ที่กรุงราชคฤห์ในสมัยนั้น
มีวัดใหญ่ ๑๘ วัดล้อมรอบ ในเวลาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จปรินิพพาน ภิกษุต่างถือบาตรจีวรของตน ๆ แล้วทิ้งเสนาสนะพากันไปเฝ้าพระพุทธองค์ เมื่อเสร็จกิจแล้ว พระเถระคิดว่า พวกเราต้องทำการปฏิสังขรณ์สิ่งที่ชำรุดทรุดโทรม ตลอดเดือนต้นของพรรษา เพื่อบูชาคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า และเพื่อเปลื้องคำติเตียนของพวกเดียรถีย์ที่จะตำหนิว่า สาวกของพระโคดมบำรุงวัดวาอาราม เมื่อพระศาสดายังมีพระชนม์อยู่เท่านั้น เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว ก็พากันทอดทิ้งเสีย
พระเจ้าอชาตศัตรูทรงทราบ ได้พระราชทานช่างที่ทำงานฝีมือมาช่วย ได้จัดการปฏิสังขรณ์มหาวิหารใหญ่ทั้งหมด ตลอดเดือนต้นฤดูฝน
เสร็จแล้วพระเถระทูลพระราชาว่า งานปฏิสังขรณ์วัดเสร็จแล้ว บัดนี้อาตมภาพทั้งหลาย จะกระทำการสังคายนาพระธรรมวินัย
พระเจ้าอชาตศัตรูมีดำรัสว่า ดีแล้ว เจ้าข้า พระคุณเจ้าทั้งหลาย การฝ่ายอาณาจักรขอเป็นหน้าที่ของโยม ส่วนการฝ่ายศาสนจักร ขอให้เป็นหน้าที่ของพระคุณเจ้าทัั้งหลาย
พระเจ้าอชาตศัตรูรับสั่งให้สร้างธรรมสภา สำหรับการสังคายนาที่ใกล้ปากถ้ำ สัตบรรณ ข้างภูเขาเวภาระ ตามที่พระเถระประสงค์
การทำสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งแรกนี้ กระทำหลังพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน แล้ว ๔ เดือน
หมายเหตุ มีเอกสารหลายแหล่งระบุว่าการทำสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งแรกนี้ กระทำหลังพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน แล้ว ๓ เดือน
พลอยโพยมก็ขออ้างตามข้อมูลที่นำมาจากเอกสารทีใช้อ้างอิงระบุไว้ตามนั้น
ขอขอบคุณข้อมูลจากพระพุทธกิจ ๔๕ พรรษา สุรีย์ มีผลกิจ-วิเชียร มีผลกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น