วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ฃีวิตจริงที่ยิ่งกว่าบทประพันธ์ 2 ของศรินทร

เรื่องราว วันวานของคุณศรินทร มีดังนี้

และพลอยโพยมขออนุญาตเอ่ยชื่อเล่นของคุณศรินทรว่าคุณหนุ่ย


แรกรุ่นดรุณี



พี่ ๆ และคุณหนุ่ยเป็นสามใบเถาของคุณพ่อคุณแม่ โดยมีคุณหนุ่ยเป็นน้องนุชสุดท้อง คุณหนุ่ยเป็นคนเรียนหนังสือเก่งมีความจำดี อ่านหนังสือครั้งที่ 1 พอจะจำได้เกือบหมด อ่านครั้งที่ 2 ถือว่าจำได้หมด อ่านครั้ง 3 จะจำได้คำต่อคำ เมื่ออยู่ชั้น ประถมปีที่ 1 ในเทอมแรกคุณหนุ่ยทำข้อสอบได้เร็วกว่าเพื่อน เมื่อนำข้อสอบไปส่งคุณครู เมื่อคุณครูอ่านคำตอบเสร็จ ก็เดินมาที่โต๊ะเรียนของคุณหนุ่ยซึ่งในสมัยนั้นเป็นโต๊ะเรียนที่มีลักษณะเปิดขึ้นได้เหมือนเปิดฝากล่อง (พลอยโพยมก็ทันไ้ด้ใช้โต๊ะเรียนแบบนี้เช่นกัน)

คุณครูสั่งให้คุณหนุ่ยเปิดโต๊ะเรียนเพราะคิดว่ามีการลอกคำตอบจากหนังสือเรียนที่แอบไว้ในนั้น แต่ไม่มีหนังสือสักเล่ม คุณครูจึง pass ชั้นเรียนให้ขึ้นไปเรียนชั้นประถมสอง โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนคาทอลิค ชื่อโรงเรียนกุหลาบวัฒนา สอนโดยซิสเตอร์คณะ อุร์สุลินซึ่งอำนวยการสอน 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนกุหลาบวัฒนา โรงเรียนมาร์แตร์เดอีร์วิทยาลัย โรงเรียนวาสุเทวี โรงเรียนเรยีนาเชลีที่เชียงใหม่ ซึ่งในปัจจุบันมีเพิ่มโรงเรียนศิริมาตย์เทวีที่เชียงรายเป็นโรงเรียนที่ 5



คุณหนุ่ยเรียนจบชั้น ม.ศ. 5 สายวิทยาศาสตร์ จากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ทั้ง ๆ ที่ชอบการเขียนหนังสือ แต่งกลอนและวาดภาพ

แม้ว่าคุณหนุ่ยจะได้รับคัดเลือกไปศึกษาต่อโดยทุน AFS ซึ่ง intrend มากในช่วงเวลานั้น แต่คุณหนุ่ยตัดสินใจไม่รับทุนนี้ และเลือกไปเรียนสายธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเอกชนคือ Portsmouth Interstate Business College ที่เมือง Portsmouth , Ohio USA ซึ่งให้ทุนการศึกษาเช่นกัน และเรียนจบปริญญาตรี ที่ University of Palm Beach ด้วนคะแนนเกียรตินิยม 3.76 ในเวลา 2 ปีเศษ และด้วยวัย 20 ปี ( พลอยโพยมเรียนจบปริญญาตรี ด้วยวัย 24 ปี)

เมื่อกลับมาเมืองไทยนั้น เพื่อน ๆ คุณหนุ่ย ยังเรียนอยู่ปี 3 ในมหาวิทยาลัยกันอยู่




คุณหนุ่ยเคยคิดจะทำงานที่กระทรวงศึกษาธิการ แต่พอเห็นเงินเดือน 1,450 บาท ก็เปลี่ยนใจไปสมัครงานที่บริษัททิสโก้ ซึ่งอยู่บนชั้นที่ 4 ของธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ที่ถนนสีลม ก่อนเข้าทำงานต้องผ่านการสัมภาษณ์เบื่องต้นโดยผู้จัดการคนไทย และถูกส่งต่อไปให้ผู้บริหารสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ โดยคุณชุมพล ณ ลำเลียง ซึ่งคุณหนุ่ยคิดว่าเป็นชาวญี่ปุ่น ที่พูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ เมื่อสัมภาษณ์จบคุณชุมพลก็ลุกขึ้นยื่นมือมา Shake hand กับคุณหนุ่ยและพูดว่าภาษาไทยว่า
"ยินดีต้อนรับครับคุณศรินทร"

คุณหนุ่ยรับผิดชอบงาน ในตำแหน่งงาน Marketing Officer ร่วมทีมกัน 3 คน คือ คุณชัยนรินทร์ ศรีเฟื่องฟุ้ง คุณพิษณุ จงสถิตย์วัฒนา และตัวคุณหนุ่ยเอง



โลกกลมจริง ๆ เพื่อนเรียน Stat ของพลอยโพยม ชื่อ ศิริพร (หม่อม) ชาญชัยเวชกุล ได้แต่งงานกับ คุณพิศิษฐ์ จงสถิตย์วัฒนา น้องชายคนเล็กสุดของครอบครัวจงสถิตย์วัฒนา และเพื่อนของพลอยโพยมคนนี้ก็มีงานแปลบทความที่เกี่ยวข้องกับคริสต์ธรรมอยู่บ้าง พลอยโพยมก็เพิ่งเปิดเจอบทแปลจาก google ไม่นานมานี้เอง ปัจจุบันหม่อมเขาเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 3 ปี และเป็นหนึ่งในรายนามที่ชาว Shi 33 จะไปร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนร่วมรุ่นทุกแผนกของคณะบัญชี ที่โรงพยาบาลสงฆ์ ในต้นเดือนสิงหาคมทุกปีมาหลายปีแล้ว แม้ว่าหม่อมจะเป็นชาวคริสต์ก็ตามที

(พลอยโพยมเริ่มงานที่ธนาคารด้วยเงินเดือน 1,535 บาท และมีรุ่นพี่ที่ทำงานเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศได้รับเงินเดือนเพียง 2 พันบาทเศษ ( ประมาณ 2,260 บาท ) ตัวเลขเงินเดือนเหล่านี้เป็นการแสดงว่า เงิน 5 บาท 10 บาท ในสมัยนั้นมีค่ามาก เมื่อทำงานครบปีมีการปรับขึ้นเงินเดือนก็จะขึ้นเป็นขั้น ๆ ละ ประมาณ 35 บาท ขึ้นเงินเดือนแบบอยู่ในกระบอกเงินเดือน ไม่ได้ขึ้นเป็นเปอร์เซนต์จากฐานเงินเดือนเหมือนสมัยนี้ )
เรื่องค่าของเงินในสมัยนั้นยีงมีเรื่องเล่าจากคุณหนุ่ยว่า คุณหนุ่ยและทีมงานชอบพูดภาษาอังกฤษระหว่างกัน ต่อมาทีมงานก็มีการตกลงกันว่า ที่นี่คือเมืองไทยควรต้องพูดภาษาไทยกันจึงจะสมเป็นคนไทยและเป็นการถูกต้อง ดังนั้นจึงมีการตั้งกฏกติกากันว่าหากใครพูดภาษาอังกฤษต้องถูกปรับเงิน 1 บาท ต่อคำ ( ถ้าพูดเป็นประโยคยาว ๆ ก็คงโดนปรับหลายบาทกันเลยทีเดียว)



งานหลักของทีม Marketing Officer ก็คือการขายเอกสารทางการเงินชนิดใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักกันนัก ก็คือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน (promissory note ) และตั๋วแลกเงิน ( Bill of Exchange ) Banker's Acceptance นับว่าคุณหนุ่ยและเพื่อน ๆ ทีมงานเป็นนักการเงินรุ่นแรกสุดในประเทศไทยคนหนึ่ง




มีอยู่วันหนึ่งคุณหนุ่ยถูกคุณบัญชา ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกสิกรไทยเรียกไปพบ คุณหนุ่ยรู้สึกตกใจมากเพราะในตำแหน่งของคุณหนุ่ยยังไม่ถึงระดับจะเข้ารายงานด้วยเรื่องใดกับท่าน แต่ปรากฎว่าเมื่อได้เข้าไปพบท่าน คุณบัญชา ล่ำซำยิ้มอย่างมีเมตตาให้และบอกกับคุณหนุ่ยว่า ที่เรียกให้มาพบก็เพราะเนื่องจากในการประชุมของบรรดาผู้จัดการสาขาธนาคารกสิกรไทย มีผู้จัดการสาขาหลายคนที่รายงานเป็นทำนองว่า มี Marketing ผู้หญิงจากบริษัททิสโก้แย่งลูกค้าของสาขาของพวกเขา ทำให้ท่านอยากรู้จัก Marketing ผู้หญิงคนนั้น เพราะธนาคารกสิกรไทยเองก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัททิสโก้ นั่นเอง

หลังจากนั้นคุณหนุ่ยก็ได้รับกียรติเชิญไปงานต่่าง ๆ ที่คุณบัญชา ล่ำซำ เป็นเจ้าภาพบ่อย ๆ

4 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีครับ ผมพิศิษฐ์ สามีของหม่อมครับ บังเอิญได้มาอ่านเจอบทความนี้ครับ
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  2. สวัสดีครับ ผมพิศิษฐ์ สามีของหม่อมครับ บังเอิญได้มาอ่านเจอบทความนี้ครับ
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
    2. พลอยโพยมระลึกถึงหม่อมเสมอ พลอยโพยมคือเพื่อนที่เคยทำงานธนาคารซึ่งหม่อมเคยช่วยนัดให้พลอยโพยมได้มีโอกาสเข้าไปเสนอผลิตภัณฑ์ของธนาคารกับคุณพิศิษฐ์ที่บริษัท ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่ให้เวลาและโอกาสเข้าพบในครั้งนั้นค่ะ

      ลบ