วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

[นิทานเรื่องเล่า]...นิทานสายลม...


...นิทานสายลม...
กาลครั้งหนึ่งนานมา...ตั้งแต่สมัยที่ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกสีฟ้าๆ เขียวๆ ใบนี้ ยังใช้ภาษาเดียวกัน...มีสายลมพัดแกว่งไกวอยู่ 4 สาย ทั้งสี่เป็นพี่น้องกัน ....

ลมเหนือ เป็นพี่คนโต...เขาเป็นสายลมเยือกเย็น ดุจเดียวกับอารมณ์ของเขา เมื่อเขาพัดพาไปทางใด ที่แห่งนั้นจะได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นแต่ก็แสนสดชื่น ในบางคราวที่ลมเหนืออารมณ์ดีมากๆ หิมะที่เขาหอบมาด้วย ก็จะโปรยปรายเป็นเกล็ดสีขาว เบาบางลงมา
เปลี่ยนสีสันของโลกเบื้องล่างให้เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ที่งามราวกับสวรรค์

...ลมเหนือไม่เคยทำให้อากาศหนาวเย็นมากเกินไปหรือปล่อยให้หิมะตกลงมามากนัก เพราะเขาไม่อยากเห็นเด็กๆ และสัตว์ทั้งหลายข้างล่างต้องหดหู่อยู่แต่ในที่พัก เขาไม่ชอบเลย หากต้นไม้ดอกไม้จะต้องเ่ยวเฉาเพราะความหนาวเย็นที่มากจนทนไม่ไหว
เขาจึงควบคุมตนเองได้ดีเสมอ สมกับเป็นพี่คนโต...


ลมใต้ พี่คนรอง... เธอร่าเริงสดใส ยิ้มแย้มและเบิกบานอยู่เป็นนิจ เมื่อลมใต้ออกท่องเที่ยว เธอมักจะนำกลิ่นเย็นฉ่ำของสายฝน
กลิ่นหอมหวานของผลไม้,ดอกไม้ในป่าดงดิบ และกลิ่นของทะเลไปด้วยเสมอ เมื่อเธอผ่านไปทางใด ไม่ว่าผู้คน สัตว์ ต้นไม้หรือดอกไม้ ต่างก็เบิกบานและร่าเริงไปกับเธอด้วย... เธอชักชวนให้พวกเขาเต้นรำ ร้องเพลง ยิ้มแย้มและหัวเราะให้กว้างที่สุดเท่าที่เคยหัวเราะมา...


ลมตะวันตก น้องคนที่สาม... มีรูปร่างใหญ่โต และแข็งแรงที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสี่...ยามเขาบ่ายหน้าไปทางใด สายลมแรงก็จะติดตามไปกับเขา ต้นไม้ในท้องทุ่งลู่เอียงไปตามแรงพัดพา เขาพัดเอากระเบื้องบนหลังคากระท่อมหลุดลอยไป...

เมื่อลมเหนือพี่ใหญ่รู้เข้า ก็มักจะดุเอา...แต่เขาก็บอกว่า เขาทำเพื่อให้ผู้คนรู้ต่างหาก ว่าหลังคาตรงไหนควรซ่อมแซมได้แล้ว...แม้เด็กๆ ส่วนใหญ่จะกลัวลมตะวันตก (เพราะไม่เคยพูดกับเขาได้ทันสักที)...แต่ผู้ใหญ่ก็รู้ว่า ลมตะวันตกช่วยให้เด็กๆ เชื่อฟังและระมัดระวังตัว ไม่เล่นซนจนเป็นอันตรายแก่ตัวเอง (เนื่องจาก สิ่งอื่นๆ บนโลกใบนี้ อาจไม่ใจดีแบบลมพี่น้องทั้งสี่ก็ได้)...


ลมตะวันออก น้องสุดท้อง... เขาเป็นสายลมที่แสนจะอ่อนโยน ยามเมื่อพระอาทิตย์สาดแสงร้อนแรงเกินไป เขาจะพาเอาความเย็นชื่นมาไล้อยู่ข้างกายของผู้คนที่เหน็ดเหนื่อยกลางเปลวแดดแตะแผ่ว ๆ บนแก้มเด็กน้อยที่วิ่งเล่นจนเหนื่อยและหลับไหลใต้ต้น ไม้ใหญ่

ลมตะวันออกชอบแวะคุยกับต้นไม้ดอกไม้ ผู้คนและส่ำสัตว์ตามทางที่เขาพัดผ่าน...บางครั้ง เขาได้ฟังเรื่องราวการผจญภัยของเหล่านกที่ย้ายถิ่นฐานในฤดูหนาว... บางครั้ง ตัวตุ่นก็เล่าให้เขาฟังถึงสิ่งต่างๆ ใต้พื้นดินที่เขาไม่เคยเห็น...เขาจึงมักมีเรื่องราวต่างๆ นานามาเล่าให้พี่ทั้งสาม และเพื่อนๆ ฟังอยู่เสมอ...พี่ทั้งสามรักและเอ็นดูลมตะวันออกมาก...และไม่ว่าใครที่ได้พบเขา ก็มักจะอดรักเขาไม่ได้เลย...


วันหนึ่งขณะที่ลมเหนือกลับเข้ามาในบ้าน...

เขาก็เรียกให้น้องรอง-ลมใต้ นั่งลง ก่อนที่เธอจะออกไปท่องเที่ยวตามปกติ เขาเล่าให้น้องๆ ทั้งสามคนฟังว่า
"ได้พบกับดอกไม้ดอกหนึ่งในป่าใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของพวกเขา ดอกไม้ดอกนั้นดูท่าทางเศร้าโศกท่าทางไม่มีแก่ใจจะต้านทานลมหนาว (ที่หนาวเพียงนิดเดียว) เลยแม้สักนิด"

...ลมเหนือผ่อนสายลมลง แล้วเข้าไปถามดอกไม้ดอกนั้นว่า "ทำไมจึงได้โศกเศร้าเช่นนี้"

แต่ดอกไม้ก็ไม่ยอมตอบ แม้ว่าลมเหนือเพียรถามสักเท่าใดก็ตาม

ในที่สุด ลมเหนือจึงจากมา....


...ลมใต้ถามพี่ชายว่า "พี่รู้หรือไม่ ดอกไม้ดอกนั้นสีอะไร หากน้องผ่านไปทางนั้น ความร่าเริงของน้องอาจช่วยเขาได้ "

"พี่ไม่อาจรู้ได้เพราะตอนนั้น สีขาวของหิมะได้ปกคลุมกลีบดอกของเขาจนหมดแล้ว แต่พี่จำได้ว่าเขาอยู่ที่ริมธารน้ำเล็กๆ ข้างป่าสน" ลมเหนือตอบ...

ลมใต้จึงเตรียมตัวออกท่องเที่ยว พร้อมกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า "งั้นน้องจะพยายามหาเขาให้เจอ" แล้วลมใต้ก็ออกจากบ้านไป

ขณะที่ลมเหนือ ผู้ซึ่งเหน็ดเหนื่อยกับการท่องเที่ยวอันยาวนาน กำลังเตรียมตัวพักผ่อน และลมตะวันตก เริ่มจัดเสื้อผ้าพร้อมสิ่งที่จะนำติดตัวไปด้วยระหว่างเดินทางเมื่อลมใต้กลับมา





ส่วนลมตะวันออกก็เริ่มครุ่นคิดเกี่ยวกับดอกไม้ดอกนั้น...ทั้งสงสัยว่าความทุกข์ที่ดอกไม้ได้พบมากมายเพียงใดและเกิดจากเหตุใด
ลมตะวันออกได้แต่เฝ้ารอให้ถึงเวลาที่ตนเองจะออกเดินทางบ้าง เขาตั้งใจว่าต้องหาดอกไม้ดอกนี้ให้เจอและพูดคุยกับดอกไม้ให้ได้

ในที่สุดลมใต้ก็กลับมา...และเล่าให้พี่น้องฟังว่าเธอได้พบดอกไม้ดอกนั้นแล้ว เมื่อหิมะละลายออกไปหมด เธอได้พบว่าดอกไม้ดอกนั้นเป็นสีฟ้า...เธอร้องเพลงและเต้นรำไปรอบตัวเขา...เธอชักชวนแมกไม้รอบๆ ให้เต้นรำไปด้วย...แต่ดอกไม้สีฟ้ากลับนิ่งเฉย ราวกับไม่เหลือความรู้สึกใดๆ อีกแล้ว...

เมื่อลมใต้เล่าจบ...ลมตะวันตกก็ออกไปพร้อมประตูปิดเสียงดังลั่นด้วยความแข็งแรงของเขา ลมตะวันออกถามลมใต้ขณะที่เธอกำลังจะมุดเข้าไปในผ้าห่มอุ่น ๆ ว่า "ดอกไม้สีฟ้าไม่สนใจสิ่งใดเลยหรือพี่ ?"

"ใช่...แม้เมื่อพี่ร้องเพลงที่ทำให้ป่าทั้งป่าเต้นรำ ใบของเขาก็ยังไม่กระดิกเลย " ลมใต้ตอบพร้อมกับอ้าปากหาวไปด้วย

ไม่นานนักลมตะวันตกก็กลับมา...ลมตะวันออกถามพี่ชายก่อนที่ตนเองจะออกเดินทางว่าได้พบดอกไม้สีฟ้าหรือไม่

"ข้าไม่ได้ผ่านไปทางนั้น เพราะข้ากลัวว่าความรุนแรงของข้าจะทำให้ดอกไม้ที่น่าสงสารนั่นถอนรากออกมา " แล้วลมตะวันตกก็เดินเข้าบ้านไป

ลมตะวันออกขยับหมวกของเขาให้เข้าที่แล้วก็มุ่งหน้าไปยังป่าใหญ่ที่ดอกไม้สีฟ้าอยู่ทันที เขาเลาะเลียบริมธารน้ำไป...จนในที่สุดเขาก็ได้พบดอกไม้สีฟ้า

ดอกไม้ดอกนั้นสีฟ้าจัดจ้าแต่เป็นความจัดจ้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง...ลมตะวันออกนั่งลงข้างดอกไม้ ไม่ได้พูดสิ่งใดนานนับนาน เฝ้าแต่ปลอบโยนดอกไม้ด้วยสายลมแผ่ว ๆ อยู่ตลอดเวลา...


...จนวันหนึ่ง... ลมตะวันออกเอ่ยปากถามดอกไม้เป็นครั้งแรก "ท่านอยู่ที่นี่มานานหรือยัง ?"

ดอกไม้สีฟ้านิ่งเงียบไม่ขยับแม้สักนิด จนเมื่อลมตะวันออกคิดว่าดอกไม้คงไม่ตอบแล้ว

ดอกไม้สีฟ้าก็เอ่ยเสียงแผ่ว ๆ ขึ้นมาว่า "ข้าอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว อาจจะนานเกินไปเสียด้วยซ้ำ"

ลมตะวันออกขยับตัวนั่งอย่างตั้งใจฟังเต็มที่ ดอกไม้สีฟ้าจึงเล่าเรื่องราวของตนเองและเหตุแห่งความเศร้าโศกอันใหญ่หลวงนี้ ดอกไม้มีผู้ซึ่งเป็นที่รักยิ่งกว่าสิ่งใด...แต่เธอจากไปและไม่เคยกลับมาทั้งที่สัญญาไว้ว่าจะกลับมาหาเขาทุกฤดูร้อน...

ดอกไม้เฝ้ารอมานานแสนนาน...จนแทบหมดสิ้นความหวังไปแล้ว แต่ใจส่วนลึก ๆ ก็ยังรอคอยเธอผู้เป็นที่รัก ทั้งที่เธออาจจะมา หรือไม่มาก็ตาม...ดอกไม้บอกว่า "การไม่รู้ถึงการตัดสินใจนั้นแย่ยิ่งกว่าเสียอีก"...

เมื่อลมตะวันออกได้ฟังเรื่องราวของดอกไม้สีฟ้า เขาสงสารดอกไม้มากและอยากจะช่วยตามหาเธอผู้นั้น เขาบอกดอกไม้สีฟ้าว่าเขาจะไปตามหาและเขาจะกลับมาแน่นอน...

ลมตะวันออก...ออกเดินทางจากป่าใหญ่เมื่อพบใครก็ถามถึงเธอผู้นั้น หลายคนเคยเห็นแต่ก็นานมากแล้วจนเขามาพบตัวตุ่นตัวหนึ่งที่ขุดรูอาศัยอยู่ริมหนองน้ำใหญ่

ตัวตุ่นบอกว่า "เธอผู้นั้นถูกราชาคางคกจับไปเพื่อจะให้เธอเป็นราชินีของเขา...แต่ตอนนี้ยังมิได้เข้าพิธีแต่งงาน เพราะนางแมงมุมที่เป็นช่างทอผ้าที่เก่งที่สุดและเป็นผู้ทอชุดเจ้าสาวถวายนั้นได้ลมป่วยลง"

ตัวตุ่นบอกว่า "เขาอยากช่วยเธอ แต่บริวารของราชาคางคกก็เยอะเหลือเกินจนเขาสู้ไม่ได้" ตัวตุ่นจึงบอกให้ลมตะวันออกรู้ว่าวังของราชาคางคกอยู่ที่ไหน

ลมตะวันออกดีใจมากที่ในที่สุดก็ได้ข่าวของเธอผู้นั้น เขาขอบใจตัวตุ่นเป็นการใหญ่ และเร่งรุดไปยังวังของราชาคางคกทันที ถึงจะพูดว่าเป็นวัง แต่ที่จริงแล้วกลับดูเหมือนกองดินขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเศษซากแมลงเขละขละ

...ลมตะวันออกเรียกราชาคางคกออกมาและบอกว่า "เธอผู้นั้นไม่อาจเป็นราชินีของเจ้าได้ เธอมีผู้ที่เธอรักแล้วเจ้าจงไปหาราชินีที่เหมาะสมกับเจ้าเถิด"

ราชาคางคกไม่ยอม เขาสั่งบริวารมากมายให้ล้อมตัวเธอผู้นั้นไว้แต่เมื่อเทียบขนาดแล้ว...ลมตะวันออก (ซึ่งอันที่จริงก็ตัวเล็กที่สุดแล้วในหมู่พี่น้อง) ตัวใหญ่กว่ามากนัก ราชาคางคกไม่รู้จะทำอย่างไรเลยต้องปล่อยตัวเธอผู้นั้นให้ลมตะวันออกไป

ลมตะวันออกให้เธอนั่งอยู่บนฝ่ามือของเขาและโอบเธอไว้อย่างนุ่มนวล แล้วลมตะวันออกก็เร่งไปยังป่าใหญ่ที่ดอกไม้สีฟ้าหยัดยืนอยู่

เมื่อมาถึงป่าใหญ่ ลมตะวันออกค่อยๆ วางเธอผู้นั้นลงบนก้อนหินริมลำธารที่ดอกไม้สีฟ้ายืนอยู่ ดอกไม้หันมาพบเธอ และตะลึงงันไปราวไม่เชื่อว่านี่คือความจริง ทั้งสองจ้องมองกันอยู่ชั่วครู่แล้วทั้งคู่ก็ร้องไห้และหัวเราะไปด้วยกัน ส่วนลมตะวันออกน่ะ ยืนยิ้มกว้างอยู่ตั้งนานแล้ว)

.





...ตั้งแต่นั้นมา ดอกไม้สีฟ้า และลมตะวันออกก็เป็นเพื่อนรักกันตลอดมา..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น