วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

[บทความ] ภาพงาม...ยามย้อนเยือน

ภาพงาม...ยามย้อนเยือน

คำว่าภาพงามมิได้หมายความว่าพลอยโพยมถ่ายภาพได้สวยงาม ซึ่งตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง พลอยโพยมเพิ่งหัดถ่ายภาพในคราวนี้เอง กล้องก็ใช้เมนูต่างๆไม่ถูก ใหม่ ๆ คำว่าโฟกัสภาพก็ไม่เข้าใจ ภาพที่ได้อาศัยการถ่ายภาพมามาก ๆ คือ 100 หรือ 200 ภาพ แล้วคัดดูภาพที่ภาพดูดีที่สุด บางครั้งภาพที่ถ่ายมาใช้ไม่ได้เลย เป็นที่น่าเสียดายที่เราย้อนไปถ่ายใหม่ก็ไม่ได้ภาพซ้ำหากเป็นภาพของธรรมชาติจริง ๆ แมันว่าดวงตะวันจะขึ้นที่ขอบฟ้าทุกวัน แต่ในแต่ละวันก็คนละองค์ประกอบของท้องฟ้า อากาศ ก้อนเมฆ สายน้ำก็เช่นกัน แม้แต่ปลา แต่ละวันก็แต่ละอารมณ์ ท่าทีของการแหวกว่ายก็ไม่เหมือนกัน หากเป็นการใช้ฟิล์มในการถ่ายภาพ พลอยโพยมคงถึงขั้นหมดตัวกันเลยทีเดียว

คำว่าภาพงามหมายถึงความงดงามของธรรมชาติ ถึงแม้ว่า ภาพที่พลอยโพยมย้อนไปเยือนสถานที่ที่เคยคุ้นจะมีองค์ประกอบสิ่งแวดล้อมแม้แต่ภูมิทัศน์ของสถานที่จะเปลี่ยนไปจากเดิมเมื่อสี่สิบปีมาแล้ว แต่ดวงอาทิตย์ยังคงเป็นดวงอาทิตย์ดวงเดิม มีการขึ้นทางทิศตะวันออก ตกทางทิศตะวันตก สายน้ำบางปะกงก็ยังคงรินไหล ความงดงามแห่งดวงทินกรที่หมุนจรจากขอบฟ้าคราอรุณ คล้อยเคลื่อนไปตามเวลาและลาลับท้องนภาไปในยามเย็นย่่ำของแต่ละวัน สายน้ำยังคงไหลขึ้นแล้วก็คืนไหลลง เป็นเช่นนี้ตลอดกาล นั่นเอง

แม้ภาพเหล่านี้อ่อนด้อยฝีมือในการถ่ายแต่ก็น่าจะสื่อได้ว่าโลกของเรายังงดงามทั้งธรรมชาติและขนบธรรมเนียมประเพณีด้วยวิถีไทย

ภาพที่ปรากฏนี้เป็นภาพที่ถ่ายหลังจากที่พลอยโพยมได้เขียนบทกลอนไว้สามสิบกว่าปี เขียนขึ้นในขณะที่เหงาและคิดถึงแม่น้ำบางปะกงยามที่พลอยโพยมจากบ้านมาไกลเพื่อเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยในเมืองหลวง
ความเหงาส่วนหนึ่งเกิดจากพลอยโพยมเคยคุ้นกับชีวิตที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ส่วนความคิดถึงบ้านนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กที่ไม่เคยจากอกพ่อแม่ไปไหน ๆ
เนื้อหาของบทกลอนเป็นสิ่งที่พลอยโพยมพบเห็นทุกเมื่อเชื่อวันมาเกือบยี่สิบปี (ในขณะนั้น) ไม่ว่าจะหลับตาหรือลืมตา ภาพเหล่านั้นก็แจ่มชัดสดใสเจิดจ้าอยู่ในห้วงความคิดคำนึง

จนกระทั่งคิดจัดพิมพ์หนังสือจึงออกไปตระเวนเก็บภาพมาประกอบ ภาพนี้บางภาพเป็นตัวแทนของภาพอดีต บางภาพเป็นภาพที่ยังหมุนเวียนเกิดขึ้นอยู่มาโดยตลอดแบบชั่วนาตาปี..คงมีอยู่นิจนิรันดร์
























ไก่แจ้เป็นไก่ที่ขันเสียงเพราะเสนาะเสียงแหลมใส


ไก่ชนพื้นบ้านตัวผู้ เสียงใหญ่และออกห้าว

บางปะกง เจ้าเอย เคยมองอยู่
แต่เช้าตรู่ ตกเย็น เห็นแล้วหลง
ชลาลัย ไหลขึ้น ไหลคืนลง
น้ำเวียนวง วนคลื่น ล้วนตื่นตา

อรุณรุ่ง แรกวัน นั้นงามเหลือ
ตะวันเรื่อ เลื่อมลาย ปลายเวหา
เสียงไก่ขัน ขานแจ้ว ลอยแว่วมา
สกุณา พาผิน บินจากรัง

สุริยะ รัศมี ที่สาดส่อง
รุ่งเรืองรอง ทองทา สาครฝั่ง
ประกายวาว วิบไหว วิไลดัง
เทพไท้ฝัง เพชรพลอย ลอยวารี





ภาพในบทกลอนเป็นภาพพระพายเรือข้ามฝั่งแม่น้ำบางปะกง เวลาต้องแสงพระอาทิตย์ภาพของท่านงดงามมากซึ่งปัจจุบันไม่มีวิถีชีวิตแบบนี้แล้ว
สื่อแทนด้วยภาพพระพายเรือบิณฑบาต ในลำคลองที่วัดเทพราชแทน ซึ่งในอำเภอบ้านโพธิ์ยังเหลือวัดริมน้ำที่มีพระพายเรือบิณฑบาตเพียงวัดเดียวและเพียงองค์เดียว เป็นหนึ่งเดียวจริง ๆ ในขณะนี้













ภิกษุสงฆ์ ลงเรือ บิณฑบาต
คัดพายวาด ลอยล่อง ต้องรังสี
จีวรเหลือง เรืองฉาย ลายมณี
แสงรวี สอดสาย พรายวับแวว



ภาพของคุณจ้อ นั่งจ้อเรือนลำพูรีสอร์ท

ริ้วรำไพ ไล้ลอด บนยอดหญ้า
ละลานตา แสงเพชร ราวเกล็ดแก้ว
หยาดน้ำค้าง พร่างอยู่ ดูพร่าแพรว
เหยียดยาวแนว มรกต สดอาภา



ภาพของเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา

สายลมเย็น ยามโชย โรยระรื่น
พราวเป็นคลื่น กลืนหาย สายวหา
เรือลำน้อย คล้อยเคลื่อน เลื่อนธารา
ผืนนภา วิหค โผผกจร


ภาพของคุณจ้อ นั่งจ้อเรือนลำพูรีสอร์ท

เสียงจิ๊บจิ๊บ จำเรียง สำเนียงหวาน
เพลงขับขาน ปานไล้ โลมสมร
บินคลอเคลีย เคียงคู่ สู่อัมพร
หมู่ภมร ว่อนร่า มาแต่ไกล


หนอนผีเสื้อ

ก่อนเป็นตัวผีเสื้อแสนสวย ผีเสื้อก็เป็นตัวหนอนก่อน ก่อนถ่ายภาพก็นึกว่าหนอนตัวนี้หน้าตาสีสันน่าเกลียดเสียจริง ยืนมองไปมองมา ก็เปลี่ยนความคิดว่าหนอนพวกนี้สวยดีออกลวดลายสีจัดจ้านทีเดียว หันไปหันมาก็เห็นตัวผีเสื้อบินไปบินมารอบ ๆ ตัวแต่ถ่ายภาพไม่ได้ เพราะคุณผีเสื้อแสนงามเธอไม่บินลงเกาะใบไม้ดอกไม้ให้จับภาพได้คอยเสียหนื่อยหน่ายใจก็ไม่ได้ภาพมา


ผีเสื้อ


ผีเสื้อ


ภมร - แมลงภู่


ผึ้งและดอกตะขบ




มวลมาลี คลี่ขยาย กระจายกลิ่น
ภุมริน บินหา ผกาไหน
สุมามาลย์ บานหอม ยวนย้อมใจ
ผีเสื้อไซ้ บุษบา พาอวลอาย












ควันไฟลอย ไหลเลื่อน เคลื่อนครัวบ้าน
อิ่มเอิบซ่าน ใส่บาตร บุญคาดหมาย
ปล่อยเป็ดไก่ ในรั้ว พาวัวควาย
เดินเรียงราย ปลายทุ่ง มุ่งทำกิน




ท้องทุ่งเสก สวรรค์ ให้สรรค์สร้าง
ชาวนาต่าง สางกิจ นิจสิน
แรงกายสาด หยาดเหงื่อ เรื่อหยดริน
รดแผ่นดิน ชุ่มชื้น ฉ่ำชื่นทรวง




























ครั้นยามสาย กระแสสินธุ์ ระรินไหล
เรือขวักไขว่ ไหวตาม โมงยามช่วง
ชลธาร การงาน ผ่านทั้งปวง
เภตราพ่วง เรือยนต์ ปนประปราย

ภาพบางภาพพลอยโพยมซูมภาพบังไม่เป็นเพราะถ่ายจากระยะไกล เชิญชมเนื้อหาของภาพแทนความงดงาม

คำแปล
อรุณ เวลาพระอาทิตย์ใกล้จะขึ้นมี ๒ระยะคือมีสีขาวเรืองๆ(แสงเงิน)และแสงแดงเรื่อๆ(แสงทอง )เวลาย่ำรุ่ง
รุ่ง เริ่มแรกแห่งวัน
รำไพ (๑) รวิ พระอาทิตย์
วหา แม่น้ำ
บุษบา ดอกไม้
สาง ทำให้แจ้งกระจ่าง
เภตรา เรือ เรือสำเภา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น