วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2556
หลงทิวทุ่งตระการ 1
ครอบครัวใหญ่ ใกล้ฝั่ง ตั้งหน้าวัด
ต้องพรากพลัด ลัดลา พาหวั่นไหว
อยากจะถอย รอยวัน กลับหันไป
ย้อนไม่ได้ ไป่คืน กลืนอาดูร
บริเวณที่ตั้งของบ้านสวนริมน้ำซุกซ่อนตัวในแนวป่าจากถ่ายจากหน้าวัดบางกรูด
เมื่อห้าสิบปีก่อนบริเวณนี้คือสวนที่คนในครอบครัวกว่ายี่สิบชีวิตเคยสนุกสนานกับบ้านสวน
ยายขาเป็น ประธาน ที่บ้านสวน
อบอุ่นอวล อิ่มเอื้อ เมื่อมีศูนย์
เราสอดสาน งานไว้ ไม่อากูล
แสนพร้อมมูล พูนสุข ทุกข์ห่างไกล
โรงเรียนวัดเบางกรูด
เฝ้าฝนฝึก ศึกษา หาความรู้
รุ่นแรกอยู่ ย่านนี้ ที่ขานไข
วัดบางกรูด เก่าก่อน สอนใครใคร
เติบโตใหญ่ ใฝ่ดี ศรีบ้านเมือง
โรงเรียนวัดผาณิตาราม
รุ่นหลังถัด วัดผา น่าสนุก
เคยเดินรุก บุกนา ฝ่าฟางเหลือง
ควายขวิดเขา เข้าสู้ อยู่เนืองเนือง
เมื่อขุ่นเคือง เรื่องนี้ มีอาจินต์
ฝนตกซ่า เวหาห้อง คะนองเสียง
ผ้าใบเพียง ผืนเดียว เสียวหวิววิ่น
ฟ้าแลบร้อง รีบยอบ หมอบพื้นดิน
ครายลยิน ยิ่งหวั่น สั่นกายา
บางวันลม ไล่เอา เราล้มลุก
แล้วกลิ้งคลุก ขี้ฝุ่น วุ่นจริงหนา
ความแรงจัด พลัดหก ตกคันนา
เซถลา พาหลง ลงปลักควาย
พลอยโพยมขอย้อนกลับมาที่วันวานของบางกรูดเมื่อห้าสิบปีที่แล้วอีกครั้งหนึ่ง จากกรอบเรื่องเล่าของพลอยโพยมมี 6 เรื่อง ซึ่งเรื่องที่หนึ่ง คือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับลำน้ำบางปะกง คือเรื่องราวชาวน้ำ เป็นวิถีชีวิตผู้คนบนริมฝั่งน้ำโดยทั่ว ๆ ไป การดำรงชีวิตประจำวัน ที่หมุนเวียนไปตามฤดูกาล การสัญจรด้วยเรือ พันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ พันธุ์ไม้ชายน้ำต่าง ๆ
กรอบของเรื่องเล่าที่สองเป็นเรื่องราวในท้องทุ่งนาที่ในสมัยเด็ก พลอยโพยมต้องเดินเท้าเปล่าผ่านเป็นเส้นทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดผาณิตามราม
ป้ายกำกับ:
บทกวี
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น