะว่าเป็นคันแบ่งเขตที่นา) เป็นทางไปสู่หมู่เรือกสวนอีกหลายขนัดที่สำคัญคันนาด้านนี้จะเป็นบริเวณที่ควายบางตัวตีแปลงสบาย ๆ ในปลักควาย ดังนั้นในบางครั้งที่มีลมพายุมาแรงจัดจนเด็ก ๆ อย่างพลอยโพยมเซถลาเสียหลักจากคันนาลงไปในริม ๆขอบของปลักควายก็มีบ่อย ๆ โชคดีที่เจ้าของพื้นที่ลุกกลับเข้าที่อยู่ถาวรไปก่อนหน้าแล้ว
และยังมีบ่อยครั้งควายก็ทะเลาะกันส่งเสียงคำราม มอ มอ เสีบงดังและหนักแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ ควายก่อนแล้วจึงหันหน้าเข้าหากันต่างตัวต่างก้มหัวลงเอาเขาขวิดกัน ตัวที่สู้ไม่ได้ก็วิ่งหนี ตัวชนะก็วิ่งไล่ตามเมื่อไล่ไปทันกันก็หันหน้าเอาเขาขวิดกันอีกรอบ เด็ก ๆ ก็พากันขวัญกระเจิง อกใจไหวหวั่นสั่นระรัวกับการวิ่งไล่ของเจ้ากาสร หรือบางทีกระบือบางตัวก็ส่งสายตามองเบิ่งมาที่เด็ก ๆ



เป็นที่บอกกล่าวเล่ากันว่า กาสร ไม่ชอบสีแดงเอามาก ๆ หากใช้คำว่าเกลียดมากก็คงได้ หากมีสีแดง ๆ ให้เห็น กาสรจะแสดงอาการฮึดฮัดขัดใจ จ้องเบิ่งมองมาสายตาเขม็ง ดังนั้นดอกไม้สีแดงเจิดจ้าอย่างดอกเข็มเศรษฐี และชบาสีแดงข้างล่างนี้ห้ามถือเดินไปใกล้รัศมีสายตากาสรเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นจะต้องทิ้งดอกไม้แล้ววิงหนีเอาตัวรอดให้ปลอดภัย




ภาพนี้มีกาสรนอนตีแปลงสบายอารมณ์สมใจควายอยู่ในแอ่งโคลน หนึ่งตัว

ตีแปลงหมายถึง ทำดินโคคนให้เป็นแอ่งสำหรับนอนเกลือกสำหรับควายหรือหมู
ส่วนปลักหมายถึงแอ่งที่เป็นโคลนเลนเช่นปลักควาย
กาสร และกระบือก็ คือควายนั่นเอง




ขอขอบคุณภาพจาก http://webboard.serithai.net/topic/109

การเดินออกจากสวนเจ้ลุยตัดตรงข้ามท้องนา (เดินบนคันนา) สุดผืนนาเลี้ยวขวา เดินสุดคันนานี้จะเป็นหัวโค้งเริ่มต้นขนัดสวนโดยเลี้ยวซ้ายพบสวนบ้านลุงปั่นเป็นบ้านสวนขนัดแรก อยู๋ตรงข้ามกับสวนตาจิต จากนั้นก็จะผ่านสวนอีกหลายขนัด มากมายด้วยผลไม้ต้นไม้ในแต่ละสวนเช่น ถัดสวนลุงปั่นเป็นสวนยายเฮียง สวนป้านอม สวนยายเส่งจนถึงสวนคุณครูบุญยง หิ้งทอง (สอนโรงเรียนวัดผาฯ) ซึ่งสามีเป็นคุณครูโรงเรียนวัดบางกรูดชื่อคุณครูเริ่ม(สุทัศน์ หิ้งมอง)ต้องข้ามคลองอีกครั้ง ขวามือเป็นสวนหมอหลี่ ซ้ายมือคือสวนบ้านกำนั้นเตี้ย สวนยายหวัง สวนคุณครูภา สวนจ่าเลิศ สวนน้าสุวรรณ สวนคุณครูรัตนศรี สวนลุงกี่ สวนหมอสม ข้ามคลองเล็กอีกคลอง เป็นแนวป่าสะแกบริเวณของวัด ถัดป่าสะแกเป็นแนวเจดีย์ที่สร้างบรรจุอัฐิบรรพบุรุษ ถัดจากแนวเจดีย์ คือพระอุโบสถของวัด
ก่อนถึงบริเวณโรงเรียน ทุกบ้านทุกสวนจะมีน้องหมากันบ้านละหลาย ๆ ตัว ถ้าเราไม่เดินไปใกล้ตัวบ้าน น้องหมาทั้งหลายก็ไม่สนใจพวกเราเลย ส่วนใหญ่พวกเราจะเดินบริเวณที่เป็นปลายสวนของแต่ละส่วนนั่นเอง เส้นทางเดินด้านนี้จะไปทะลุแนวป่าสะแก ก่่อนเข้าสู่บริเวณพระอุโบสถของวัด


ในสมัยนั้นตามบ้านเรือนไม่มีการเทลูกรังหรือหืนคลุกอย่างในภาพ ทั่วทุกพื้นที่มีแต่ดินและโคลนเท่านั้น

การเดินไปโรงเรียนแต่ละเส้นทางเราก็จะพบทั้งเด็กนักเรียนอื่น ๆ และคุณครูที่ใช้การเดินเท้าไปโรงเรียนเหมือนพวกเรา และจะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางคนละชุดกันกับการเดินทางเส้นทางถนนคันดินยกสูงของอีกเส้นทางหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น