วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อดีตชาติพระอานนท์ ๔ ในมหานารทกัสสปชาดก ๑

อดีตชาติของพระอานนท์



ขอขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย

ง. เคยเป็นหญิงก็มี เช่น ในมหานารทกัสสปชาดก

ในธรรมปทัฏฐกถา เล่าไว้ว่า
พระอานนท์เคยเกิดเป็นหญิงบาทบริจาริกาของชายอื่นอยู่ถึง ๑๔ ชาติ
ทั้งนี้ เพราะชาติก่อนหน้านั้น ท่านได้เกิดในตระกูลช่างทอง แล้วทำชู้กับภริยาของชายอื่น
ครั้นตายจากนั้นไปเกิดในนรก จากนั้นจึงไปเกิดเป็นหญิง ถึง ๑๔ ชาติ และในชาติที่ ๑๗ ท่านถูกเขาตอน

ขอขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.dharma-gateway.com/monk/great_monk/pra-anon-04.htm




ในมหานารทกัสสปชาดก
พระอานนท์เกิดเป็นพระนางรุจาราชธิดาพระมหากษัตริย์ทรงพระนามว่าอังคต เป็นพระราชาของชนชาววิเทหรัฐ
ความโดยละเอียดปรากฏอยู่ใน
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๘ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๐
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๒

๘. มหานารทกัสสปชาดก
พระมหานารทกัสสปะ ทรงบำเพ็ญอุเบกขาบารมี

พระมหากษัตริย์ทรงพระนามว่าอังคต เป็นพระราชาของชนชาววิเทหรัฐ
ทรงมีพระราชยาน พระราชทรัพย์มากมาย ทรงมีพลนิกายเหลือที่จะนับ
ก็คืนหนึ่งในวันเพ็ญกลางเดือน ๑๒ ขณะปฐมยาม พระองค์ประชุมเหล่า อำมาตย์ราชบัณฑิต ผู้ถึงพร้อมด้วยการศึกษาเล่าเรียน เฉลียวฉลาด ผู้ที่ทรงเคยรู้จัก ทั้งอำมาตย์ผู้ใหญ่อีก ๓ นาย คือ
วิชยอำมาตย์ ๑
สุนามอำมาตย์ ๑
อลาตอำมาตย์ ๑
แล้วตรัสถามตามลำดับว่า ท่านทั้งหลายจงกล่าวไปตามความพอใจของตน ๆ ว่า ในวันเพ็ญเดือน ๑๒ เช่นนี้ พระจันทร์แจ่มกระจ่าง กลางคืนวันนี้ เราทั้งหลายพึงยังฤดูเช่นนี้ ให้เป็นไปด้วยความยินดีอะไร.




ลำดับนั้น อลาตเสนาบดีได้กราบทูลแด่พระราชาว่า
ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พึงจัดพลช้าง พลม้า พลเสนา จะนำชายฉกรรจ์ ออกรบ พวกใดยังไม่มาสู่อำนาจ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายก็จะนำมาสู่อำนาจ นี่เป็นความเห็นของข้าพระพุทธเจ้า เราทั้งหลายจะได้ชัยชนะ ผู้ที่เรายังไม่ชนะ
 (ขอเดชะ ขอพระองค์จงทรงรื่นรมย์ด้วยการรบ นี้เป็นเพียงความคิดของข้าพระพุทธเจ้า).

สุนามอำมาตย์ได้ฟังคำของอลาตเสนาบดีแล้ว ได้กราบทูลว่า
ข้าแต่พระมหาราชา พวกศัตรูของพระองค์มาสู่พระราชอำนาจหมดแล้ว ต่างพากันวางศาตรา ยอมสวามิภักดิ์แล้วทั้งหมด วันนี้เป็นวันมหรสพสนุกสนานยิ่ง การรบข้าพระพุทธเจ้าไม่ชอบใจ ชนทั้งหลายจงรีบนำข้าวน้ำ และของควรเคี้ยวมาเพื่อพระองค์เถิด ขอเดชะ ขอพระองค์จงทรงรื่นรมย์ ด้วยกามคุณ และในการฟ้อนรำขับร้องการประโคมเถิดพระเจ้าข้า.

วิชัยอำมาตย์ได้ฟังคำของสุนามอำมาตย์แล้วได้กราบทูลว่า
ข้าแต่พระมหาราชา กามคุณทุกอย่างบำเรอพระองค์อยู่เป็นนิตย์แล้ว การทรงเพลิดเพลินด้วยกามคุณทั้งหลาย พระองค์ทรงหาได้โดยไม่ยากเลย ทรงปรารถนาก็ได้ทุกเมื่อ การรื่นรมย์กามคุณทั้งหลายนี้ ไม่ใช่เป็นความคิดของข้าพระบาท วันนี้ เราทั้งหลายควรพากันไปหาสมณะหรือพราหมณ์ผู้เป็นพหูสูต รู้แจ้งอรรถธรรม ผู้แสวงหาคุณ ซึ่งท่านจะพึงกำจัดความ สงสัยของพวกเราดีกว่า.

พระเจ้าอังคติราชได้ทรงสดับคำของวิชัยอำมาตย์แล้ว ได้ตรัสว่า
ตามที่วิชัยอำมาตย์พูดว่า วันนี้ เราทั้งหลายควรพากันเข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์ผู้เป็นพหูสูต รู้แจ้งอรรถธรรม ผู้แสวงหาคุณ ซึ่งท่านจะพึงกำจัดความสงสัยของพวกเราดีกว่านั้น แม้เราก็ชอบใจ ท่านที่อยู่ ณ ที่นีทุกท่านจงลงมติว่า วันนี้ เราทั้งหลายควรจะเข้าไปหาใครผู้เป็นบัณฑิต รู้แจ้งอรรถธรรม ผู้แสวงหาคุณซึ่งท่านพึงกำจัดความสงสัยของพวกเราได้.




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://84000.org/tipitaka/atita/s.php?B=28&A=5180&Z=5625#863

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น