วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557
สู่แดนพระพุทธองค์ ๑๐๐ พระภัททากัจจานาเถรีกราบทูลลานิพพาน ๑
ขอขอบคุณภาพจากwww.chakrabhand.org
วันหนึ่งขณะที่พระภัททากัจจานาเถรี เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ก็ทราบถึงวาระแห่งอายุสังขารจะสิ้นสุดลง เมื่อแจ้งประจักษ์ดังนั้นจึงไปเฝ้าพระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วก็ทอดพระเนตรมองพระพักตร์แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สมเด็จพระชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นพระภัททากัจจานาเถรี มีอาการผิดแปลกไปเช่นนั้นก็ทรงทราบแจ่มแจ้งในพระสัพพัญญูว่า
ถึงกาลแล้วที่พระภัททากัจจานาเถรี จะสิ้นชนมายุสังขาร มาลาตถาคตดับขันธ์เข้าสู่นิพพาน
สมเด็จพระบรมศาสดาจึงทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีแห่งพระวรกายให้แก่พระเถรีได้เห็นเป็นวาระสุดท้าย
ขอขอบคุณภาพจากwww.kunkroo.com
พระภัททากัจจานาเถรีกราบทูลว่า
“ข้าแต่พระผู้ทรงพระภาคอันงามประดับไปด้วยรัศมี พระองค์ได้ทรงเป็นสวามีแห่งหม่อมฉันนี้นับชาติไม่ถ้วนตลอดมา แต่นี้ไปจักไม่มีโอกาสได้เห็นพระองค์ผู้เคยเป็นพระภัสดาอีกแล้ว”
“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่หม่อมฉันมีวาสนาสิ้นสุด จักขอพระบรมพุทธานุญาตทูลลาดับขันธ์เข้าสู่นิพพานเพราะสิ้นชนมายุสังขารในวันนี้แล้วพระเจ้าข้า"
พระพุทธองค์ตรัสว่า
“ดูกร เจ้ายโสธราพิมพาที่เคยมีคุณแก่ตถาตคเอ๋ย หากเจ้ากำหนดกาลอันควรแล้วก็จงเคลื่อนแคล้วดับขันธ์ เข้าสู่่นิพพานอันเป็นอมตสุขเถิด เราอนุญาต”
ขอขอบคุณภาพจากthailandsogood.wordpress.com
พระภัททากัจจานาเถรีกราบทูลว่า
ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า
หม่อมฉันชื่อ ยโสธรา เป็นปชาบดีของพระองค์
ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า
เมื่อยังครองอาคารวิสัยหม่อมฉันเกิดในศากยสกุล มีชาติตระกูลประเสริฐสุดในหญิง ๑๙๖,๐๐๐ นาง เมื่ออยู่ในพระราชวังเป็นเทวีของพระองค์ พระองค์ทรงให้หม่อมฉันเป็นมหาเทวี เป็นประธานใหญ่กว่านารีทั้งปวง เป็นประมุขของขัตติยะสากิยานี ๑๘,๐๐๐ นาง สมบูรณ์ด้วยรูปสมบัติ และอาจารสมบัติ นารีทั้งมวลเคารพหม่อมฉันเหมือนมนุษย์เคารพเทวดา เมื่อบวชแล้วหม่อมฉันเป็นประธานสากิยาณีเถรี ๑,๑๐๐ รูป
ขอขอบคุณภาพจาก www.xn--42c4ake2a0nd.net
ข้าแต่พระมหามุนี
หม่อมฉันเพียงเสี้ยวเวลาที่ยกเท้าขึ้นขัดสมาธิ ก็สามารถใช้อภิญญาระลึกถึงอดีตชาติที่ผ่านมาได้นับอสงไขยแสนกัป เห็นบุญกรรมที่ทำไว้ตลอดกาลนานดังเห็นหนทางท่ามกลางแสงสุริยฉายในเวลากลางวัน หม่อมฉันติดตามพระองค์มาดังนาวาทองลำน้อยที่ลอยตามนาวาทองลำใหญ่ ได้ทำอธิการจำนวนมาก อธิการของหม่อมฉันตลอดกาลนานเหล่านั้นหม่อมฉันทำไปเพื่อประโยชน์แก่โพธิญาณของพระองค์ ขอพระองค์ทรงระลึกถึงกุศลกรรมเก่าของหม่อมฉันเถิด
ขอขอบคุณภาพจากwww.thodan.net
ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันสร้างสมบุญนับอเนกอนันต์ก็เพื่อประโยชน์แก่โพธิญานของพระองค์ แม้ชีวิตก็ยอมสละเพื่อประโยชน์แก่พระองค์ได้
ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์ประทานหม่อมฉันให้เป็นภรรยาผู้อื่นหลายพันโกฏิกัป เพื่อประโยชน์แก่โพธิญานของพระองค์ หม่อมฉันมิได้เสียใจเรื่องนั้นเลย
ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่ออุปการะหลายพันโกฏิกัป เพื่อประโยชน์แก่โพธิญานของพระองค์ หม่อมฉันมิได้เสียใจเรื่องนั้นเลย
ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์ประทานหม่อมฉัน เพื่อประโยชน์เป็นอาหารหลายพันโกฏิกัป หม่อมฉันมิได้เสียใจในเรื่องนั้นเลย พระองค์ประทานชีวิตหม่อมฉันหลายพันโกฏิกัปเพื่อให้ชุมชนพ้นจากภัย หม่อมฉันมิได้เสียใจในเรื่องนั้นเลย
ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันไม่เคยหวงเครื่องประดับ และผ้านานาชนิดซึ่งอยู่ที่ตัว เพื่อประโยชน์แก่โพธิญานของพระองค์
ข้าแต่พระมหามุนี ทรัพย์ ข้าวเปลือก ปัจจัย เครื่องบริจาค บ้าน นิคม ไร่นา บุตร ธิดา ช้าง ม้า โค กระบือ ทาสี ทาสา มากมายนับไม่ถ้วน พระองค์ทรงบริจาคแล้วเพื่อประโยชน์แก่โพธิญาณของพระองค์ หม่อมฉันย่อมยินดีในทานอันอุดมของพระองค์
ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันยอมรับทุกข์มากมายหลายอย่างนับไม่ถ้วนก็เพื่อประโยชน์แก่พระองค์
ข้าแต่พระมหามุนี คราวใดหม่อมฉันได้รับสุขหม่อมฉันย่อมอนุโมทนา
และคราวใดที่ได้รับทุกข์ก็ไม่เสียใจ หม่อมฉันยินดีแล้วในที่ทุกสถานเพื่อประโยชน์แก่โพธิญานของพระองค์
ขอขอบคุณภาพจากwww.weloveshopping.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sujipuli.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539241829 http://www.palapanyo.com/pimpa
สมเด็จพระนางพิมพาภิกษุณี
จาก หนังสือ วิมุตติรัตนมาลี
รจนาโดย พระพรหมโมลี
วัดยานนาวา กทม.
ป้ายกำกับ:
[บทความ]
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น