การขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุเพื่ออัญเชิญกลับไปบูชาในเมืองของตน เกือบจะต้องฆ่าฟันกันเป็นการใหญ่
แคว้นนครเหล่านั้น ๗ นคร ต่างยื่นคำขาดว่าจะให้พระบรมสารีริกธาตุหรือจักรบ แล้วตั้งกองทัพล้อมเมืองกุสินาราไว้
พวกเจ้าเหล่านี้ก่อวิวาทกันในสถานที่ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพาน เป็นหารไม่สมควร จำเราจักระงับการวิวาทนั้นเสีย
โทณพราหมณ์จึงขึ้นไปยืนอยู่บนที่สูง กล่าวความว่า
"ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ขอพวกท่านจงฟังคำของข้าพเจ้า พระบรมศาสดาของเราทั้งหลาย ตรัสสรรเสริญขันติ การที่พวกท่านจะประหัตประหารกันด้วยเหตุแห่งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นสิ่งอันควรแก่การสักการะบูชาอย่างสูงสุดเช่นนี้ไม่ดีเลย พวกท่านทั้งหมดจงเกื้อกูลซึ่งกันและกันเถิด"
คำกล่าวครั้งแรกของโทณพราหมณ์ไม่มีผู้ใดสนใจ เพราะต่างกำลังถกเถียงกันว่าจะทำประการใด อาศัยที่โทณพราหมณ์เป็นอาจารย์ของเหล่ากษัตริย์ และพราหมณ์ในภาคพื้นชมพูทวีป ไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก
โทณพราหมณ์จึงประกาศด้วยเสียงอันดังมากขึ้นอีกว่า
พวกท่านจำเสียงอาจารย์ของท่านได้หรือไม่ หากจำได้ ขอให้ทุกท่านจงพากันเงียบเสียง แล้วฟังวาจาที่ข้าพเจ้าจักกล่าวให้จงดี
เหล่ากษัตริย์ทั้งปวงครั้นได้ยินเสียง จำได้ว่าเป็นเสียงของโทณพราหมณ์ผู้เป็นอาจารย์ของพวกตน ต่างพากันสงบเสียงทันที
โทณพราหมณ์กล่าวซ้ำคำเตือนเป็นครั้งที่ ๒ แล้วประกาศว่า
"ขอเราทั้งหลายทั้งปวง จงยินยอมพร้อมใจ ยินดีแบ่งพระบรมสารีริกธาคุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกเป็น ๘ ส่วน แล้วนำส่วนของตนกลับไปบรรจุไว้ในสถูปยังแว่นแคว้นของท่านเถิด เพื่อให้พระบรมสารีริกธาตุจักได้กระจายไปยังทิศทั้งหลาย เหล่าชนผู้เลื่อมใสในพระพุทธองค์ยังมีอยู่มาก"
ราชทูตเหล่านั้น กล่าวว่า
"ช้าก่อนแต่พราหมณ์ พวกเราทั้งหลายยินยอมตามคำแนะนำของท่าน ถ้าเช่นนั้นขอท่านนั่่นแหละจงแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกเป็น ๘ ส่วน เท่าๆ กันให้เรียบร้อยเถิด "
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สู่แดนพระพุทธองค์ อินเดีย-เนปาล โดยพระราชรัตนรังษี (ว.ป.วีรยุทฺโธ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น