ดอกคำมอกหลวง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Gardenia sootepensis Hutch.
ชื่อวงศ์ Rubiaceae
ชื่อพื้นเมืองอื่น ไช่เน่า คำมอกช้าง ผ่าด้าม ยางมอกใหญ่ แสลงหอมไก๋ หอมไก๋
ดอกคำมอกหลวง มีสีขาวนวลแล้วเปลี่ยนเป็น สีเหลืองเข้ม
มีกลิ่นหอม ออกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบ กลีบเลี้ยงเป็นหลอดรูปกรวย ยาว 1.2-2 เซนติเมตร ปลายเป็นพูด้านหนึ่งแยกลึก ด้านนอกมีขนละเอียดเหนียว โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวยปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกหนา ขอบกลีบม้วนและบิด ดอกบานเต็มที่กว้าง 8-10 เซนติเมตร
ผลแห้ง ไม่แตก รูปทรงรีหรือไข่ กว้าง 1.8-2.5 เซนติเมตร ยาว 2.2-4 เซนติเมตร มีสันตื้น 5-6 เส้น ผลแก่สีน้ำตาลเข้ม เปลือกหุ้มเมล็ดเเข็ง เมล็ดกลมถึงแบน มีจำนวนมาก
ลักษณะทั่วไป ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ผลัดใบ เรือนยอดทรงกลมแผ่กว้าง ลำต้นบิดงอ เปลือกสีครีมอ่อนหรือเทา ค่อนข้างเรียบหรือหลุดลอกเป็นแผ่นบางๆ
เป็นไม้ทนแล้ง เหมาะที่จะปลูกเพื่อให้ร่มเงา ดอกสวยมีสีสัน กลิ่นหอมมาก ออกดอกพร้อมกันทั้งต้น และบานนาน 2-3 วัน
ประโยชน์ : เมล็ดต้มเคี่ยวกับน้ำ เป็นยาสระผมฆ่าเหา
ฤดูที่ดอกบาน มี.ค.-ก.ค
ลักษณะนิสัย ขึ้นได้ในดินทั่วไป
ความชื้น ปานกลาง
เป็นไม้ที่อยู่ในแสงแดดเต็มวันได้
ที่มาของข้อมูล นานาการ์เดนท์
และ http://158.108.80.10/plantwebsite/webpage
พลอยโพยมปลูกต้นคำมอกหลวงไว้หลายปีแล้ว กว่าจะได้ชมดอกต้นก็สูงมาก ไม่ได้สังเกตุในปีแรกที่มีดอกจนมาเห็นดอกที่ร่วงหล่นลงมาจากต้นแล้ว ปีต่อมาต้องใช้เก้าอี้ไม้สูงเมตรเศษ ๆ ปีนขึ้นไปถ่ายรูปดอกที่บานแล้ว (ขณะนี้ถูกสั่งห้ามปีนเก้าอี้ถ่ายรูปเสียแล้วโดยลูกชาย) เพราะพื้นดินไม่เรียบเสมอกันนั่นเอง อย่าว่าแต่ปีนเก้าอี้เลย อันที่จริงพลอยโพยมปีนต้นไม้เก่งกว่าเพื่อน ๆ เด็กหญิงด้วยกันในสมัยก่อน เมื่อสองปีที่แล้วพลอยโพยมยังปีนพะองขึ้นไปถ่ายรูปการรองน้ำตาลจากจั่นมะพร้าวบนต้นมะพร้าวได้เลย สบายมากเสียด้วยซี
วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555
ร่มไม้ใบบัง
ร่มไม้ใบบัง
ต้นไม้ข้างบ้านของบ้านพลอยโพยม
ต้นไม้ป่าที่ไม่มีใครรู้จักชื่อ อายุ 30 ปี เป็นไม้ที่เติบโตช้ามาก เคยเด็ดกิ่งที่มีดอกและใบไปถามหากับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายไม้ป่าในสวนจตุจักร ก็ไม่มีใครรู้จักชื่อ พลอยโพยมพบต้นไม้นี้ที่บ้านคุณ จิม ทอมสัน สุขุมวิท ริมคลองแสนแสบ ที่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ต้นใหญ่กว่าที่บ้านพลอยโพยม สูงเลยหลังคาบ้าน สองชั้น เหมือนกัน
ต้นคำมอกหลวง อยู่หน้าระหว่างไม้ป่าไม่รู้จักชื่อทั้งสองต้น
ใต้ร่มต้นกาฬพฤกษ์ ตันหยง และมะฮอกกานี อายุ เกือบ 20 ปี ต้นกาฬพฤกษ์เคยดอกออก พลอยโพยมได้แต่แหงนหน้ามองชมความงามของดอกไม้
เฟริน์ข้าหลวงหลังลาย และต้นไม้ที่ปลูกชืดกันเหมือนที่ลูกชายว่าเหมือนดำนาปลูกข้าว ทั้ง ๆ เขาก็ไม่เคยเห็นการดำนา จริง ๆ
ต้นไม้รอบบ่อที่เคยเลี้ยงปลาบึก ปัจจุบันเป็นบ่อร้าง นาน ๆ ครั้ง ก็จะมีเต่านา คลานขึ้นมาจากบ่อ
พระจันทร์ค้างฟ้าข้างบ่อปลาบึก
พระจันทร์ค้างฟ้าข้างบ่อปลาบึก อีกด้านหนึ่ง
ทางไปหลังบ้านของพลอยโพยมด้านซ้ายมือ
ทางไปหลังบ้านของพลอยโพยมด้านขวามือ
ด้านหน้าจากศาลพระภูมิ
พลอยโพยม ปล่อยให้ต้นตะขบเติบโตเบียดกันอีกด้านหนึ่งของบ้าน เพื่อให้เป็นอาหารของ นกและกระรอก เวลานกและกระรอก ออกมาหากินจะกระโดดไปมาระหว่างต้นตะขบ ที่ใต้ต้นตะขบของบ้านพลอยโพยม ออกลูกเป็นกล้วยน้ำว้า ( เอากล้วยน้ำว้าสุกไปแขวนให้นั่นเอง) แต่ต้นตะขบจะล้มง่ายเวลามีลมพายุมา
ด้านหลังของบ้านส่วนใหญ่เป็นมะฮอกกกานี
ไม้มะค่าโมง ประดู่เหลือง พยอม อินจัน ต้นหมาก มะเฟือง สายหยุด
มะค่าโมง ข้างโรงเก็บของ
พลอยโพยมบรรยายเสียละเอียด เกิดมีผู้ไม่ประสงค์ดี เข้ามาก็รู้จักทางรอบบ้านกันหมดพอดี บ้านพลอยโพยมเป็นบ้านแบบบ้านนอกทั่วไปมีครัวแยกต่างหาก ที่สำคัญคือต้องมีโรงโล่่ง ๆ ไว้เป็นสถานที่เอนกประสงค์ พลอยโพยมแบ่งกั้นโรงเก็บของเป็นห้องเก็บของ ซึ่ง เก็บของต่างๆ ไว้ เป็นสิบปี ไม่ได้เอามาใช้ประโยชน์ แต่ถ้าหากเลือกทิ้งของอย่างหนึ่งอย่างใดไป ในไม่ช้่าก็จะมีความจำเป็นต้องใช้ของสิ่งนั้น เป็นแบบนี้บ่อย ๆ จึงไม่ยอมทิ้งอะไร มีแต่เอาไปใส่เพิ่ม เคลียร์ห้องเก็บของไม่ได้สักที มีถุงดำเขียนว่ารอคัดสรรก็ไม่เคยไปคัดสรรเลือกทิ้งสักที
ตอนพลอยโพยมยังทำงานอยู่ ไปสวนจตุจักรทุกเช้าวันพุธก่อนไปทำงาน ซื้อต้นไม้มาปลูก ที่ลูกชายบ่นเสมอว่า แม่ปลูกต้นไม้เหมือนดำนา มีที่ว่างตรงไหน แม่ก็จ่อม ๆ ต้นไม้ลงไป ปัญหาคือขยันปลูก แต่รอเทวดารดน้ำให้ ต้นไม้มากมายที่ปลูกไว้นั้น ใช้หลัก ตายก็ฝัง ยังก็เลี้ยง แม้แต่กล้วยไม้ป่าซึ่งเหลือรอดมาเพราะพี่ชายแสนดีช่วยจัดการให้ สมัยนั้นคนขับรถเคยถามพลอยโพยมว่า พี่ครับ พี่จะปลูกป่าเหรอครับ ถ้าขึ้นหมดบ้านพี่เป็นป่าแล้วนะครับ ก็ควรจะเป็นป่าจริง ๆ เป็นป่าแบบป่ารก ๆ ต้นหญ้ามากมายที่ไม่ยอมตาย แต่ต้นไม้พลอยโพยมปลูกไว้ตายไปหลายร้อยต้นทีเดียว ไม้ป่าทั้งนั้นรวมทั้งไม้ดอกหอมมากมาย สิบกว่าปีที่ไปจตุจักร จนคนขายบอกว่า พี่ครับสงสัยร้านพี่ต้องใหญ่มากแน่ ๆ เขานึกว่าพลอยโพยมซื้อเอาไปขาย ก็พลอยโพยมซื้อต้นไม้แต่ละที่ อย่างละ 5 -10 ต้น (ปลูกเผื่อตายอยู่แล้ว) ท้ายรถ เปิดมาต้นไม้วางนอนเรียงสับหว่างเต็มท้ายรถ ส่วนในรถก็เป็นไม้กระถางเห็นแต่หัวคนขับรถประมาณนั้น
พลอยโพยมปลูกต้นกันเกราไว้ ยี่สิบกว่าต้น สองสามต้นสุดท้ายเพื่งตายไปเพราะ ปลูกไกลบ้านลุยหญ้าไปดูไม่ไหว รวมทั้งต้นฝาง ( ต้นน้ำยาอุทัย ) 3 ต้น ที่รอดชีวิต สูงเลยตัวพลอยโพยมแล้ว รวมทั้งไม้แดง ( มีคนงานในบ้านปลูกให้) มีนกรที่บ้านเคยแนะนำ พลอยโพยมให้ทำสวนพรรณไม้เพื่อการเรียนรู้ ให้ปักป้ายบอกชื่อ ข้อมูลต้นไม้สั้น ๆ ( เหมือนพรรณปลาที่พลอยโพยมทำอยู่) แต่ พอเลิกเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา ที่บ้านก็ไม่มีคนงาน พลอยโพยมทำคนเดียวไม่ได้ และปัจจุบันก็ไม่มีเรี่ยวแรงขุดดิน เพราะจอบเสียมของพลอยโพยมเป็นแสตนเลสหนักมาก ยกเสียมยังไม่ทันขุดดินก็หมดแรงแล้ว
ทุกวันนี้ พลอยโพยม แค่รดน้ำต้นไม้อย่างเดียวก็หมดเวลาในแต่ละวัน ทดลองว่าลองทำให้เสร็จในวันจะรดได้หมดไหม ปรากฏว่า ออกไปรดน้ำตั้งแต่โมงเช้า เที่ยงเข้ามาทานข้าว ออกไปรดใหม่ หนึ่งวันไม่เสร็จ ลองเปลี่ยนรดเป็นโซน ๆ 3 โซน 3 วัน แล้วเวียนมาโซน ที่ 1 ใหม่ ก็พออยู่ได้ได้มีเพียงบางต้นเหี่ยวเฉาไปบ้าง วันไหนมีภารกิจอื่นๆออกนอกบ้าน ไม่ได้รดน้ำต้นไม้ ต้นไม้ก็เฉา น่าสงสารจริง ๆ เฉพาะบริเวณนี้ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง เพราะต้นไม้แต่ละต้น มีกล้วยไม้ผูกติด ต้นละประมาณ 5-6 ต้น โคนต้น ก็มีหัวมัน โคนต้นละ 3-4 หลุม มีต้นไม้เล็ก ปลูกแซม เพื่อรอตัดไม้กระถินเทพาที่ชราภาพมากทิ้งเมื่อไม้เล็กโตแล้ว มีกระถางต้นแซ่ม้า และเฟริน์ในกระถางตลอดแนว
อุปกรณ์ทำสวน ที่มีนกรข้าง ๆ ตัว อุตส่าห์ จัดทำให้พลอยโพยมใช้ปลูกต้นไม้ แม้แต่รถเข็น
บันไดไม้ไผ่ทอดถึงแค่เพียงกิ่งล่างสุดของไม้ป่า
ที่บ้านพลอยโพยมมีต้นไม้มากมายดังภาพ แต่พอตัดต้นสนและไม้ยืนต้นอื่น ๆ ที่อยู่ด้านนอกออกไป บ้านก็ร้อนมาก อยู่อย่างไม่เป็นสุขเหมือนก่อนตัด รวมทั้งต้องริดกิ่งไม้ที่อยู่ชิดรั้วออกไปไม่ให้กิ่งยื่นออกไปที่ของคนอื่น บ้านของพลอยโพยมอยู่ข้างหลังป้ายสีแดงในภาพ และภาพนี้เป็นภาพแนวต้นไม้แบ่งเขตแดน
พลอยโพยมนึกถึงบ้านคนอื่น ๆ ที่ไม่มีต้นไม้แบบนี้ จะอยู่กันร้อนขนาดไหน กันหนอ จากชีวิตวัยเด็กที่เคยอยู่บ้านสวน พลอยโพยม ต้องใช้ชิวิตอยู่กับป่าต้นไม้ ที่มองดูรกรุงรังจนลูก ๆ บ่น ว่า ต้นไม้ของแม่เยอะก็จริงแต่มันรกมาก ๆ เลยนะแม่ แม่จัดให้มันดูมีระเบียบ เป็นแถวเป็นแนวก็คงจะดีนะแม่่
ก็ตอนที่ปลูกน่ะ พยายามอัดต้นไม้ให้อยู่ใกล้ ๆ บ้าน มีที่ว่างก็ชี้นิ้วเลยว่า ขุดตรงนี้ ขุดตรงนี้ ก็ต้นไม้ที่เอาไปปลูกไกลบ้าน ตายเกือบหมด เหลือแต่หญ้า
แม้แต่บริเวณนี้นี้ก็ถูกบ่นว่ารกไป
ต้นไม้ข้างบ้านของบ้านพลอยโพยม
ต้นไม้ป่าที่ไม่มีใครรู้จักชื่อ อายุ 30 ปี เป็นไม้ที่เติบโตช้ามาก เคยเด็ดกิ่งที่มีดอกและใบไปถามหากับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายไม้ป่าในสวนจตุจักร ก็ไม่มีใครรู้จักชื่อ พลอยโพยมพบต้นไม้นี้ที่บ้านคุณ จิม ทอมสัน สุขุมวิท ริมคลองแสนแสบ ที่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ต้นใหญ่กว่าที่บ้านพลอยโพยม สูงเลยหลังคาบ้าน สองชั้น เหมือนกัน
ต้นคำมอกหลวง อยู่หน้าระหว่างไม้ป่าไม่รู้จักชื่อทั้งสองต้น
ใต้ร่มต้นกาฬพฤกษ์ ตันหยง และมะฮอกกานี อายุ เกือบ 20 ปี ต้นกาฬพฤกษ์เคยดอกออก พลอยโพยมได้แต่แหงนหน้ามองชมความงามของดอกไม้
เฟริน์ข้าหลวงหลังลาย และต้นไม้ที่ปลูกชืดกันเหมือนที่ลูกชายว่าเหมือนดำนาปลูกข้าว ทั้ง ๆ เขาก็ไม่เคยเห็นการดำนา จริง ๆ
ต้นไม้รอบบ่อที่เคยเลี้ยงปลาบึก ปัจจุบันเป็นบ่อร้าง นาน ๆ ครั้ง ก็จะมีเต่านา คลานขึ้นมาจากบ่อ
พระจันทร์ค้างฟ้าข้างบ่อปลาบึก
พระจันทร์ค้างฟ้าข้างบ่อปลาบึก อีกด้านหนึ่ง
ทางไปหลังบ้านของพลอยโพยมด้านซ้ายมือ
ทางไปหลังบ้านของพลอยโพยมด้านขวามือ
ด้านหน้าจากศาลพระภูมิ
พลอยโพยม ปล่อยให้ต้นตะขบเติบโตเบียดกันอีกด้านหนึ่งของบ้าน เพื่อให้เป็นอาหารของ นกและกระรอก เวลานกและกระรอก ออกมาหากินจะกระโดดไปมาระหว่างต้นตะขบ ที่ใต้ต้นตะขบของบ้านพลอยโพยม ออกลูกเป็นกล้วยน้ำว้า ( เอากล้วยน้ำว้าสุกไปแขวนให้นั่นเอง) แต่ต้นตะขบจะล้มง่ายเวลามีลมพายุมา
ด้านหลังของบ้านส่วนใหญ่เป็นมะฮอกกกานี
ไม้มะค่าโมง ประดู่เหลือง พยอม อินจัน ต้นหมาก มะเฟือง สายหยุด
มะค่าโมง ข้างโรงเก็บของ
พลอยโพยมบรรยายเสียละเอียด เกิดมีผู้ไม่ประสงค์ดี เข้ามาก็รู้จักทางรอบบ้านกันหมดพอดี บ้านพลอยโพยมเป็นบ้านแบบบ้านนอกทั่วไปมีครัวแยกต่างหาก ที่สำคัญคือต้องมีโรงโล่่ง ๆ ไว้เป็นสถานที่เอนกประสงค์ พลอยโพยมแบ่งกั้นโรงเก็บของเป็นห้องเก็บของ ซึ่ง เก็บของต่างๆ ไว้ เป็นสิบปี ไม่ได้เอามาใช้ประโยชน์ แต่ถ้าหากเลือกทิ้งของอย่างหนึ่งอย่างใดไป ในไม่ช้่าก็จะมีความจำเป็นต้องใช้ของสิ่งนั้น เป็นแบบนี้บ่อย ๆ จึงไม่ยอมทิ้งอะไร มีแต่เอาไปใส่เพิ่ม เคลียร์ห้องเก็บของไม่ได้สักที มีถุงดำเขียนว่ารอคัดสรรก็ไม่เคยไปคัดสรรเลือกทิ้งสักที
ตอนพลอยโพยมยังทำงานอยู่ ไปสวนจตุจักรทุกเช้าวันพุธก่อนไปทำงาน ซื้อต้นไม้มาปลูก ที่ลูกชายบ่นเสมอว่า แม่ปลูกต้นไม้เหมือนดำนา มีที่ว่างตรงไหน แม่ก็จ่อม ๆ ต้นไม้ลงไป ปัญหาคือขยันปลูก แต่รอเทวดารดน้ำให้ ต้นไม้มากมายที่ปลูกไว้นั้น ใช้หลัก ตายก็ฝัง ยังก็เลี้ยง แม้แต่กล้วยไม้ป่าซึ่งเหลือรอดมาเพราะพี่ชายแสนดีช่วยจัดการให้ สมัยนั้นคนขับรถเคยถามพลอยโพยมว่า พี่ครับ พี่จะปลูกป่าเหรอครับ ถ้าขึ้นหมดบ้านพี่เป็นป่าแล้วนะครับ ก็ควรจะเป็นป่าจริง ๆ เป็นป่าแบบป่ารก ๆ ต้นหญ้ามากมายที่ไม่ยอมตาย แต่ต้นไม้พลอยโพยมปลูกไว้ตายไปหลายร้อยต้นทีเดียว ไม้ป่าทั้งนั้นรวมทั้งไม้ดอกหอมมากมาย สิบกว่าปีที่ไปจตุจักร จนคนขายบอกว่า พี่ครับสงสัยร้านพี่ต้องใหญ่มากแน่ ๆ เขานึกว่าพลอยโพยมซื้อเอาไปขาย ก็พลอยโพยมซื้อต้นไม้แต่ละที่ อย่างละ 5 -10 ต้น (ปลูกเผื่อตายอยู่แล้ว) ท้ายรถ เปิดมาต้นไม้วางนอนเรียงสับหว่างเต็มท้ายรถ ส่วนในรถก็เป็นไม้กระถางเห็นแต่หัวคนขับรถประมาณนั้น
พลอยโพยมปลูกต้นกันเกราไว้ ยี่สิบกว่าต้น สองสามต้นสุดท้ายเพื่งตายไปเพราะ ปลูกไกลบ้านลุยหญ้าไปดูไม่ไหว รวมทั้งต้นฝาง ( ต้นน้ำยาอุทัย ) 3 ต้น ที่รอดชีวิต สูงเลยตัวพลอยโพยมแล้ว รวมทั้งไม้แดง ( มีคนงานในบ้านปลูกให้) มีนกรที่บ้านเคยแนะนำ พลอยโพยมให้ทำสวนพรรณไม้เพื่อการเรียนรู้ ให้ปักป้ายบอกชื่อ ข้อมูลต้นไม้สั้น ๆ ( เหมือนพรรณปลาที่พลอยโพยมทำอยู่) แต่ พอเลิกเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา ที่บ้านก็ไม่มีคนงาน พลอยโพยมทำคนเดียวไม่ได้ และปัจจุบันก็ไม่มีเรี่ยวแรงขุดดิน เพราะจอบเสียมของพลอยโพยมเป็นแสตนเลสหนักมาก ยกเสียมยังไม่ทันขุดดินก็หมดแรงแล้ว
ทุกวันนี้ พลอยโพยม แค่รดน้ำต้นไม้อย่างเดียวก็หมดเวลาในแต่ละวัน ทดลองว่าลองทำให้เสร็จในวันจะรดได้หมดไหม ปรากฏว่า ออกไปรดน้ำตั้งแต่โมงเช้า เที่ยงเข้ามาทานข้าว ออกไปรดใหม่ หนึ่งวันไม่เสร็จ ลองเปลี่ยนรดเป็นโซน ๆ 3 โซน 3 วัน แล้วเวียนมาโซน ที่ 1 ใหม่ ก็พออยู่ได้ได้มีเพียงบางต้นเหี่ยวเฉาไปบ้าง วันไหนมีภารกิจอื่นๆออกนอกบ้าน ไม่ได้รดน้ำต้นไม้ ต้นไม้ก็เฉา น่าสงสารจริง ๆ เฉพาะบริเวณนี้ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง เพราะต้นไม้แต่ละต้น มีกล้วยไม้ผูกติด ต้นละประมาณ 5-6 ต้น โคนต้น ก็มีหัวมัน โคนต้นละ 3-4 หลุม มีต้นไม้เล็ก ปลูกแซม เพื่อรอตัดไม้กระถินเทพาที่ชราภาพมากทิ้งเมื่อไม้เล็กโตแล้ว มีกระถางต้นแซ่ม้า และเฟริน์ในกระถางตลอดแนว
อุปกรณ์ทำสวน ที่มีนกรข้าง ๆ ตัว อุตส่าห์ จัดทำให้พลอยโพยมใช้ปลูกต้นไม้ แม้แต่รถเข็น
บันไดไม้ไผ่ทอดถึงแค่เพียงกิ่งล่างสุดของไม้ป่า
ที่บ้านพลอยโพยมมีต้นไม้มากมายดังภาพ แต่พอตัดต้นสนและไม้ยืนต้นอื่น ๆ ที่อยู่ด้านนอกออกไป บ้านก็ร้อนมาก อยู่อย่างไม่เป็นสุขเหมือนก่อนตัด รวมทั้งต้องริดกิ่งไม้ที่อยู่ชิดรั้วออกไปไม่ให้กิ่งยื่นออกไปที่ของคนอื่น บ้านของพลอยโพยมอยู่ข้างหลังป้ายสีแดงในภาพ และภาพนี้เป็นภาพแนวต้นไม้แบ่งเขตแดน
พลอยโพยมนึกถึงบ้านคนอื่น ๆ ที่ไม่มีต้นไม้แบบนี้ จะอยู่กันร้อนขนาดไหน กันหนอ จากชีวิตวัยเด็กที่เคยอยู่บ้านสวน พลอยโพยม ต้องใช้ชิวิตอยู่กับป่าต้นไม้ ที่มองดูรกรุงรังจนลูก ๆ บ่น ว่า ต้นไม้ของแม่เยอะก็จริงแต่มันรกมาก ๆ เลยนะแม่ แม่จัดให้มันดูมีระเบียบ เป็นแถวเป็นแนวก็คงจะดีนะแม่่
ก็ตอนที่ปลูกน่ะ พยายามอัดต้นไม้ให้อยู่ใกล้ ๆ บ้าน มีที่ว่างก็ชี้นิ้วเลยว่า ขุดตรงนี้ ขุดตรงนี้ ก็ต้นไม้ที่เอาไปปลูกไกลบ้าน ตายเกือบหมด เหลือแต่หญ้า
แม้แต่บริเวณนี้นี้ก็ถูกบ่นว่ารกไป
วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555
คิมหันต์..อันตระการ
คิมหันต์..อันตระการ
กล้วยไม้ป่าเอื้องครั่งสายสั้น
กล้วยไม้ป่าเอื้องครั่งสายสั้น
กล้วยไม้ป่าไอยเรศ
กล้วยไม้ป่าไอยเรศ
กล้วยไม้ป่ากะเรกะร่อน
กล้วยไม้ป่ากะเรกะร่อน
แม้จะเป็นฤดูร้อน ที่ร้อนแรงด้วยแสงตะวันอันเจิดจ้า แต่ก็ยังมีมาลีหลากหลายพันธุ์ที่จะบานสะพรั่งรับลมร้อน โดยเฉพาะกล้วยไม้ป่า ที่บ้านพลอยโพยมยังมีกล้วยไม้ป่าหลงเหลือรอดชีวิตอยู่หลาย ๆ ชนิด เพราะพลอยโพยมมีพี่ชายที่ใจดี เอากล้วยไม้ป่าไปผูกกับต้นไม้ใหญ่ให้ แต่ก็ต้องรดน้ำให้ในหน้าร้อนจะอาศัยให้กล้วยไม้ป่าดูดซับน้ำจากลำต้นของต้นไม้อย่างเดียวไม่ได้ แต่ก็มีกล้วยไม้ป่าแห้งตายไปเสียเยอะ เพราะ ต้นใหญ่ ก็ มียืนต้นตายไปหลายต้น และไม้ใหญ่เช่นต้นกระถินเทพา มะฮอกกานี เปลือกของลำต้นที่มีอายุมาก ๆ (ยี่สิบปีขึ้นไป) เปลือกของลำต้นจะร่อน เป็นแผ่น ๆ รากของกล้วยไม้ป่าก็ดูดน้ำเลี้ยงจากลำต้นต้นไม้ที่อาศัยอยู่ไม่ได้
และเมื่อหลาย ๆ ปีผ่านไปต้นไม้ที่สูงขึ้นทุกปี ก็จะพากล้วยไม้ป่าที่เกาะอยู่ อยู่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนรดน้ำไม่ถึง กล้วยไม้ที่ออกดอกงดงามแต่พลอยโพยมก็ถ่ายภาพไม่ถึง เพราะซูมภาพยังไม่ค่อยเป็น ลูกชายก็ไม่อยุู่ในช่วงกล้วยไม้ป่า เช่น ตอติเลย์ มัจฉานุ เอื้องคำกิ่ว เอื้องคำป็อก เอื้องผึ่้ง ช้างน้าว เอื้องครั่งสายยาว เช็มแสด เข็มม่วง เข็มแดง กุหลาบเหลืองโคราช กุหลาบกระเป๋าเปิด พวงมาลัย เขาแกะ และอื่น ๆ กำลังออกดอก พลอยโพยมก็เลยถ่ายภาพไว้ไม่ได้
ดอกโฮย่า
ดอกพี้จั่น
ดอกพี้จั่น
ดอกหิรัญญิการ์
ส่วน 3 ภาพข้างล่าง เป็นความทุกข์ระทมตรมใจอันใหญ่หลวงของคนในบ้าน ที่เราจำเป็นต้องตัดต้นไม้ที่แม่ละม่อมปลูกไว้ เป็นต้นสน สามสิบต้น มะฮฮกกานี และยูคาลิปตัส รวมทั้งสิ้น 57 ต้น แต่ละต้นอายุ ยี่สิบปีขึ้นไป ขณะนี้ที่บ้านร้อนมาก
และพลอยโพยม มีงานศพญาติ รวม 4 งาน และล่าสุดอดีตเพื่อนร่วมงาน ที่อายุเพียง 54-55 ปี เสียชีวิต ด้วยโรคมะเร็งเป็นรายที่ห้า กำลังอยู่ระหว่างสวดพระอภิธรรม พลอยโพยมกำลังเศร้าซึม
ไม้ที่ถูกตัด
ขออภัยที่ไม่อัพเดทบทความมาหลายวัน พลอยโพยมไม่ได้ตั้งเครื่องคอมในห้องแอร์ พอเปิดหน้าจอคอม ก็จะรู้สึกร้อนมากจากตัวเครื่องคอมด้วย ทำให้หัวคิดที่จะเขียนบทความตื้อไปหมด และประกอบกับ Blogger เปลี่ยนหน้าตาใหม่ พลอยโพยมก็ยิ่งเงอะงะ ทำให้ไม่สุนทรีย์ในอารมณ์ที่จะเขียนบทความ อีกทั้งข้อมือซ้ายของพลอยโพยมเกิดปัญหาเพราะยกค้างไว้ที่คีย์บอร์ดมาเป็นเวลานาน พลอยโพยมกำลังอยู่ในภาวะผีซ้ำด้ามพลอย ประมาณนั้นเลยทีเดียว
กล้วยไม้ป่าเอื้องครั่งสายสั้น
กล้วยไม้ป่าเอื้องครั่งสายสั้น
กล้วยไม้ป่าไอยเรศ
กล้วยไม้ป่าไอยเรศ
กล้วยไม้ป่ากะเรกะร่อน
กล้วยไม้ป่ากะเรกะร่อน
แม้จะเป็นฤดูร้อน ที่ร้อนแรงด้วยแสงตะวันอันเจิดจ้า แต่ก็ยังมีมาลีหลากหลายพันธุ์ที่จะบานสะพรั่งรับลมร้อน โดยเฉพาะกล้วยไม้ป่า ที่บ้านพลอยโพยมยังมีกล้วยไม้ป่าหลงเหลือรอดชีวิตอยู่หลาย ๆ ชนิด เพราะพลอยโพยมมีพี่ชายที่ใจดี เอากล้วยไม้ป่าไปผูกกับต้นไม้ใหญ่ให้ แต่ก็ต้องรดน้ำให้ในหน้าร้อนจะอาศัยให้กล้วยไม้ป่าดูดซับน้ำจากลำต้นของต้นไม้อย่างเดียวไม่ได้ แต่ก็มีกล้วยไม้ป่าแห้งตายไปเสียเยอะ เพราะ ต้นใหญ่ ก็ มียืนต้นตายไปหลายต้น และไม้ใหญ่เช่นต้นกระถินเทพา มะฮอกกานี เปลือกของลำต้นที่มีอายุมาก ๆ (ยี่สิบปีขึ้นไป) เปลือกของลำต้นจะร่อน เป็นแผ่น ๆ รากของกล้วยไม้ป่าก็ดูดน้ำเลี้ยงจากลำต้นต้นไม้ที่อาศัยอยู่ไม่ได้
และเมื่อหลาย ๆ ปีผ่านไปต้นไม้ที่สูงขึ้นทุกปี ก็จะพากล้วยไม้ป่าที่เกาะอยู่ อยู่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนรดน้ำไม่ถึง กล้วยไม้ที่ออกดอกงดงามแต่พลอยโพยมก็ถ่ายภาพไม่ถึง เพราะซูมภาพยังไม่ค่อยเป็น ลูกชายก็ไม่อยุู่ในช่วงกล้วยไม้ป่า เช่น ตอติเลย์ มัจฉานุ เอื้องคำกิ่ว เอื้องคำป็อก เอื้องผึ่้ง ช้างน้าว เอื้องครั่งสายยาว เช็มแสด เข็มม่วง เข็มแดง กุหลาบเหลืองโคราช กุหลาบกระเป๋าเปิด พวงมาลัย เขาแกะ และอื่น ๆ กำลังออกดอก พลอยโพยมก็เลยถ่ายภาพไว้ไม่ได้
ดอกโฮย่า
ดอกพี้จั่น
ดอกพี้จั่น
ดอกหิรัญญิการ์
ส่วน 3 ภาพข้างล่าง เป็นความทุกข์ระทมตรมใจอันใหญ่หลวงของคนในบ้าน ที่เราจำเป็นต้องตัดต้นไม้ที่แม่ละม่อมปลูกไว้ เป็นต้นสน สามสิบต้น มะฮฮกกานี และยูคาลิปตัส รวมทั้งสิ้น 57 ต้น แต่ละต้นอายุ ยี่สิบปีขึ้นไป ขณะนี้ที่บ้านร้อนมาก
และพลอยโพยม มีงานศพญาติ รวม 4 งาน และล่าสุดอดีตเพื่อนร่วมงาน ที่อายุเพียง 54-55 ปี เสียชีวิต ด้วยโรคมะเร็งเป็นรายที่ห้า กำลังอยู่ระหว่างสวดพระอภิธรรม พลอยโพยมกำลังเศร้าซึม
ไม้ที่ถูกตัด
ขออภัยที่ไม่อัพเดทบทความมาหลายวัน พลอยโพยมไม่ได้ตั้งเครื่องคอมในห้องแอร์ พอเปิดหน้าจอคอม ก็จะรู้สึกร้อนมากจากตัวเครื่องคอมด้วย ทำให้หัวคิดที่จะเขียนบทความตื้อไปหมด และประกอบกับ Blogger เปลี่ยนหน้าตาใหม่ พลอยโพยมก็ยิ่งเงอะงะ ทำให้ไม่สุนทรีย์ในอารมณ์ที่จะเขียนบทความ อีกทั้งข้อมือซ้ายของพลอยโพยมเกิดปัญหาเพราะยกค้างไว้ที่คีย์บอร์ดมาเป็นเวลานาน พลอยโพยมกำลังอยู่ในภาวะผีซ้ำด้ามพลอย ประมาณนั้นเลยทีเดียว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)