วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

[นิทานเรื่องเล่า] เจ้าหญิงแห่งความฝันกับเจ้าชายแห่งความจริง...


[นิทานเรื่องเล่า] ...เจ้าหญิงแห่งความฝันกับเจ้าชายแห่งความจริง...


เมื่อนานมาแล้ว...มีอาณาจักรแห่งความฝัน...ดินแดนที่มีแต่หิมะสีขาวโพลน หิมะโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าเกือบทั้งปี ทุกสิ่งในอาณาจักรนี้ล้วนเป็นสีขาวสะอาด ไม่มีรอยด่างพร้อยหรือมลทินใดๆ ยามเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือน หิมะบางส่วนในทุ่งนาป่าเขาพากันละลาย หลั่งรินเป็นสายธาราที่หล่อเลี้ยงแผ่นดินให้อุดมสมบูรณ์ ต้นไม้ใบหญ้าแข่งกันผลิใบสีเงินรับแสงอาทิตย์ บรรดาดอกแดนดีไลอ้อนต่างแข่งกันชูช่อไสวด้วยความงดงามที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์แห่งกาลเวลา ดินแดนแห่งนี้จึงถูกขนานนามว่า ดินแดนแห่งความงามนิรันดร์...

ดินแดนนี้เป็นที่พำนักของเจ้าหญิงแห่งความฝันและจินตนาการ...
พระองค์มีบริวารคือนางฟ้าแห่งความฝันมากมาย เหล่านางฟ้าจะ คอยนำเมล็ดพันธุ์แห่งความฝันและจินตนาการไปหว่านโปรยลงในหัวใจของมนุษย์และพสกนิกรของพระองค์ในยามหลับใหล
หิมะขาวพราวพร่าง งดงามสล่าง...

เหนือธารแห่งกาลเวลา...งามเจ้างามนักหนา งามกว่าหิมะใด...ที่สถิตภายในโลกหล้า...

นี่คือส่วนหนึ่งของบทกลอนซึ่งกวีพรรณนาถึงความงามแห่งดินแดนรวมทั้งเจ้าหญิงผู้มีใบหน้าอันอ่อนหวานงดงาม เรือนผมสีเงินยวง ผิวขาวเนียนอมชมพู...

วันหนึ่งเจ้าหญิงแห่งความฝันเดินเล่นยังทุ่งดอกไม้ในดินแดนของมนุษย์ มวลดอกไม้พากันเบ่งบานอวดความงามทั่วท้องทุ่ง ระหว่างที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับดอกไม้อยู่นั้นพลันเหลือบสายตา ไปพบชายผู้หนึ่งยืนอย่างเคร่งขรึม ณ ริมทุ่ง เจ้าหญิงจึงก้าวไปหา...


เขาคือเจ้าชายแห่งเหตุผลและความจริง ผู้ซึ่งจริงจังกับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต และเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องมีเหตุผล ความฝันและจินตนาการเป็นสิ่งที่ไร้สาระ อาณาจักรแห่งความจริงของเจ้าชาย มีเวทมนตร์อันแก่กล้า หากแต่สรรพสิ่งต้องเป็นไปตามครรลองของกระแสธารแห่งกาลเวลา ผลิบานร่วงโรย ก่อเกิดเสื่อมสลาย...

เจ้าชายเป็นคนเงียบขรึม ...เมื่อเขาเห็นเจ้าหญิงเดินเข้ามาใกล้ จึงร่ายเวทย์ทำลายทุ่งดอกไม้ทิ้งและหันหลังเดินจากไปทันที...

"หยุดก่อน" เสียงเจ้าหญิงแห่งความฝันตะโกนไล่หลัง เธอทั้งโกรธทั้งเสียใจกับการกระทำของเจ้าชายอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าเธอจะประทับใจในตัวเขาก็ตาม

"ทำไมท่านต้องทำลายทุ่งดอกไม้ที่สวยงามนี้" เจ้าหญิงเอ่ยถาม

"เพราะมันเป็นสิ่งที่ไร้สาระยังไงล่ะ" เจ้าชายตอบกลับมาด้วยท่าทีเย็นชาก่อนจากไป...

ทุกครั้งที่พบกัน เจ้าชายยังคงทำลายสิ่งต่างๆที่เจ้าหญิงชื่นชอบด้วยเหตุผลเดิม เขาไม่เคยที่จะรับรู้ความในใจของเจ้าหญิงเลยแม้สักครั้งและอาจรวมถึงความในใจของตนเองด้วย..

"ท่านมันคนไม่มีหัวใจ" เจ้าหญิงแห่งความฝันตัดพ้อ เมื่อเจ้าชายแห่งความจริงทำลายฝูงผีเสื้อสีรุ้งของเธอ

"มันคือสิ่งไร้สาระ" เจ้าชายตอบกลับเช่นเดิม แต่คำว่า...คนไม่มีหัวใจ...ได้ติดตราอยู่ในหัวของเจ้าชายแล้ว โดยที่เขามิอาจรู้ว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้พบกับเจ้าหญิงของเขา

ความรักคือสิ่งที่เพ้อฝันไร้สาระ... เจ้าชายแห่งความจริงคิด




ในอาณาจักรแห่งความงามนิรันดร์ของเจ้าหญิง...หิมะมีรอยด่างพร้อย ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มเหี่ยวเฉา เหล่านางฟ้าแห่งความฝันลดจำนวนลงอย่างน่าใจหาย อาณาจักรแห่งนี้มิอาจคงความงามนิรันดร์ไว้ได้อีกแล้ว...ความเสื่อมโทรมของอาณาจักรแห่งความฝันมีต้นเหตุมาจากเหล่ามนุษย์ผู้ดูแคลนความฝันและจินตนาการ ก่อให้เกิดอสูรแห่งความไม่เชื่อ ซึ่งรังแต่จะทวีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่ว่าเจ้าหญิงแห่งความฝันจะพยายามลงมือแก้ไขเช่นไร เมื่อมีกำลังมากพอ เหล่าอสูรได้กรีฑาทัพเข้ารุกรานอาณาจักรของเจ้าหญิง

ทันทีที่พวกอสูรเหยียบย่างลงบนผืนดินในอาณาจักรแห่งความฝัน เวทมนตร์ซึ่งคุ้มครองอาณาจักรอยู่เสื่อมลง ดินแดนแห่งความงามนิรันดร์จึงตกอยู่ในห้วงของกระแสธารแห่งกาลเวลา...

เลือดสีแดงเปรอะเปื้อนบนพื้นหิมะสีขาว ต้นไม้ถูกโค่นทำลาย ต้นหญ้าถูกเหยียบย่ำแหลกเหลว หิมะละลายเจิ่งนองพื้น หมอกควันสีดำปกคลุมไปทั่วอาณาจักร บดบังท้องฟ้าสีครามและแสงอาทิตย์เอาไว้ บัดนี้อาณาจักรแห่งความงามนิรันดร์ได้กลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว...

เจ้าหญิงแห่งความฝันปลอมแปลงตัว หลบหนีมายังอาณาจักรแห่งความจริงของเจ้าชาย แต่ด้วยอำนาจมนตราแห่งอาณาจักร ทำให้เจ้าหญิงไม่สามารถเข้าไปได้...เธอจึงร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าชาย แต่เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องสงครามที่เกิดขึ้น จนไม่ได้ยินเสียงของเจ้าหญิง...

พวกอสูรยกทัพมาถึงและต่อสู้กับเจ้าหญิง ทว่าเมื่ออาณาจักรของพระองค์ล่มสลายลง พลังเวทย์จึงเสื่อมถอย พวกอสูรได้รับชัยชนะ พวกมันร่ายเวทย์ทำลายเจ้าหญิงเสีย...

เมื่อเจ้าชายรู้สึกตัวและรุดออกมาจะช่วยเจ้าหญิง แต่ช้าไป เธอกำลังกลืนหายไปกับธาตุอากาศ เธอมองเขาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยแววตาอันเศร้าสร้อย...กว่าที่เจ้าชายจะรู้ตัวว่ารักเจ้าหญิงเพียงใดก็สายเกินไปเสียแล้ว เขาได้สูญเสียเจ้าหญิงผู้เป็นที่รักไป...

หลังจากนั้นไม่นาน อาณาจักรแห่งความฝันถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เมล็ดพันธุ์แห่งความฝันและจินตนาการจักโปรยปรายอีกครา เมื่อเจ้าชายแห่งความจริงทราบข่าว เขาเฝ้ารอทุกวันอย่างมีความหวังว่า เมื่อไรเจ้าหญิงของเขาจะกลับมา...แต่มันมิได้เป็นเช่นที่หวัง เจ้าหญิงที่เขาพบกลับมิใช่เจ้าหญิงองค์เก่า...หากเจ้าชายยังคงเฝ้ารออย่างมีความหวัง หวังว่าสักวันเจ้าหญิงของเขาจะกลับมา...

เจ้าชายแห่งความจริง...รังสรรค์สิ่งต่างๆที่งดงามมากมายให้แก่โลก เขายังคงยืนอย่างเดียวดาย ณ ทุ่งดอกไม้ที่ได้พบกับเจ้าหญิงแห่งความฝันครั้งแรก

"เธอไปอยู่ที่ไหนกัน ทำไมถึงไม่กลับมาหาฉัน" หยาดน้ำตาของเจ้าชายกลายเป็นหิ่งห้อยที่คอยกระพริบแสงวิบวับ เพื่อว่ามันอาจนำทางให้เจ้าชายไปพบกับเจ้าหญิงของเขา...

หิ่งห้อยนับร้อยกระพริบแสง...ใสกระจ่างพร่างแพร้วจำรัสหล้า...
มุ่งส่องสว่างด้วยรักแลศรัทธา...หวังให้เธอคืนมาเช่นดังเดิม...

1 ความคิดเห็น: