วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

วารวัน....กับต้นรากสามสิบ



วารวัน....กับต้นรากสามสิบ


ดอกต้นรากสามสิบ

ต้นรากสามสิบ เป็นพืชประจำสวนของเมืองฉะเชิงเทรา เป็นพืชที่ทนแล้งมากไม่ต้องรดนำพรวนดินก็สามารถเจริญเติบโตอยู่ภายในสวนได้ ในสมัยที่เป็นเด็ก ๆ ยังอาศัยอยู่กับคุณยายที่บ้านริมน้ำตำบลบางกรูดอำเภอบ้านโพธิ์ ซึ่งหลานยายหลานย่า แม้แต่เหลน ๆ เรียกท่านว่ายายขาหรือชวดขา นั้น เด็ก ๆ จะต้องลงไปเก็บหญ้าในสวน เสาร์เว้นเสาร์ โดยวิธีการแบ่งร่องสวนคนละร่องสวน บางคนต้องเก็บคันรอบสวนซึ่งจะมีพื้นที่กว้างยาวกว่าร่องสวนธรรมดา คันรอบสวนนี้โอบล้อมร่องสวนทั้งสี่ด้าน กลางร่องสวนจะเป็นพืชพันธุ์ผลไม้ต่าง ๆ นานา เช่น มะม่วงหลากพันธุ์ มะปรางเปรี้ยวหวาน ขนุน ละมุด มะละกอ และอื่น ๆ หรือบางร่องปลูกพริกขี้หนู กระเพรา โหระพา ครึ่งร่องสวน


คันรอบร่องสวน

สำหรับต้นกล้วยจะมีมากในทุกร่องสวนปลูกตามพื้นที่ว่างเหลือจากไม้ยืนต้นอื่น (ผลไม้ ) ต้นกล้วยก็จะปะปนไปด้วยต้นเท้ายายม่อมขึ้นกระจายเป็นกอ ๆ บางส่วนคือกระชาย ดังนั้นพื้นที่กลางร่องสวนจึงไม่มีที่ว่างสำหรับต้นรากสามสิบนักเพราะที่เหลือก็เป็นเพียงทางเดินเท่านั้น ริมร่องสวนจะปลูกหมากทั้งสองด้านทุกร่อง เว้นระยะห่างพอ ๆ กัน สิ่งที่จะขึ้นตามริมร่องสวนก็คือต้นรากสามสิบและผักกระเฉดบก (หมายถึงผักกระเฉดที่ปลูกในร่องสวนที่เก็บน้ำ ต่อมาผักกระเฉดไต่เลื้อยขึ้นมาบนริมขอบร่องสวน และแผ่กระจายเป็นกออยู่บนริมร่องสวน นั่นเอง ) ผักกระเฉดบกก็จะแบ่งพื้นที่กับต้นรากสามสิบ บางกอก็ก่ายเกยกันโดยต้นผักกระเฉดบกทอดนอนไปตามพื้นดิน เวลาต้องการผักกระเฉดบกก็ต้องสอดมือไปใต้กอรากสามสิบเด็ดผักกระเฉดขึ้นมา


ต้นเท้ายายม่อม และกล้วยมักจะปลูกปะปนกัน



ชาวสวน(เบญจพรรณ) มักนิยมปลูกต้นหมากไว้ริมร่องสวน



ต้นรากสามสิบมักอยู่ตามริมร่องสวน

โดยปกติต้นรากสามสิบก็ไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญใจให้พวกเด็ก ๆ นัก การแผ่ขยายกิ่งใบของรากสามสิบก็มีส่วนดีที่ไม่มีหญ้าขึ้นในแถบนั้น ยกเว้นว่าหญ้าจะขึ้นตามชายร่องสวนซึ่งไม่ได้ตั้งชัน แต่เป็นชายร่องที่ลาดชัน และเป็นที่เติบโตของวัชพืชรวมเรียกว่าหญ้า ต้นกูดเขากวาง (เฟิร๋นชนิดหนึ่ง) ซึ่งลำต้นอวบน้ำถอนทิ้งได้ง่าย และน่าจะเป็นวัชพืชที่เด็กๆ ออกจะพอใจชอบใจอยู่ กว่าวัขพืชอื่น


ต้นกูดเขากวาง

แต่เมื่อถึงฤดูแล้ง ต้นรากสามสิบ หลังจากให้ผลลูกรากสามสิบ เมื่อผลสุกก็หล่นที่พื้นสวนใต้กอรากสามสิบบ้าง ถูก นกกิน และไปถ่ายมูลนกแพร่พันธุ์ต้นรากสามสิบให้เจ้าของสวนและสวนใกล้เคียง เมื่อผลวายหมดแล้ว ใบฝอย ๆ ของต้นรากสามสิบก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนจากใบสีเขียวเป็นเหลือง และค่อย ๆ หลุดร่วงลงหมด เมื่อ หมดฝน ต้นหนาว และหมดหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน ต้นรากสามสิ จะเหลือเป็นลำต้นปนลำกิ่งแห้ง ๆ แผ่ขยายกิ่งรอบกอ และมีหนามเล็ก ๆ มากมายตามลำกิ่งก้าน




รากสามสิบในฤดูแล้ง


ในช่วงเวลาที่ต้องสอยหมากลงมาจากต้นจะพบอุปสรรคสำคัญของคนที่จับมุมกระสอบรับทะลายหมากที่ถูกกระชากดึงลงมา บางครั้งทะลายหมากก็ไม่หล่นลงมาตามทิศทางที่ตั้งรับด้วยกระสอบ (กระสอบใส่ข้าวและเป็นกระสอบป่าน) พลพรรคคนถือสี่มุมกระสอบ เนื่องจากคนถือมุมกระกอบก็เป็นล้วนเป็นเด็ก ๆ ทั้งนั้นจึงต้องจับมุมกระสอบมุมละหนึ่งคน เพราะหมากอยู่สูงเมื่อทิ้งตัวลงมาจากที่สูง ก็มีแรงกระแทกแรง บางครั้งก็เป็นหมากทะลายใหญ่ ๆ ด้วย คนจับกระสอบต้องแหงนเงยมองทะลายหมากและต้องเอี้ยวกระสอบรอรับทะลายหมากที่ผ่านการคำณวนแล้วว่าทะลายหมากจะหล่นลงกระสอบแน่นอน มีหลายครั้งโชคไม่ดี เขยิบที่ยืนให้เหมาะเหม๋งขยับ ซ้ายขวา หน้าหลัง ไป ๆ มา ๆ ก็เข้าไปใกล้กอรากสามสิบ ฤดูอื่นก็ไม่เกิดปัญหา แต่ถ้าเป็นฤดูแล้ง ต้นรากสามสิบ ก็เป็นพิษภัยสำหรับเด็ก ๆ หากความโชคร้ายบังเกิดกับคนที่ถูกหนามรากสามสิบเกี่ยว หรือตำเอา แม้จะเป็นหนามเล็ก ๆ แต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้กับเด็ก ๆ เพราะสมัยนั้นเราเดินเท้าเปล่าไปไหน ๆ กัน (แม้แต่ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดใกล้บ้าน คือโรงเรียนวัดผาณิตาราม ) เป๋็นความเจ็บปวดชนิดต้องจดจำกันไว้นาน ขยาดแหยงกับต้นรากสามสิบจนเด็ก ๆ รุ่นนี้เติบโด เป็นผู้ใหญ่ แค้นนี้ก็ต้องชำระ ความจำในวัยเด็กทำให้คนพากันฟันต้นรากสามสิบทิ้งอย่างไม่อาลัยไยดี แถมบางคนใช้เสียมหรือพลั่วขุดรากถอนโคนต้นรากสามสิบขึ้นมา ทั้งที่บางบ้านเลิกทำสวนแล้ว เปลี่ยนเป็นบ่อกุุ้งบ่แปลา มีต้นรากสามสิบขึ้นประปราะบนคันบ่อพบเมื่อไรก็รีบกำจัดเสียสิ้น เพราะความแค้นฝังใจและไม่ได้ใช้ประโยชน์จากต้นรากสามสิบแล้ว


                            การสอยหมาก ในปัจจุบัน
 ขอขอบคุณภาพจากคุณยุ้ย ทีมงานบางปะกงสายน้ำแห่งชีวิต

(ภาพนี้เนื่องจากคนรับทะลายหมากเป็นสุภาพบุรุษ จึงสามารถใช้แค่สองคนจับมุมกระสอบสองมือสองมุมได้ แต่หากนึกถีงเด็ก ๆ วัยเรียนชั้นประถม จึงต้องใช้แรงงานเด็กถึง สี่คน)


ผลรากสามสิบที่ได้ระยะเวลานำมาปรุงเป็นแกงคั่ว อร่อย ไม่อ่อน หรือแก่ เรียกว่ากำลังดี

อนึ่งในช่วงที่ต้นรากสามสิบให้ผลในระยะยี่สิบกว่าวันหลังออกดอกและเกิดเป็นผลแล้ว ไม่ถึงเดือน บางครั้งพวกผู้ใหญ่ ก็จะเก็บผลรากสามสิบเอามาทำแกงคั่วกับปูทะเล การไปขุดปูทะเลนับเป็นของง่าย ๆ ของเด็กผู้ชายเพราะปูทะเลมีทั้งในท้องร่องสวน ริมคลองใกล้บ้าน ถ้าเป็นปูทะเลตัวใหญ่ เด็ก ๆ จะขอให้ผู้ใหญ่ไม่ทุบก้ามใหญ่เพื่อจะนำก้ามใหญ่มาแขวนเป็นกระดิ่ง กรุ๋งกร๋ง เวลาลมโชยพัด แถว ๆ นอกชานบ้าน เมนูที่เด็ก ๆ ชอบ คือปูทะเลผัด


ปูทะเลที่นำก้ามใหญ่ไปทำกระดิ่งแขวนได้

ครั้นเมื่อนำปูทะเลตัวเอ้แบบนี้มาแกงคั่วกับลูกรากสามสิบ ความขมของลูกรากสามสิบที่ไม่มีเด็กคนใดชอบหากจะเทียบรสชาติกับปูทะเลผัดธรรมดากับไข่และต้นหอม จึงทำให้เมนูแกงคั่วลูกรากสามสิบที่ผู้ใหญ่ยอมลำบ่ากเก็บลูกสามสิบมาจากต้นแม้คนปรุงจะมีฝีมือรสเลิศปานใดเด็ก ๆ ก็หาใส่ใจไม่ กินกันแบบ กินไปบ่นไปว่า ไม่อร่อยเลยแม่จ๋า น้าจ๋า การปรุงแกงคั่วปูทะเลใ่ลูกรากสามสิบ กับ การผัดปูทะเล นั้น ขั้นตอนและความยากง่ายต่างกันมาก ดังนั้นเมนูแกงคัวลูกสามสิบปูทะเลก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากครัวที่บ้านของพลอยโพยม เพราะความเมตตาของผู้ใหญ่มีให้เด็ก ๆ นั่นเอง รวมทั้ง ต้นรากสามสิบเองก็ค่อย ๆ ลับหายไปจากสวนในยุคเด็ก ๆ รุ่นนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ครอบครองสวนต่อมา



ส่วนผลสุกรากสามสิบที่ร่วงหล่นรายกระจายทั่วพื้นสวนแบบนี้ก็จะมี ทูตเจริญพันธุ์พืช มาดำเนินการนำพาส่งออกไปขยายพันธ์ุ โดยไม่ต้องมีรายการสั่ง (ออร๋เดอร๋์ )แต่ก็พร้อมส่ง (โดยไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากของกระบวนการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ) ทำให้รากสามสิบได้มีโอกาสไปแพร่พันธุ์ ดำรงพันธุ์ในประเทศเพื่อนบ้าน ต่อไป (หมายถึงสถานที่ใกล้เคียง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น