ภาพคุณแม่จากหนังสือ ด้วยรัก อาลัย เทิดทูนและบูชา แด่คุณแม่ ดร.สิริ กรินชัย
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชทานเพลิงศพ คุณแม่ดร.สิริ กรินชัย ณ เมรุวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เมื่อเวลา 17.30 น.
คุณแม่ เป็นคุณแม่ในทางธรรมของบรรดาลูกโยคี ผู้เพียรเพ่งเผากิเลศด้วยการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานมากมาย เดินตามรอยคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ภาพคุณแม่จากอนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพคุณแม่
ฉันสิริกรินชัยผู่้ใจซื่อ
พระรัตนตรัยนั้นหรือคือสิ่งหวัง
เป็นที่พึ่งดั่งร่มไม้มีใบบัง
ถึงถูกแสงแดดบ้างยังพอทน
ไม่เดือดร้อนดิ้นรนจนเกินสุข
ยอมรับทุกข์เพระเชื่อมั่นในเหตุผล
วิปัสสนากรรมฐานผลญาณดล
ได้หยั่งรู้เหตุผลต้นอวิชชา
เมื่อใดหนอเพื่อนเราชาวมนุษย์
จะยั้งหยุดรู้ทางวางตัณหา
ได้สบสุขปราศทุกข์เพราะเมตตา
ผลกุศลนั้นจะพาโลกรื่นรมย์
ฉันห่วงใยชาวโลกเป็นยิ่งนัก
จึงผินพักตร์แสวงหาผู้สร้างสม
ช่วยตัดกายตัดใจในสังคม
กำหนดรู้อารมณ์ปัจจุบัน
ธรรมคำกลอนของคุณแม่
ภาพวัยต่าง ๆของคุณแม่จากหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพคุณแม่
วิปัสนากรรมฐานงานดูจิต
เหมือนมีมิตรคอยเตือนเพื่อนคอยสอน
กำหนดรู้ยิ่งรู้ทางจิตจร
จะยืนเดินนั่งนอนสำรวมตน
ระวังตัวกลัวภัยอันใหญ่หลวง
ภพทั้งปวงข้องอยู่ทุกแห่งหน
รู้รับทุกข์รับโทษรู้อดทน
รู้ดิ้นรนเพื่อรอดจากอวิชชา
หวังสิ่งใดก็จะได้ตั้งใจหวัง
กุศลจิตมีพลังเสกสรรหา
สมาธิตั้งมั่นเกิดปัญญา
ได้วิชาทำลายทุกข์สุขอนันต์
ธรรมคำกลอนของคุณแม่
หมายกำหนดงานพระราชทานเพลิงศพคุณแม่
คำอวยพรของคุณแม่
.
จากหนังสือสุดอาลัยคุณแม่จากใจโยคีภาคใต้
ข้างในเล่มเป็นคำไว้อาลัยของลูกโยคีทางภาคใต้ของคุณแม่
ชีวิตนี้เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์
จะยืนหยัดเกื้อการงานศาสนา
ทดแทนคุณองค์สมเด็จพระศาสดา
ทดแทนคุณกษัตราทุกพระองค์
จะอบรมปฏิบัติธรรมนำทางสุข
แก่ชนทุกหมู่เหล่าที่ประสงค์
ด้วยธรรมะวิเศษสุดของพุทธองค์
ด้วยซื่อตรงด้วยจงรักด้วยภักดี
พลอยโพยมได้รับโทรศัพท์จากญาติผู้พี่ถึงหมายกำหนดการ งานพระราชทานเพลิงศพของคุณแม่ ใจจริงอยากชวน ลูกสาวและลูกชายไปด้วย เพราะเป็นลูกศิษย์คุณแม่ด้วยกัน แต่เผอิญลูกชายต้องบินไปลงแท่นโดยมีลูกสาวไปส่งที่สนามบิน พลอยโพยมจึงต้องไปงานคนเดียวเป็นเวลาที่มีช่างมาซ่อมบ้านที่แตกร้าวเพราะแรงสะเทือนของบรรดารถบรรทุกสิบแปดล้อ เป็นวันที่สอง
กว่าจะเคลียร์ตัวเองได้ อาบน้ำแต่งตัวก็บ่ายสามโมงเย็นแล้ว ก่อนที่จะได้ขึ้นรถตู้เป็นเวลา 15.23 น. เมื่อขึ้นนั่งบนรถ คำนวณระยะทาง และระยะเวลาแล้ว ก็นั่งลุ้นเวลา คิดว่าน่าจะไปถึงวัดเลย ห้าโมงเย็น โดยที่พี่สาวแจ้งทางโทรศัพท์ว่า พระราชทานเพลิง 15.00 น. กระสับกระส่าย แล้วก็ตั้งสติว่า หากไปไม่ทันช่วงที่ปิดถนนขณะเสด็จ ไปได้ถึงตรงไหน ก็จะลงเดินไปที่วัด ลูกศิษย์คุณแม่คงมามากมาย อย่างไรเสีย ก็ต้องได้ทันขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์แม้จะเป็นคนสุดท้าย หรือ หากไม่ทันจริง ๆ ก็ขอไปแสดงความเคารพคุณแม่ ขณะที่ร่างของคุณแม่อยูในกองไฟ แต่ก็ไม่วายอธิษฐานจิตว่าขอให้ไปได้ทันวางดอกไม้จันทน์คุณแม่
พลอยโพยมเคยตั้งอธิษฐานจิตถึงคุณแม่เมื่อคราวส่งลูกสาวลูกชายเข้าปฎิบัติธรรมครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ.2546 ที่ยุวพุทธิกสมาคม ฯ เพราะสมัครช้า เลยไม่มีที่นั่ง หลังจากตั้งอธิษฐานจิตถึงคุณแม่ และติดต่อไปที่ยุวพุทธฯ ด้วยแรงอธิษฐาน ลูกทั้งสองคนก็ได้เข้าปฏิบัติธรรม
ปรากฏว่าหมายกำหนดการพระราชทานเพลิงคือ 17.30 น.พลอยโพยมไปถึงวัดทันก่อนขบวนเสด็จมาถึง ตำรวจเริ่มปิดถนนหลังพลอยโพยมไปถึงแบบฉิวเฉียด ดีใจมากที่ไม่ท้อใจตอนขึ้นรถตู้ จึงได้เข้างานทันพิธี
และโชคดีที่ได้พบญาติธรรมท่านหนึ่งเดินเข้าวัดมาพร้อม ๆ กับพลอยโพยม ก็เลยได้เพื่อนใหม่ 1 ท่าน ไม่เด๋อด๋าเดินเข้างานคนเดียว ทุกศาลารอบเมรุที่นั่งเต็มหมดแล้ว ลูกทางธรรมของคุณแม่มากมาย และมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เมื่อหาเก้าอี้ได้และยกมาที่ศาลาก็มีคนขยับที่แบ่งพื้นที่ให้ เพื่อนใหม่เป็นคนคล่องแคล่ว ทำให้พลอยโพยมได้ทั้งที่นั่ง ได้ไปลงทะเบียนและรับของที่ระลึกเป็นหนังสือทีระลึกหนึ่งชุด (หนังสือสี่เล่ม แผ่นซีดี ถาพคุณแม่ บรรจุในกระเป๋าผ้า) ทันการก่อนการหยุดธุรกรรมทุกอย่างเพื่อรอรับเสด็จ ส่งเสด็จ นำพาพลอยโพยมให้ได้ขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ได้ทันการที่จะนั่งรถตู้ที่หมอชิตกลับบ้านก่อนหนึ่งทุ่มได้ทัน และยังให้พลอยโพยมอาศัยนั่งรถมาแยกลงที่ใกล้ ๆ สถานีขนส่งหมอชิตเพื่อนั่งรถตู้กลับบ้าน
พลอยโพยมขอขอบพระคุณผู้มีคุณท่านนี้เป็นอย่างสูงท่านเป็นข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ท่านมีอายุมากกว่าพลอยโพยม 1 ปี รูปร่างหน้าตางดงามอ่อนกว่าวัยจริงดูเหมือนว่าเพิ่งอายุห้าสิบปี งดงามทั้งรูปกายและจิตใจสมเป็นลูกโยคีของคุณแม่
เมื่อสมเด็จพระเทพฯ เสด็จกลับ บรรดาลูกโยคีของคุณแม่ก็ทะยอยกันขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์และกราบร่างคุณแม่เป็นครั้งสุดท้าย มีพระพิรุณโปรยปรายเบา ๆ เหมือนเหล่าเทวาพรมน้ำมนต์ใหัพรลูกโยคีของคุณแม่่ให้ทุกคนอยู่เย็นเป็นสุขเดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัยทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น