วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

หลงทิวทุ่งตระการ 3











ปอทะเล เหรับ กับแสงจ้า
ตระการตา มาลี สีเสริมสร้าง
เหลือบริ้วส้ม สวยสด สุดสะอาง
งามสล้าง ข้างแนว แถวโรงเรียน






สองทางเดิน ด้นนา หรือว่าสวน
นานั้นควร คิดตรอง ของแปรเปลี่ยน
ทุ่งสะแก แลรก ทั้งวกเวียน
หัวใจเจียน จวนลุ่ย ทุยเขาเก


ต้นสะแก



มีอยู่ทั่ว บัวผัน นั่นบัวเผื่อน
บัวสายเยือน แย้มบาน ขานสรวลเส
กะทกรก ปรกอยู่ ดูปนเป
ขึ้นรายเร่ ไมยราบ แทรกทาบไป


บัวผันพันธุ์ผสม

บัวเผื่อน

บัวเผื่อน

บัวสาย

บัวสาย

กะทกรก

ไมยราบ



ชำมะเลียง เคียงไม้ ต้นใหญ่หน่อย
เป็นพวงย้อย ห้อยล่อ เก็บพอไหว
ลูกหว้ามี สีดำ สูงล้ำไกล
ทอดถอนใจ ไม่ถึง จึงหมางเมิน


ชำมะเลียง

ชำมะเลียง



ลูกหว้า



วรุณโรย โปรยปราย ปลิวสายฝน
เด็กทุกคน บ่นเบื่อ เมื่อเดินเหิน
นอกจากลื่น ล้มเปรอะ เลอะเหลือเกิน
ยังเผชิญ ชวนหวั่น ฟ้าลั่นมา




การไถนา

ชาวนาได้ ไถคราด ตามมาดหมาย
พร้อมสหาย ควายทุย ลุยนักหนา
เสียงฮึย ฮึย หวนลั่น สนั่นนา
ควายอยู่หน้า นำคน ด้นดะแปร


การคราดนา

การไถนายุคปัจจุบัน

บัวผัน ( CAPE WATERLILY)
เป็นบัวพื้นเมืองที่มีมานาน แยกออกไปได้อีกหลายพันธุ์ แล้วตั้งชื่อตามแหล่งที่พบ ถิ่นกำเนิดเดิมคือ ประเทศแอฟริกาใต้
ดอกตูม ค่อนข้างป้อม ดอกมีกลิ่นหอม


บัวเผื่อน (BOA PHOUN)


เป็นบัวพันธุ์พื้นเมืองของไทย ซึ่งอยู่ในสกุลเดียวกับ บัวผัน แต่มีลำต้นและดอกเล็กกว่า
พบในน้ำตื้นทางภาคกลางและภาคใต้ของไทย ชื่อบัวเผื่อนนี้ใช้เรียกกันมานาน โดยอาจเนื่องมาจากคนสมัยก่อนคงสังเกตุเห็นสีของดอกบัวมีสีดอกเผื่อนระหว่าง สีขาว คราม และชมพูอ่อน บานเป็นเวลา 3 วัน ในช่วงเวลาเช้าถึงเย็น กลีบดอกเปลี่ยนสีได้ เมื่อบานวันแรกเป็นสีขาว แล้วค่อยๆมีสีเหลือบชมพูอ่อนที่ปลายกลีบ และเปลี่ยนเป็นสีชมพูเหลือบครามในวันสุดท้าย
ดอกไม่มีกลิ่นหอม
ลักษณะ ดอกตูมยาว ในขณะที่ดอกบัวผัน ดอกตูมค่อนข้างป้อม บัวเผื่อนดอกเล็กกว่าดอกบัวผัน


บัวสาย
อุบลชาติล้มลุกชื่อสัตบรรณ หรือบัวแดง (Nymphaea Rubra)
เป็นบัวสายพันธุ์แท้พื้นเมืองของประเทศไทย


เชิญย้อนไปอ่านเรื่องราวของดอกบัวผัน บัวเผื่อน และบัวสายได้จากบทความเก่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553
เรื่อง'The graceful of Lotus' บัวงาม.....ยามตะวันฉาย Photo by Amorn Tun.
บัวงาม.....ยามตะวันฉาย....
พออรุณฉาย บัวก็งามเฉิดฉัน
http://bangkrod.blogspot.com/2010/08/graceful-of-lotus-photo-by-amorn-tun.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น