วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

มะม่วงหาว มะนาวโห่



มะม่วงหาว มะนาวโห่ หรือ มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ บางแห่งเรียกว่า ‘มะงั่วไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่’ เป็นชื่อที่มีการกล่าวถึงว่านำมาปรุงยาได้ในนิทานเรื่องพระรถเมรี
และมีการกล่าวว่า มะนาวไม่รู้โห่เป็นต้นไม้ที่มีชื่อปรากฎอยู่ในวรรณคดีเรื่อง สังข์ทอง และรามเกียรติ์ ( http://www.jamrat.net/jamrathealth.aspx?blogid=601)
แต่เมื่อหาข้อมูลของพันธุ์ไม่นี้ จะพบว่ามีข้อมูลของต้นหนามแดง ซึ่งมีชื่ออื่นว่า มะนาวไม่รู้โห่ มะนาวโห่บ้าง หนามขี้แฮดบ้าง
ส่วนต้นมะม่วงไม่รู้หาว
เป็นชื่อพ้องของมะม่วงหิมพานต์ มีชื่อวิทยาศาตร์ว่า Anacardium occidaenate L. จัดอยู่ในวงค์ Anacardiaceae
ก็มีข้อมูลเพียงด้านสรรพคุณเท่านั้น
ไม่พบข้อมูลรายละเอียดทางพฤกษศาสตร์พันธุ์ไม้ของมะม่วงหาว มะนาวโห่ หรือ มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ มะงั่วไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่’
ดังนั้นพลอยโพยมก็ถือเสียว่ามะม่วงหาว มะนาวโห่ หรือ มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ มะงั่วไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่’ เป็นชื่อเรียกบางท้องถื่นชองคนไทยที่ใช้เรียก ต้นหนามแดง



ชื่อไทย หนามแดง
ชื่อสามัญ Karanda, Carunda, Christ ' s Thom
ชื่อวิทยาศาสตร์ Carissa carandas L.
ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE ชื่ออื่น มะนาวไม่รู้โห่ (ภาคกลาง) มะนาวโห่ (ภาคใต้) หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) หนามแดง (กรุงเทพ)




ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นไม้พุ่ม สูง 2-3 เมตร ทรงพุ่มกลม แตกกิ่งจำนวนมากทุกส่วนมียางสีขาวเหมือนน้ำนม ลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมยาว 2-5 เซนติเมตร ปลายหนามมีสีแดง






ใบ
เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่กลับ ปลายใบมนหรือเว้าเข้าเล็กน้อย โคนใบกลม ผิวใบสีเขียวเข้มเป็นมัน



ดอก
เป็นดอกช่อสั้น ๆ ที่ปลายกิ่ง กลีบดอกสีขาว มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบมีขนโคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาวสีชมพูแกมแดง
ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ หอมตลอดวัน ออกดอกทั้งปี










ผล
ผลเป็นผลเดี่ยวออกรวมกันเป็นช่อ
ผลรูปกลมรี มนรี หรือรูปไข่ ผลอ่อนมีสีขาวอมชมพู ผลดิบมีน้ำยางมาก




ผลจะค่อยๆ เข้มขึ้นเป็นสีแดง กระทั่งสุกจึงกลายเป็นสีดำ



นิเวศวิทยา
พบได้ที่ แอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลียเขตร้อน
ในประเทศไทยพบขึ้นตามป่าเบญจพรรณ




การขยายพันธุ์
เมล็ดและตอนกิ่ง




ประโยชน์
ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ไม้โชว์ทรงพุ่ม




ผลกินได้
ผลแก่จัด มีวิตามินซี รับประทานเป็นอาหารป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด ทำแยม ดองเกลือ




สรรพคุณ
ราก เป็นยาขม เป็นยาขม เจริญอาหาร
ใบสด ใช้แก้เจ็บคอ แก้ท้องเดิน เนื่องจากมีสารแทนนิน




หนามแดง เป็นไม้ที่ทนทาน ปลูกเลี้ยงได้ง่าย กิ่งตอนออกรากได้ง่ายภายใน 1 เดือน
ปลูกให้ออกดอกได้ในกระถาง หรือปลูกลงกลางแจ้ง เป็นต้นเดี่ยว ๆ หรือกลุ่มเป็นแนว




หนามแดงชอบดินชื้นและแสงแดดจัด




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือไม้ดอกและไม้ประดับ
หนังสือไม้ดอกหอม เล่ม 2 ของ ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น




มีข้อมูลจากภัตตาคารบ้านทุ่งที่นำผลมะนาวโห่ ปรุงเป็นอาหารต่าง ๆ เช่นผัดไทยเต้าหู้มะนาวโห่ น้ำพริกเผามะนาวโห่ ฟรุตตี้ลืมหาว ( ติดตามรายละเอียดได้จาก http://women.kapook.com/view41948.html ) ซึ่งมีข้อมูลจากคุณลุงศิริ เจริญช่าง และ คุณป้าสมปอง เจริญช่าง เจ้าของสวนมะม่วงหาวมะนาวโห่ ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ดังนี้




มะม่วงหาว มะนาวโห่
มีลักษณะผลสีแดงเรียวเล็กคล้ายมะเขือเทศราชินี รสชาติตอนสุกจะหวานนุ่มลิ้น แต่หากยังไม่สุกจะมีรสเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน หากกัดไปจะมียางเหนียว ๆ ฝาดคอ คุณลุงศิริบอกว่ายางของมันมีประโยชน์ช่วยสมานแผล แต่หากทานไปแล้วสัก 10 นาที เกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก แสดงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจโต ควรกินวันละ 1 ผลเพื่อปรับสภาพร่างกายให้ชิน หากไม่มีอาการแล้วให้เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 9-10 ผล กินติดต่อกันประมาณ 3 เดือน จะรู้สึกว่าเลือดหมุนเวียนดี และสุขภาพแข็งแรงขึ้น แต่ไม่เหมาะกับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์

มีเคล็ดลับในการปลูกต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ ดังนี้
ใช้ปุ๋ยมะพร้าวมาผสมให้ดินเกิดช่องว่างในการชอนไชของราก โดยไม่ต้องรดน้ำมาก เน้นให้โดนแดดทั้งวันจะได้มีสีผลสดสวย ลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ จะไล่เปลี่ยนสีตั้งแต่สีขาว สีขาวอมชมพู สีแดง ซึ่งในระยะนี้จะให้รสเปรี้ยว ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วง และสีดำเข้ม หมายถึงสุกเต็มที่แล้ว จะให้รสชาติหวานนุ่มชวนอร่อย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://women.kapook.com/view41948.html




มีข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณลุงศิริ เจริญช่าง จากอีกแหล่งว่า
มะนาวไม่รู้โห่ถ้ากินลูกสีขาวชมพูออกแดงๆตาจะสว่างกินแก้ง่วง กินลูกสุกสีม่วงจะหาวนอนนอนหลับสบายโบราณจึงว่ามะม่วงไม่รู้หาวมะนาวไม่รู้โห่
บางแห่งเรียกหนามแดงเพราะต้นมีหนามออกดอกสีขาวหอม ผลหน้าตาคล้ายๆมะเขือเทศราชินีหรือองุ่นออกผลมาเป็นพวง
คุณ ศิริได้แปรรูปผลมะนาวโห่ เป็นผลิตภัณฑ์น้ำดื่มมะนาวโห่ ลอยแก้ว แยม น้ำพริก และมะนาวโห่กวนสามรสสี่รสแม้กระทั่งผสมเข้าไปในผัดไทยมะนาวโห่เพื่อบำรุงสุขภาพ
มีข้อมูลด้านสรรพคุณของมะม่วงหาวมะนาวโห่ ที่คุณศิริ เจริญช่าง ประสบเองจากการมีโรคประจำตัวคืออาการถุงลมโป่งพองมิหนำซ้ำมีโรคแทรกซ้อนเป็นโรคริดสีดวง และโรคความดันสูง ที่ได้ผลจากการกินมะม่วงหาวมะนาวโห่
มีบุคคลอ้างอิง ถึงผู้ที่เป็นมะเร็งตับ ผู้ที่มีโรคเบาหวาน มีอาการทุเลาจากกการกินผลมะนาวโห่




นอกจากนี้
ผลไม้ชนิดนี้สามารถนำมาปรุงอาหาร ใช้แทนรสเปรี้ยวของมะนาว มะม่วง หรือมะขามได้
เช่นแกงส้ม หรือผัดเปรี้ยวหวาน ถ้าเป็นแกงส้มก็จะใช้ผลแก่นำมาผ่าครึ่งแล้วเอาเม็ดออก ล้างน้ำใส่ลงในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพอสุกก็นำมายีนิดหน่อย ใส่หม้อกลับไปเหมือนเดิม ใส่เครื่องแกง
ผัดเปรี้ยวหวานใช้ผลสุก เพราะจะได้ทั้งสีสันและก็รสเปรี้ยว
ถ้ากินผลสด จะมียาง ควรเก็บตั้งไว้สัก 2-3วัน ยางก็จะน้อยลง เด็ดเอาขั้วออก กินแก้ไอแก้เจ็บคอ
ทำมะนาวโห่มาปั่น โดยใช้ผลสุกผ่าเอาเมล็ดออกล้างน้ำ ใส่โถปั่นกับน้ำเชื่อมและเกลือ ปั่นให้ละเอียดแล้วค่อยใส่น้ำแข็งปั่น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.jamrat.net/jamrathealth.aspx?blogid=601




และยังพบข้อมูลสรรพคุณของมะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ อีกข้อมูลหนึ่งว่า
มะม่วงไม่รู้หาว
เป็นชื่อพ้องของมะม่วงหิมพานต์ มีชื่อวิทยาศาตร์ว่า Anacardium occidaenate L. จัดอยู่ในวงค์ Anacardiaceae
สรรพคุณทางยาพบว่า
- ผล ฆ่าเชื้อ ขับปัสสาวะ พอกดับพิษ แก้ลักปิดลักเปิด
- เมล็ด แก้กลากเกลื้อน แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา แก้เนื้องอก บำรุงไขข้อ บำรุงกระดูก บำรุงเส้นเอ็น บำรุงกำลังบำรุงผิวหนัง
- เปลือก แก้บิด ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องเสีย แก้กามโรค ทำยาอมรักษาแผลในปาก แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ
- ยอดอ่อน รักษาริดสีดวงทวาร
- ยาง ทำลายตาปลา กัดทำลายเนื้อที่ด้านเป็นปุ่มโต แก้เลือดออกตามไรฟัน รักษาหูด รักษาขี้กลาก แผลเนื้องอก โรคเท้าช้าง
- น้ำมัน ฆ่าเชื้อ ทาถูนวดให้ร้อนแดง ยาชา รักษาโรคเรื้อน กัดหูด แก้ตาปลา แก้บาดแผลเน่าเปื่อย



ต้นมะนาวไม่รู้โห่
เป็นชื่อพ้องของต้นหนามแดง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Carissa carandas L. อยู่ในวงค์ Apocynaceae
สรรพคุณทางยาพบว่า
- ราก แก้คัน ทำให้เจริญอาหาร บำรุงธาตุ ขับพยาธิ บำรุงกระเพาะอาหาร ดับพิษร้อน แก้ไข้
- แก่น บำรุงไขมันในร่างกาย บำรุงธาตุ ทำให้ร่างกายแข็งแรง
-เนื้อไม้ บำรุงไขมันในร่างกาย บำรุงธาตุ แก่อ่อนเพลีย บำรุงกำลัง
- ใบ แก้ท้องเสีย แก้เจ็บคอ เจ็บในปาก แก้ปวดหู แก้ไข้
- ผล รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ฝาดสมาน
ขอขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.medplant.mahidol.ac.th/user/reply.asp?id=5441



สำหรับสรรพคุณด้านสมุนไพรข้างต้นหากผู้สนใจจะนำไปใช้โปรดศึกษาตามแหล่งที่มาของข้อมูลโดยละเอียดก่อน




เมื่อหลายปีก่อน มีนกรอาวุโสของพลอยโพยมได้ปลูกต้นมะนาวโห่จำนวนประมาณ หนึ่งพันต้น เป็นรั้วรอบศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งฉะเชิงเทรา สังกัดสำนักวิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บนเนื้อที่ 87 ไร่ จากการเพาะเมล็ด เนื่องมาจากเป็นต้นไม้ที่มีหนามเป็นอาวุธเพื่อป้องกันการบุกรุกจากผู้ไม่ประสงค์ดี ต่อมาเมื่อมีการสร้างรั้ว ต้นมะนาวโห่เหล่านี้ก็จะอยู่ ภายในรั้วบ้าง อยู่นอกรั้วบ้าง มีทั้งรั้วก่ออิฐบล๊อกบ้าง นอกรั้วลวดหนามบ้าง ตามแนวที่เป็นรั้วลวดหนามคือด้านของแนวชายแม่น้ำ เป็นรั้วกั้นระหว่างเขตพื้นที่ของศูนย์กั้นกับเขตแนวป่าชายเลน




มีนกรคนนี้ลงไปควบคุมดูแลการปลูกด้วยตนเอง มีคนงานที่รับผิดชอบดูแลรดน้ำ จนต้นมะนาวโห่เจริญเติบโตดีสมใจคุณมีนกร







เมื่อต้องโยกย้ายตามลำดับขั้นความก้าวหน้าของราชการ ไปอยู่ส่วนในภายในกรมประมง คนงานที่รับผิดชอบก็เริ่มปล่อยปละละเลย เริ่มรังเกียจรังงอน ต้นมะนาวโห่เพราะปริมาณที่มีมาก ต้นมีหนามแหลม ทั้งที่ความรับผิดชอบเมื่อต้นเจริญเติบโตแล้วก็เพียงดูแลวัชพืชที่มาพันเลื้อยปกคลุมต้นมะนาวโห่และพันธุ์ไม้อื่น ๆ แต่การเข้าใกล้ต้นมะนาวโห่หากไม่ระมัดระวังบางครั้งก็ถูกหนามแหลมประทุษร้ายเอาได้ อีกทั้งบางครั้งการกำจัดวัชพืชด้วยการเผาไฟทำให้ต้นมะนาวโห่ล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้มีหน่วยงานอื่นเข้ามาใช้สถานที่ร่วมกับศูนย์ ฯ




หน่วยงานใหม่รู้สึกว่าต้นมะนาวโห่ริมรั้วบดบังทัศนียภาพของอาคารที่ทำการ ก็มีการฟันต้นมะนาวโห่ทิ้งไปอีกจำนวนหนึ่ง




ในสองสามปีมานี้ มะนาวโห่ถูกเปิดตัวด้านสรรพคุณสมุนไพร ได้มีผู้เสนอขอเข้ามารับซื้อผลมะนาวโห่อย่างไม่จำกัดปริมาณ เสนอราคาน่าสนใจ แต่เนื่องจากเป็นศูนย์ราชการ การซื้อขายอาจก่อปัญหา จึงไม่มีผู้ใดดำเนินการเก็บผลมะนาวโห่ขายเป็นเรื่องจริงจัง

เพียงแต่มีคนเก็บผลมะนาวโห่มาแปรรูป เป็นมะนาวโห่แช่อิ่มขายเล็ก ๆ น้อยภายในกันเอง







เป็นที่ขำขันเมื่อมีการกล่าวถึงเรื่องการปลูกต้นมะนาวโห่ พันต้น เมื่อสิบปีที่แล้ว ว่าตอนปลูกใหม่ ๆ เป็นเรื่องน่าอิดหนาระอาใจว่า ปลูกกันทำไมมากมายแบบนี้
แต่มาวันนี้มีคำพูดที่พูดตรงกันว่า น่าเสียดาย




นอกจากคำว่าน่าเสียดายแล้ว แล้ว ก็คือ ความคิดถึง ความระลึกถึง เจ้าของโครงการปลูกต้นมะนาวโห่พันต้นเป็นรั้วรอบศูนย์




หากมนุษย์ทุกคน มีความรักในต้นไม้ เห็นประโยชน์ของเหล่าพรรณไม้ทุกต้นที่โลกนี้ได้จัดสรร สรรค์สร้างให้ ดังเช่นในครั้งพุทธกาล หมอชีวกได้พบว่า ไม่มีพรรณไม้ใด ในเมืองที่ท่านไปศึกษาเล่าเรียนอยู่นั้น ไม่สามารถนำมาปรุงยาได้เลยสักต้นเดียว




มนุษย์จะสามารถค้นพบความมหัศจรรย์ในสรรพคุณของพรรณไม้อื่น ๆ ตามมาเป็นระลอก ๆ จนหมดทั่วพรรณไม้ในแผ่นดินนี้




ภาพชุดข้างล่างนี้ต้องการสือหนามของต้นหนามแดงที่มีปลายแหลมของหนามเป็นสีแดง










เพิ่มเติม ภาพ 25557











กระเช้าผลงานของนักเรียนกลุ่มสังคมศึกษาทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด " อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา " ณ โรงเรียนดัดดรุณี
ประกอบด้วย มะม่วงหาวมะนามโห่แข่อิ่ม รากสามสิบเชื่อมแข่อิ่ม   ฝักรุ่ยเชื่อม และแยมมะนาวโห่



ยังมีพันธู์ไม้อีกชนิดที่ละม้ายคล้ายคลึงกับต้นหนามแดงคือต้นหนามพรม




ชื่อไทย หนามพรม
ชื่ออื่น ขี้แฮด พรม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Carissa spinarum L. (Carissa cochinchinensis Pierre)
ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE




ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่ม มีน้ำยางขาว สูง 4-5 เมตร มีหนามที่กิ่งก้าน
ใบ
ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่กลับ
ดอก
ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่ง กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด สีขาว มีกลิ่นหอม




ผล
ผลสด รูปกระสวย เมื่อสุกสีม่วงดำ


สรรพคุณ
ตำรายาไทยใช้ แก่น ซึ่งมีรสฝาดเฝื่อน ขมและมันเล็กน้อย บำรุงกำลัง ทำให้ร่างกายแข็งแรง


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.pharmacy.mahidol.ac.th


2 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากมายค่ะ
    ภาพสวยข้อความอ่านได้ความรู้เข้าใจง่าย
    ได้รู้จักมะม่วงหาวมะนาวโห่มากขึ้นแถมรู้จักต้นหนามพรมด้วย

    ตอบลบ
  2. เคยมาอ่านนานแล้ว วันนี้นึกถึงประวัติการปลูกต้นหนามแดงเป็นรั้ว จึงกดหาเจอมาอ่านอีกครั้งก็รู้สึกดีค่ะ เหมือนเล่าสู่กันฟังได้ความรู้ดูภาพสวยๆไปด้วย ขอบคุณมากนะคะ

    ตอบลบ