วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

[นิทานเรื่องเล่า]...ผีเสื้อแสนสวย...



นิทาน...ผีเสื้อแสนสวย...
จากหนังสือเรื่อง "โนมผู้อารักษ์" แปลโดย น้าภาคย์

ตลอดฤดูหนาวอันยาวนาน... เมล็ดพันธุ์น้อยและหน่ออ่อนต่างพากันหลับใหลอยู่ในผืนดิน สิ่งห่อหุ้มสีน้ำตาลพันแน่นรอบดอกไม้แสนสวยซึ่งจะบานออกในช่วงเวลาฤดูใบไม้ ผลิ และในขณะที่พวกเขากำลังหลับใหลใต้ผืนดิน เหนือขึ้นไปยังมีรังไหมสีเทาประหลาดเล็กๆแกว่งอยู่ท่ามกลางลมหนาว มันแขวนห้อยกับกิ่งไม้แห้งเล็กๆ ในฤดูใบไม้ร่วง ดักแด้น้อยได้ปั่นทอรังไหมรอบๆตัวเองและผูกตัวติดกับกิ่งไม้ ภายในรังไหม เจ้าดักแด้น้อยหลับฝันถึงแสงตะวันที่มันรัก วันหนึ่งขณะที่มันกำลังฝันและแกว่ง มันเริ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นอีกครั้ง มันจึงตัดสินใจที่จะออกไปสู่โลก ขณะที่มันยื่นจมูกออกไปตรงปลายรังไหม มันมองรอบๆตัวเห็นเหล่าภูตแห่งดวงตะวันส่องแสงสดใส และพวกเขาพูดกับมันอย่างนุ่มนวลว่า

“ออกมาข้างนอกเถิด เจ้าหัวขี้เซา ออกมาเถิด” มันจึงคลานออกไปอย่างเชื่องช้า สำหรับบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับมันในช่วงฤดูหนาว มันได้สูญเสียเสื้อคลุมขนยาวอันอบอุ่นของมันไปแล้ว และตอนนี้มันดูเหมือนตัวประหลาดเปียกๆขาวๆตัวเล็กๆตัวหนึ่ง แต่ภูตแห่งดวงตะวันช่างทำให้ตัวมันแห้งด้วยนิ้วมืออันอบอุ่นอ่อนนุ่ม และมันเริ่มคลายตัวเองออกเหมือนดั่งดอกไม้กำลังเบ่งบาน และในไม่ช้า มันมีปีกสี่ปีกที่โบกนุ่มนวลไปมา และเติบโตมีสีสันขึ้นและสวยงามขึ้นจนกระทั่งในที่สุดมันบินขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับภูตแห่งดวงตะวัน เจ้าผีเสื้อแสนสวย

“ฉันต้องการหาเพื่อนที่จะเล่นด้วย” มันพูดกับภูตแห่งดวงตะวัน

“เธอจะพบว่าในฤดูใบไม้ผลิเต็มไปด้วยเพื่อนๆมากมาย” ภูตแห่งดวงตะวันบอกมัน ดังนั้นมันจึงบินไปดูอย่างมีความสุข มันไม่ได้ไปไกลนักเมื่อมันเห็นสิ่งที่มันคิดว่าเป็นผีเสื้อสวยสีแดงลายจุด ขาวกำลังนั่งอยู่บนพื้นดิน มันบินลงไปข้างล่างด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า

“ฤดูใบไม้ผลิที่แสนสุข” แต่เจ้าผีเสื้อสีแดงไม่ได้พูดตอบใดๆเลย ดังนั้นมันจึงนั่งลงบนพื้นด้วย เพื่อเฝ้ารอคำตอบอย่างอดทน และมันก็คงยังนั่งที่นั่นอยู่ถ้าเจ้าโนมตัวจิ๋วโผล่ออกมากระทันหันและตะคอก ว่า

“ทำไมเจ้าไม่ไปทำงานของเจ้าแทนที่จะมานั่งเป่าลมใส่ฉันด้วยปีกใหญ่งี่ เง่าของเจ้านะ ฉันกำลังงีบหลับอย่างสงบอยู่ตรงนี้ใต้ร่มเห็ดสีแดงของฉัน จนกระทั่งเจ้ามานี่แหละ”

ผีเสื้อบินจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่พูดอะไรซักคำ มันกระพือปีกไปตามทางจ้องมองหาสีสดใสใหม่ โดยหวังว่าอาจจะเป็นผีเสื้อที่จะเล่นกับมันได้ ในที่สุดมันมั่นใจว่ามันเห็นฝูงผีเสื้อกลุ่มหนี่ง สีเหลืองและสีขาว สีชมพูและสีม่วง มันบินลงไปกลางฝูงและพูดว่า

“ฤดูใบไม้ผลิที่แสนสุข” และพวกมันต่างก้มหัวและแกว่งตัวไปรอบๆด้วยท่าทีที่เป็นมิตร จากนั้น ตัวหนึ่งพูดกับมันด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า

“มาเถิด มาลองน้ำหวานของฉัน” ผีเสื้อเห็นว่าพวกมันเป็นเหล่าดอกไม้แสนสวยและไม่ได้เป็นผีเสื้อ มันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เมื่อพวกมันให้น้ำหวานแก่มัน มันรู้สึกมีความสุขมากและบินจากดอกหนึ่งไปอีกดอกหนึ่งเพื่อดูดน้ำหวาน พวกมันต่างพากันเต้นรำอย่างงดงามในกระแสลมอ่อน แต่เมื่อผีเสื้อพูดว่า

“มาเถิด พวกเราบินสูงขึ้นไปใกล้ๆดวงอาทิตย์กันเถิด” เหล่าดอกไม้ต่างส่ายหัวอย่างนุ่มนวลและพูดว่า

“ไม่ ไม่ พวกเราผูกติดกับพื้นดินและบินไม่ได้”

ดังนั้น ผีเสื้อกล่าวอำลาและบินจากไป มันยังคงมองหาเพื่อนผีเสื้อที่จะเล่นด้วย มันบินจนกระทั่งมันเหนื่อยล้าและจากนั้นมันนั่งลงพักผ่อนบนกิ่งไม้แห้งที่มี ก้อนสีเทาตรงปลาย

“โอ้ ที่รัก” มันส่ายหัว “ฉันจะไม่เจอผีเสื้อตัวอื่นเลยหรือนี่” และมันมองหาข้างบนและข้างล่างแต่ก็ไม่พบสิ่งใดที่เหมือนผีเสื้อเลย ต่อมาสูงขึ้นไปบนอากาศมันได้ยินภูตแห่งดวงตะวันหัวเราะและร้องว่า “เธอมองสูงไป” ดังนั้นผีเสื้อจึงมองลงพื้นดินและมันได้ยินโนมหัวเราะและพูดว่า “เจ้าสัตว์งี่เง่ามองต่ำไปด้วย” ดังนั้นผีเสื้อมองตรงไปข้างหน้า แต่ทั้งหมดที่มันเห็นคือ ตัวเศร้าๆซีดๆกำลังคลานออกมาจากก้อนสีเทาตรงปลายสุดของกิ่งไม้ และเขาได้ยินเสียงอันอ่อนล้าพูดว่า “ฉันนี่ไง ฉันจะเล่นกับเธอเอง”

“เล่นกับฉัน” ผีเสื้ออุทาน “ตัวที่น่าสงสารอย่างเธอจะเล่นกับฉันได้ยังไง ฉันผู้มีปีกสวยงามคอยพยุงตัวฉันไว้”

“แค่คอยอีกเดี๋ยวเท่านั้น” อีกตัวหนึ่งพูด

จากนั้นภูตแห่งดวงตะวันลงมาและช่วยมันคลี่ตัวเองออก และมันเริ่มที่จะเติบโตแข็งแรงขึ้นและสีสันสดใสกระจายทั่วทั้งตัว และก่อนที่ผีเสื้อจะคลายความประหลาดใจนี้ มันได้เห็นตัวประหลาดที่ครั้งหนึ่งเคยตัวซีดเซียวคลี่ปีกออก ปีกนี้ช่างสวยงดงามยิ่งกว่าปีกของมันเสียอีก ผีเสื้อตัวใหม่พูดว่า

"มาบินกับฉันท่ามกลางแสงตะวันกันเถิดจ้ะ"

ดังนั้นทั้งสองสหายใหม่ต่างพากันบินจากไปอย่างมีความสุข...








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น