วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พระราชสิทธาจารย์แห่งวัดนาหลวง

พระราชสิทธาจารย์แห่งวัดนาหลวง
ประวัติ หลวงปู่ทองใบ ปภัสสโร พระภาวนาวิสุทธาจารย์ พระราชสิทธาจารย์ ปี พ.ศ.522-2528 หลวงปู่ธุดงค์อยู่ที่จังหวัดเลย ขณะเจริญภานา อยู่ที่ภูหลวงจังหวัดเลย อยู่ในถ้ำน้ำหนาว วันหนึ่งได้เข้าสมาบัติอยู่จนล่วงเช้าล่วงปัจฉิมยาม (เวลาประมาณ ตีสาม) เมื่อออกจากสมาบัติได้นิมิตเห็น หมู่เทพธิดา 4 ตน แต่งกานสวยงามสะอาดด้วยเสื้อสีขาว ผ้าซิ่นสีน้ำเงิน มือถือดอกฮวงสุ่ม (ดอกไม้ป่าของอีสาน) หลวงปู่ แผ่เมตตาให้ ส่งกระแสจิตจนสามารถสื่อความได้ รับรู้ว่าเทพธิดาจากภูย่าอู่มานิมนต์ ให้ไปอยู่สร้างบารมีที่ภูย่าอู่ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออก มีสัญลักษณ์สำคัญ คือต้นไทรคู่ ก่อนจากไปเทพธิดา ได้กล่าวกับท่านว่า จากนี้ไปอย่าเข้าไปเข้าถ้ำอีก พูดจบได้เอาดอกฮวงสุ่มปิดปากถ้าไว้
หลวงปู่ จึงออกแสวงหาที่สับปายะ ได้ค้นพบภูย่าอู่ ต้นไทรคู่ตามนิมิต เป็นจุดที่ชาวอุดรเรียกว่าถ้าเกิง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำโสม-นายูง บ้านนาหลวง ตำบลคำด้วง อำเภอบ้านผือ อุดรธานี เห็นเป็นชัยภูมิเหมาะที่จะก่อตั้งเป็นวัดถาวรต่อไป
วันที่ 9 มกราคม2529 หลวงปู่เดินทางมายังภูย่าอุ พร้อมศิษยานุศิษย์ ประกอบด้วยพระภิกษุ 5 รูป สามเณร 2 รูป อุบาสิกา 14 คน ครั้งแก ได้ปักกลด บริเวณทางเดินจงกรม ในปัจจุบัน (ข้างกุฎิหลวงปู่) ได้สร้างกระต๊อบเล็กๆ ด้วยไม้ไผ่พออยู่ได้ มืดและหนาวมาก ออกบิณฑบาตตั้งแต่ ตี4 เดินทางลงไปจากภู ด้วยความยากลำบาก ไปที่หมู่บ้าน เดินทางไปกลับ 16 กม. ข้ามเขา 4 ลูก กลับขึ้นมา 9.30 น ได้ขุดบ่อลึก เป็นบ่อน้ำ ใช้ ในการเพาะปลูกพืชผัก ผลไม้และใช้สอย ก็มีน้ำไหลซึมออกมา แต่อยู่ได้ 15 วัน น้ำก็หมด วันหนึ่งขณะเจริญภาวนา ปรากฏเด็กชายวัย 8 ขวบ มาพูดคุยสนทนา มีการพูดถึงปัญหาขาดแคลนน้ำ เด็กน้อยรับปากช่วย จากนั้นบ่อน้ำที่แห้งไปแล้ว ก็ปรากฏมีน้ำได้ใช้ตลอดมา
ระยะทางจากเทศบาลอุดร ถึงทางแยกไป อำเภอผือ 12 กม. แยกถนนมิตรภาพถึง ผือ 42 กม. ผือถึงบ้านนางิ้ว 20 กม ..
บ้านนางิ้วถึงแยกทางเข้า 10 กม. ทางแยกเข้าถึงวัด 12 กม. รวม 96 กิโลเมตร
ปัจจุบัน วัดมีอาณาบริเวณ ประมาณ 15 ไร่ สำนักงานป่าไม้อุดร กระทรวงเกษตร ฯ ได้มอบหมายให้วัดดูแล ป่าอุทยานแห่งชาติที่อยู่ล้อมรอบ มีเนื้อที่โดยประมาณ 25,000 ไร่ เพื่ออาศัยบารมีหลวงปู่ ป้องกัน การบุกรุกตัดไม้บนภูเขาแห่งนี้ มีทั้งส่วนที่เป็นป่าไม้เดิม และป่าใหม่ที่ปลูกทดแทน ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ระยะทางจากเทศบาลอุดร ถึงทางแยกไป อำเภอผือ 12 กม. แยกถนนมิตรภาพถึง ผือ 42 กม. ผือถึงบ้านนางิ้ว 20 กม บ้านนางิ้วถึงแยกทางเข้า 10 กม. ทางแยกเข้าถึงวัด 12 กม. รวม 96 กิโลเมตร
และต้องเดินขึ้นไปบนเขาอีกประมาณ 200 ขั้น เป็นทางเดินที่ก่อสร้าง เป็นขั้นบันไดซีเมนต๋กว้างให้ได้พักขา มีราวบันไดเกาะถึงข้างบน ส่วนสัมภาระ มีกระเช้าชักรอกขึ้นลง เอาของวางในกระเช้า แล้วกดกริ่งเรียก ให้ข้างบนชักรอกด้วยไฟฟ้าขึ้นไป ทางรถวิ่งขึ้นไปได้เฉพาะรถของวัด หรือได้รับอนุญาต นอกนั้นต้องจอดรถไว้ลานข้างล่าง มีเจ้าหน้าที่ดูแล จอดกัน 3 วัน 5 วัน เจ็ดวัน ไม่เคยมีประวัติ รถหาย วัดยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง อาคารปฏิบัติธรรม ขุดบ่อน้ำใหญ่ 3 บ่อ
วัดได้รับการถวายทั้งรถ แมคโคร รถดัน รถ18 ล้อ รถสิบล้อ รถปิ๊ถอัพ ติดชื่อว่าเป็นของวัด วิ่งกันแค่นี้ ก็ขวักไขว่ รบกวนสมาธิ ผู้ปฏิบัติ อยู่แล้ว จึงไม่ให้นำรถของญาติโยมขึ้นมา รวมทั้งทางขึ้นเขาก็วกวน สู้เดินเท้าขึ้นไปไม่ได้
หลวงปู อายุ 73 ชื่อ พระภาวนาวิสุทธาจารย์ หรืออดีตพระครูประภัสสรสุทธิคุณ (หลวงพ่อทองใบ ปภฺสสโร โยมพ่อเป็นคนร้อยเอ็ด โยมแม่ เป็นคนกาฬสินธุ์ เป็นบุตรคนที่5 ใน 8 คน ใฝ่ธรรมขอไปอยู่วัดตั้งแต่ 4 ขวบ แต่บิดามารดาเห็นยังเด็กเกินไป รอจน 7 ขวบ จึงไปอยู่วัด เพื่อเรียนหนังสือด้วย ( โยมพ่อโยมแม่ท่านรวย มีที่ดิน แจกลูกๆ คนละร้อยไร่ หลวงปู่ ก็ได้รับ 1 00 ไร่ด้วย ท่านให้พี่น้องดูแล) ท่านบวชเณร จน ปี 2499 ก็บวชพระ ท่านเกิด ปี พศ. 2479
ท่าน ก็เป็นทั้งเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะอำเภอ อันดับ1 ของอำเภอผือ เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาท่านลาออกจากรองเจ้าคณะอำเภอ เพื่อการเผยแผ่พุทธรรมอย่างเดียว ในปี 2533
การศึกษาการปฎิบัติธรรม ท่านแสวงหาศึกษาธรรมจากพระอริยสงฆ์ ต่างๆหลายท่าน พ.ศ.2508 อยู่กับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ และหลวงปู่ เทสก์ เทสรังสี
พ.ศ. 2509 อญุ่กับหลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่เพชร พ.ศ. 2510 อยู่กับหลวงปู่ชา สุภทฺโท พ.ศ. 2511 อยู่กับหลวงปู่ฝั้นน อาจาโร (รอบสอง)
พ.ศ.2512 อยู่กับหลวงปู่สด พ.ศ.513 อยู่กับหลวงปู่ดุล อตุโล, หลวงปู่หล้า
พ.ศ.2514 อยู่กับท่านพุทธทาส (รอบสอง) พ.ศ. 2515 อยู่กับหลวงพ่อปัญญา วัดชลประทาน ฯ หลวงปู่อาจ จังหวัดชลบุรี หลวงปู่อาจวัดมหาธาตุ และวัดเพลงวิปัสสนา
พ.ศ. 2516-2517 ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำโพธิสัตว์ จังหวัดสระบุรี หลังจากนั้นได้ออกธุดงค์ ทั่วไทย และ ประเทศใกล้เคียง ลาว เขมร พม่า มาเลเซีย
ปีพ.ศ.2519-2530 ปฎิบัติวิปัสสนาขั้นอุกฤษฎ์ ในอิริยาบถ 3 ท่าคือ ยืน เดิน นั่ง ที่วัดไทยทรงธรรม บ้านคำบง อำเภอผือ อุดรธานี สลับกับการออกธุดงค์ ( ท่านได้ตั้งสัจบารมีที่จะงดอิริยาบถนอน เป็นเวลา 30 ปี ทำต่อจากปี พ.ศ. 2530 )
อยู่ห้องกรรมฐาน 7 เดือน ออกธุดงค์ 5 เดือน อยู่ห้องกรรมฐาน 9 เดือน ออกธุดงค์ 3 เดือน อยู่ห้องกรรมฐาน 11 เดือน ออกธุดงค์ 1 เดือน
2529 บำเพ็ญภาวนาอยู่ที่อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย 2530 บำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำผาป่าไร่( ถ้ำพญานาค) อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
ปี 2543 ท่านตั้งสัจจารมีจะไม่รับกิจนิมนต์ใดเพื่อทำพิธีกรรมเป็นเวลา 13 ปี เพื่อจะทำกิจในการเผยแผ่พุทธธรรมอย่างเดียว ปัจจุบัน ท่านเป็นพระราชาคณะ ชั้นราช เป็นพระราชสิทธาจารย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น