วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ย้อนรอย..ถอยคืนวัน


ภาพสองฝั่งน้ำที่วัดบางกรูด
แนวชายฝั่งตรงกันข้าม มีแนวป่าจากแสม ลำพู เป็นฝั่งที่ดินงอก
ปัจจุบัน กระแสน้ำเปลี่ยนร่องน้ำ
ริมฝั่งวัดบางกรูด มีต้นกก ลำพู และ ต้นจาก เริ่ม เติบโต ได้ ในวันข้างหน้า ก็จะไม่พังทะลายอีกแล้ว


การป้องกันการพังทะลายของชายฝั่งจากกระแสน้ำ หากไม่มีเงินพอที่จะสร้างเขื่อน กั้นการกัดเซาะของกระแสน้ำ ใช้วิธีทิ้งก้อนหินไว้ชายฝั่งดังภาพ


ริมชายฝั่งของวัดบางกรูด ที่ไม่มีแนวไม้ เพราะเป็นฝั่งดินพังนั่นเอง
มิใช่การตัดต้นไม้ให้โล่งเตียน
ริมฝั่งน้ำ ต้องมีแนวต้นไม้ชายฝั่ง เกาะยึดดินไว้ไม่ให้พังทะลายลงแม่น้ำ


ภาพโป๊ะ ท่าน้ำ และลำพู ย้อยห้อยระย้า ยามเย็น ตะวันรอนอ่อนแสง
บ้านกำนันมด ตำบล บางกรูด เหมือนกัน
เป็นภาพจากอินเทอร์เนต
เนื่องจาก เป็นญาติ และชาวบางกรูดด้วยกัน ขออนุญาตท่านเจ้าของภาพนะคะ กำนันมดคงไม่ได้ถ่ายภาพเองแน่ เป็นรายการ แรลลี่



เอ๋ ทำไมเรามาอยู่บนใบตองแบบนี้ล่ะนี้
ที่ของฉัน ไม่เป็นเลน ก็เป็นต้นแสมนี่นา อุ๊ย งง งง อยู่นะ


สวัสดีเพื่อนปู เธอมาทำอะไรตรงนี้ละนี่


ไม่ใช่แค่เธอและฉัน มีอีกตัวหนึ่ง เป็นสาม น่ะ
เอเรามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกันละนี่
มีปูแสมหนึ่งตัวพ่นน้ำออกมาเพื่อเช็ดตาตัวเอง แสดงว่า ปูตัวนี้ ตาเริ่มมัว เลยต้องเช็ดตา
เมื่อเห็นรอบๆตัวชัดเจนแล้ว ก็ตอบเพื่อนปูอีก สองตัวว่า
พวกเราถูกยักษ์ (มนุษย์ )จับมาละซี่


ก้ามปูแสมทั้งใหญ่และอ้วนม้อต้อ แต่ก้ามก็ใหญ่ไม่เท่ากัน
ต่างตัวต่างแยกวงหาทางรอดกันละ
แจวกันเถอะเรา


เวลาชูก้ามขู่ขวัญ ก็ต้องยกก้ามอันใหญ่ไว้ให้เห็นเด่นชัด
อย่ามาแหยมกับฉันนะ


ถ้าไม่ยกก้ามสูงมาก ก็ยกสองก้ามพร้อมๆกันไหวจ้ะ
ฉันหนีบเธอได้ทั้งสองก้ามนะยักษ์ รู้ไว้ด้วย


น้องปูแสมคลานเพลินๆ คิดว่ายกก้ามขู่แล้วยักษ์คงกลัวไม่ทำอะไร
"แต่ก้ามเธอน่ะ เล็กกว่ามือยักษ์ของฉันมากเลยจะบอกให้คุณปูแสม"
พอถูกจับตัวปุ๊บปูก็เริ่มง้างก้ามทันที


ปูแสมก็มีสัญชาตญาณป่องกันตัวเข่นกัน
ไม่ต้องสงสารปูแสม สามตัวนี้ เพราะ ยักษ์ใจดี เอาไปปล่อยลงบ่อใหญ่หลังบ้าน มีต้นไม้ให้ไต่เล่นได้
ถ้าอยู่ที่ตลาด ปูสามตัวนี้ต้องถูกเอาไปแช่ดองเค็มกับเพื่อนๆอีกเป็นร้อยตัว


ปูทะเลพยายามง้างก้ามจะหนีบคนจับ เหมือนๆ ปู แสม
ต้องเกร็งมือเต็มที่ถ้าพลาดคนจับก็ถูกปูหนีบ


ลักษณะชิงช้า ตามที่เล่าไว้ ใช้เชือกเส้นใหญ่แทนโซ่ แขวนต้นคลักและแสมที่สูงใหญ่กว่านี้มาก


การเลื่อยฟืนที่ลำต้นไม้ใหญ่กว่านี้ต้องตั้งแท่น
แท่นเลื่อยฟืนเป็นไม้สองท่อนตีตะปูเป็นรูปกากะบาท ไม้สองท่อนที่ตีกากะบาทนี้ต้องหนาพอตั้งพื้นได้ มีไม้เป็นด้ามยึดยาวช่วยให้ไม้ที่ตีกากะบาท วางได้มั่นคงขึ้น
วางต้นไม้ ( ที่ลิดกิ่งเหลือแต่ลำต้น)ที่จะเลื่อยตามแนวด้ามยึด พาดไม้บนรอยต่อกากะบาท กะระยะความยาวของท่อนไม้แต่ละท่อนที่ต้องการเลื่อยให้ยาวเกินรอยต่อบรรจบของกากะบาท
มีคนจับด้ามเลื่อย สองคนสองด้าน มีคนที่สามคอยจับลำต้นไม้ที่เลื่อยไม่ให้พลิกไปมาตามแรงกระชากเลื่อยไปมา การเลื่อย เลื่อยส่วนที่ยื่นเกินแท่นกากะบาท


เมื่อเลื่อยออกเป็นท่อนๆแล้ว
ต้องใช่ขวานผ่าอีก ให้เป็นซีกๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น