วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
หลังพระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน
พระอานนท์ ถือบาตรและจีวรของพระพุทธองค์ เสมืิอนเมื่อครั้งยังไม่ปรินิพพานเดินทางกลับไปกรุงสาวัตถี พร้อมด้วยภิกษุสงฆ๋ ๕๐๐ รูป ในระหว่างทางมีภิกษุผู้เป็นบริวารมากขึ้นจนประมาณมิได้ มีเสียงร่ำไห้กันอึงมีตลอดทาง
เมื่อถึงกรุงสาวัตถี ชาวกรุงสาวัตถีต่างพากันถือดอกไม้ของหอมไปต้อนรับ ร้องไห้รำพันว่า
"ข้าแต่พระอานนท๋ผู้เจริญ เมื่อก่อนท่านมากับพระผู้มีพระภาคเจ้า บัดนี้ท่านทิ้งพระผู้มีพระภาคเจ้าไว้เสียที่ไหน"
มีการเศร้าโศกรำพันอย่างมากเหมือนในวันที่เสด็จปรินิพพาน ฉะนั้น
ในอรรถกถา พรหมชาลสูตร กล่าวว่า
ท่านพระอานนท์สั่งสอนมหาชน ให้เข้าใจด้วยธรรมีกถาประกอบด้วยความไม่เที่ยงเป็นต้น
แล้วเข้าสู่พระเชตวันวิหาร ไหว้พระคันธกุฎีที่พระพุทธองค์ประทับ เปิดประตูนำเตียงตั่งออกปัดกวาด ทิ้งขยะดอกไม้แห้ง ท่านได้กระทำทุกอย่างอันเป็นวัตรที่ต้องปฏิบัติ เหมือนในเวลาที่พระผู้มีพระภาคเจ้ายังดำรงพระชนม์อยู่ ทำหน้าที่ไปพลางรำพันไปพลางว่า
เวลานี้เวลาสรงน้ำของพระองค์ เวลานี้เป็นเวลาแสดงธรรม เป็นเวลาสำเร็จสีหไสยา เป็นเวลาสรงพระพักตร์ เป็นต้น
ทั้งนี้เพราะท่านยังเป็นเสชบุคคล พระอานนท์เป็นผู้มีความรักตั้งมั่นในพระศาสดา เป็นผู้มีความผูกพันที่เคยอุปการะกันและกันมาหลายแสนชาติ
เทวดาองค์หนค่งซึ่งสถิตอยู่ ณ ป่าใหญ่ ใกล้กรุงสาวัตถีเห็นดังนั้น จึงมากล่าวเตือนพระอานนท์ว่า
"ข้าแต่พระอานนท์ผู้เจริญ หากท่านยังแต่มุ่งปลอบใจผู้อื่น และยังแสดงความอาลัยในพระตถาคตอยู่เช่นนี้ ท่านจะหาทางบำเพ็ญสมณธรรม เพื่อความหลุดพ้นได้อย่างไร"
พระอานนท์ได้ฟังคำเตือนของเทวดา จึงพยายามระงับความเศร้าโศกลง และขอร้องให้เหล่าภิกษุสงฆ์ ช่วยกันปฏิสังขรณ์สิ่งที่ชำรุดทรุดโทรมในพระเชตวันจนแล้วเสร็จ
ครั้นใกล้วันเข้าพรรษา พระอานนท์และพระเถระผู้ใหญ่ก็อำลาภิกษุสงฆ์ ออกเดินทางไปกรุงราชคฤห์ เพื่อเตรียมการสังตายนาพระธรรมวินัย
ขอขอบคุณข้อมูลจากพระพุทธกิจ ๔๕ พรรษา สุรีย์ มีผลกิจ-วิเชียร มีผลกิจ
ป้ายกำกับ:
[บทความ]
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น