บรรดามัลละกษัตริย์แห่งนครกุสินารา ผู้ให้ความคุ้มครองพระบรมสารีริกธาตุด้วยความเคารพยกย่องอย่างยิ่งนั้น แม้จะถูกคุกคามด้วยศาตราวุธมีหอกและธนูของกองทัพต่าง ๆ ที่ยกทัพมาประชิดนครกุสินารา ก็ไม่ปรารถนาที่จะแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้้แก่กองทัพเหล่านั้น
มีภาพหินแกะสลักภาพหนึ่งที่เมืองสาญจีได้แสดงถึงการล้อมนครกุสินาราไว้ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้เกิดสงครามแต่อย่างใด
พุทธวิหารปรินิพพาน
บริเวณภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปางปรินิพพาน มีขนาดความยาว ๒๓ ฟุต ๙ นิ้ว กว้าง ๕ ฟุต ๖ นิ้ว องค์พระยาว ๑๐ ฟุต สูง ๒ ฟุต ๑ นิ้ว
มีผู้ศรัทธานำจีวรสีทองเหลืองอร่ามมาถวายมิได้ขาด ในคราวทีสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ฯ เสด็จมานมัสการสังเวชนียสถานในประเทศอินเดีย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๐ ทรงห่มฟ้าห่มน้อมคลุมถวายเป็นพุทธบูชาด้วย
ประทับนั่งทอดพระเนตรพระพุทธสรีระบรรทมเหนือพระแท่น ผ้าคลุมยาวลงแค่พระบาท ส่วนพระพักตรก็ปิดแค่พระศอ กำหนดพุทธานุสติ เห็นภาพพระบรมพระศพสมมตินี้แล้ว ทำให้คิดเสียดายว่า พระพุทธองค์น่าจะประทับอยู่นาน ๆ
ขอขอบคุณภาพจากtaraarryatravel.com
พุทธปฏิมากรรมแกะสลักจากหินจุณศิลาก้อนเดียว จากเมืองจูนาร์ (Chunar) ใกล้กับเมืองพาราณสี ที่ฐานเป็นรูปปั้นของปัจฉิมสาวก พระอรหันต์องค์สุดท้ายที่ทันเห็นพระพุทธองค์ ถัดไปเป็นพระอนุรุทธะผู้เข้าสมาบัติ ตามดูพระพุทธองค์จนเข้าสู่ปรินิพพาน ถัดไปเป็นรูปพระอานนท์กำลังโศกเศร้า
ขอขอบคุณภาพจาก สารานุกรม วิกิพีเดีย
ขอขอบคุณภาพจากwww.dhammajak.net
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก สู่แดนพระพุทธองค์ อินเดีย-เนปาล โดยพระราชรัตนรังษี (ว.ป.วีรยุทฺโธ)
พระสถูปสาญจี หรือ มหาสถูปสาญจี เมืองโภปาล รัฐมัธยมประเทศ ประเทศอินเดีย
ขอขอบคุณภาพจากhttp://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=39377
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น