วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สู่แดนพระพุทธองค์ ๖๖ เสด็จโปรดพระพุทธมารดา




สถูปยมกปาฏิหารย์
ขอขอบคุณภาพจากdhammaweekly.wordpress.com


พลอยโพยมต้องขออภัยผู้ที่สนใจเข้ามาติดตามเรื่องราวในครั้งพุทธกาล ที่บทความไม่เรียงลำดับตามวันเวลาตามพุทธประวัติ รู้สึกกับตัวเองว่า เรื่องราวออกจะกระโดดไปกระโดดมา แต่ได้พยายามคัดสรรเรื่องราวให้มีความต่อเนื่องในระดับหนึ่งแล้ว ( ก็ได้เพียงแค่นี้เอง) บางครั้งก็เกิดเพราะพลอยโพยมเกิดสะดุดใจกับบางเรื่องที่กำลังคัดลอกบทความจากต้นฉบับหนังสือมา ก็พยายามไปหารายละเอียดมาเพิ่มเติมในภายหลัง เรืิ่องราวเลยดูเหมือนกระโดดไปกระโดดมาเช่นนี้ และที่สำคัญเมื่อตั้งต้นคัดลอกบทความแรก ๆ มา พลอยโพยม ใช้เส้นทางการไปจาริกบุญที่บริษัททัวร์จัดเส้นทางไว้ เรื่องจึงตั้งต้นที่พุทธคยา มิใช่การเริ่มต้นบทความที่ลุมพินีอันเป็นสถานที่ประสูติ รวมถึงบทความต่อ ๆ มา จึงเป็นลำดับจาก การตรัสรู้ การเผยแผ่พระพระพุทธศาสนาดังนี้

และจากบทความเรื่อง "สถูปยมกปาฏิหารย์" เรื่องราวกล่าวถึงการจำพรรษาที่ดาวดึงส์เทวโลกเพื่อโปรดพุทธมารดา และเสด็จกลับสู่มนุสสโลก ณ ใกล้ประตูเมืองสังกัสสะหากไม่ลงรายละเอียดในส่วนนี้ก็ทำให้ผู้สนใจเข้ามาอ่านขาดสาระเรื่องราวอันควรทราบไปส่วนหนึ่ง

ดังนั้นพลอยโพยมต้องขอย้อนเรื่องราวกลับมาสานต่อบทความเรื่อง"สถูปยมกปาฏิหารย์"


สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ขอขอบคุณภาพจากthammawairun.blogspot.com

ในขณะที่พระบรมศาสดาทรงแสดงยมกปาฏิหารย์อยู่ที่กรุงสาวัตถีนั้น ทรงดำริว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตหลังจากแสดง ยมกปาฏิหารย์แล้ว จักจำพรรษาอยู่ ณ ที่ใด ทรงทราบว่าอยู่จำพรรษาในดาวดึงส์ภิภพเพื่อตรัสแสดงพระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา

เมื่อพระพุทธองค์แสดงยมกปาฏฏิหารย์เสร็จแล้ว ได้เสด็จขึ้นไปยังดาวดึงส์ภิภพ ท้าวสักกะเทวราชทอดพระเนตรเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงเสด็จมาต้อนรับพร้อมด้วยหมู่เทวดาทั้งหลาย พวกมหาชนที่ติดตามมา ได้ทราบจากพระอนุรุทธะว่า พระพุทธองค์เสด็จขึ้นไปยังภพดาวดึงส์ และจักประทับอยู่ตลอดพรรษา มหาชนจึงพากันตั้งที่พำนักคอยอยู่ ณ ที่นั้น พระบรมศาสดาได้ตรัสสั่งพระโมคคัลลานะไว้ก่อนว่า เธอพึงแสดงธรรมแก่บริษัทเหล่านั้น จุลอนาถบิณฑิกะจักให้เครื่องอุปโภคบริโภคแก่ชนเหล่านั้นทุกวันเวลาทั้งเช้าเย็นตลอดไตรมาส


ดอกปาริชาติหรือทองหลางลายในโลกมนุษย์
ขอขอบคุณภาพจากwww.stou.ac.th

พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับนั่งเหนือบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ณ ควงไม้ ปาริฉัตตกะ ท่ามกลางเทวบริษัท พระพุทธมารดาซึ่งได้เป็นสันดุสิตเทพบุตร ได้เสด็จลงมาจากวิมานชั้นดุสิต เพื่อฟังธรรม




ขอขอบคุณภาพจากwww.stou.ac.th

พระพุทธองค์ทรงแสดงพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ได้แก่

ธัมมสังคณี วิภังค์ ธาตุกถา ปุคคลบัญญัติ กถาวัตถุ ยมก และ ปัฏฐาน





ขอขอบคุณภาพจากwww.buchasangkapan.com



ทรงเริ่มพระอภิธรรมจาก

๑  ธัมมสังคณี (ธมฺมสงฺคณี ) มีความดังนี้
กุสลาธมฺมา
ธรรมทั้งหลายเป็นกุศล คือไม่มีโทษอันบัณฑิต ติเตียน มีสุขเป็นวิบากต่อไป
อกุสลาธฒฺมา
ธรรมทั้งหลายเป็นอกุศล คือมีโทษอันบัณฑิต ติเตียน มีทุกข์เป็นวิบากต่อไป

อพฺยากตา ธมฺมา
ธรรมทั้งหลายที่เป็น อัพยากฤต คือท่านไม่พยากรณ์ว่า เป็นกุศล หรืออกุศล คือเป็นธรรมกลาง ๆ
กตเม ธมฺมา กุสลา
ธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศลเป็นไฉน
ยสฺมึ สมเย
ในสมัยใด
กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ
จิตที่เป็นกุศลอันหยั่งลงสู่กามย่อมเกิดขึ้น.... .
...


สวรรค์ชั้นดุสิต
ขอขอบคุณภาพจากwww.thaimtb.com

พระพุทธองค์ทรงแสดงพระอภิธรรม โปรดพระพุทธมารดา โดยนัยนี้เรื่อยไปตลอดพรรษา ในเวลาบิณฑบาต พระพุทธองค์ทรงเนรมิตพุทธนิรมิต ทรงอธิษฐานว่า พระพุทธนิรมิต จงแสดงธรรมชื่อนี้ ๆ จนกว่าเราจะกลับมา แล้วเสด็จไปป่่าหิมพานต์ ทรงเคี้ยวไม้สีฟันชื่อนาคลดา บ้วนพระโอษฐ์ที่สระอโนดาต นำบิณฑบาตมาจากอุตตรกุรุทวีป ประทับนั่งกระทำภัตตกิจในโรงทานกว้างใหญ่ พระสารีบุตรกระทำวัตรปฏิบัติแก่พระบรมศาสดาในที่นั้น

ครั้นเสร็จภัตตกิจ รับสั่งกับพระสารีบุตรว่า
 " วันนี้เราภาษิตธรรมคัมภีร์นี้แก่พระพุทธมารดา เธอจงบอกธรรมนั้นแก่นิสิต ๕๐๐ ของเธอ "

แล้วเสด็จกลับไปสู่เทวโลก ทรงแสดงธรรมต่อจากพระพุทธนิรมิตแสดง

ส่วนพระสารีบุตรนั้นกลับไปแสดงธรรมนั้นแก่ศิษย์ของท่านเช่นนี้ทุกวันตลอดไตรมาส
ภิกษุนิสิต ๕๐๐ เหล่านั้น เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จอยู่ในเทวโลก ได้เป็นผู้ชำนาญในพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ในพรรษานั้นกว่าภิกษุทั้งปวง



ป่่าหิมพานต์
ขอขอบคุณภาพจากboard.postjung.com

ได้ยินว่า

ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามกัสสปะ ภิกษุเหล่านั้นเป็นค้างคาวอาศัยอยู่ในเงื้อมผาแห่งหนึ่ง ได้ฟังพระเถระ ๒ รูป เดินจงกรมแล้วท่องพระอภิธรรมอยู่ ค้างคาวเหล่านั้นไม่รู้ว่าเหล่านี้ชื่อว่าขันธ์ เหล่านี้ชื่อว่า ธาตุ เพียงแต่ถือเอานิมิตในเสียงนั้นเป็นสำคัญ จุติ (ตาย) จากอัตตภาพนั้นเกิดในเทวโลก เสวยสมบัติสิ้นพุทธันดรหนึ่ง จุติจากเทวโลกนั้นแล้ว บังเกิดในเรือนตระกูลของชาวกรุงสาวัตถี ได้เห็นพระพุทธองค์ทรงแสดง ยมกปาฏิหารย์ มีความเลื่อมใส ขอบวชในสำนักพระสารีบุตร ได้เป็นผู้ชำนาญในปกรณ์ ๗ ดังนี้

พระบรมศาสดาทรงแสดงพระอภิธรรมโดยทำนองนั้นตลอดไตรมาส ในกาลจบเทศนา การตรัสรู้ธรรมได้มีแก่เทวดามากมาย พระพุทธมารดาได้ตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สู่แดนพระพุทธองค์ อินเดีย-เนปาล โดยพระราชรัตนรังษี (ว.ป.วีรยุทฺฺโธ)

หมายเหตุ
เรื่องพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์นี้ มีความเห็นแตกต่างและขัดแย้งกันหลายที่หลายแห่ง แต่พลอยโพยมขออนุญาต ตามความเชื่อส่วนบุคคลของตนเองลงบทความตามข้อมูลที่มีข้างต้นนี้  สำหรับพลอยโพยมเองมิได้มีความรู้ลึกซึ้งในเรื่องพระธรรมของพระพุทธองค์ มีความรู้เพียงเบื้องต้น ทั่ว ๆ ไปที่พุทธศาสนิกชนพึงรู้ เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น