วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

บทกวี ...มีแก้เซ็ง

บทกวี ...มีแก้เซ็ง


บทความนี้นำมาเป็นตัวอย่างให้กับชีวิตที่วุ่นวายยุ่งเหยิง หรือในช่วงที่เซ็งจัด
ผู้เขียนบทกลอนเหล่านี้ ไม่ใช่นักกวีที่ชื่นชอบการเขียนบทกลอน แต่ พลอยโพยมก็พยายามแทรกกลอนในเวลาเขียนเมล์ถึงกันบ่อย ๆ จนเพื่อน ๆ ในกลุ่มคุ้น และเริ่มลองเขียนกลอน ตอบโต้กันบ้าง ในช่วงที่ ในกลุ่มของเราเซ็ง มาก ๆ เพื่อน ๆ และพลอยโพยมเอง ก็ พัฒนาการเขียนกลอนมาด้วยกัน บทกลอนบางบท บางคน อ่านแล้ว ไม่รู้ลืม ต้องเอามาแซวกันบ่อย ๆ ว่า เนี่ย นะ บทกลอน เป็นกลอนตรงไหนนี่ กลอนประตูหรือกลอนหน้าต่างบ้านเธอกันแน่

ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน อ่านผ่านเลยไป อย่าใส่ใจ กับ ฉันทลักษณ์ของบทกวี หรือความไพเราะของบทประพันธ์
พลอยโพยมแค่สื่อความว่า
หากคนไทย ไม่ทอดทิ้งความเป็นไทย วิถีไทย ไม่มองข้าม หาว่าเชย ล้าสมัย ความเป็นไทยของเราจะอยู่ยั่งยืนนาน และพวกเรานั่นเองที่จะเป็นผู้สืบสานความเป็นไทยให้ดำรงคงอยู่

สงกรานต์ปีนี้เพื่อน ๆ อยากมาทำบุญที่วัดบางกรูด เพราะ เห็นพลอยโพยมเล่าเรื่องราวกล่าวถึง สำหรับแปดริ้วนั้นเพื่อน ๆ มากันบ่่อย ๆ อยู่แล้ว ส่วนใหญ่มานมัสการหลวงพ่อโสธร นับครั้งกันไม่ถ้วน

แค่มีเมล์นัดหมายกันไปเที่ยว ก็ มีเรื่อง ขำ ๆ เกิดขึ้น อย่างนี้ สมัยยังทำงานพลอยโพยมก็เก็บเมล์ลักษณะนี้ รวบรวมได้ ปีกใหญ่ที่เดียว คิดไว้ว่า พออายุ มาก ๆ สัก เจ็ดสิบปี แปดสิบปี ( ที่หากใครอยู่ถึง ) เราจะเอาความหลังเหล่านี้ มาเปิดอ่านกันให้สนุกสนาน กับวันวานของพวกเราในกลุ่ม ที่มีกัน สิบกว่าคน นั่นเอง

บทกลอนนี้ เริ่มจากเมล์ ประมาณเมล์ที่หก ที่เจ็ด แล้ว




ไปเที่ยวกัน เพิ่มพลัง ให้ชีวิต
ไปหัวหก ก้นบูดบิด ขวิดกันไหม
ไประลึก คุณพระศรี รัตนตรัย
ไปไม่ไกล แปดริ้วใกล้ ใคร่เชิญชวน

ไปสงกรานต์ บ้านพี่ติ๊ก ระริกรื่น
ไปชื่นมื่น ชมนกไม้ ท้ายบ้านสวน
ไปลงเล่น น้ำใสใส เห็นเนื้อนวล
ใครอวบอ้วน ปกปิดไว้ อุจาดมี

ไปกินข้าว แสนอร่อย ใกล้แม่น้ำ
ไปสำราญ นินทาคน ให้ป่นปี้
ไปเริงรื่น ไม่ทำงาน นานนานที
สนุกดี ยลสวรรค์ นั้นอีกคราว

ไปอวยพร คล้ายวันเกิด ประเสริฐนัก
ส่งคำรัก คำดีดี ให้พี่สาว
ไปกราบเท้า ขอพรพี่ ให้เกรียวกราว
เพริดแพรวพราว ความดีงาม สานร่วมกัน.
โดย หอยแมลงถู่




เชิญเพื่อนเพื่อน เยือนงาน สงกรานต์วัด
บ้านนอกถัด แถวถิ่น ดินแดนท่าน
คนเมืองกรุง ยุ่งนัก หนักกระบาล
ทิ้งเรื่องงาน งี่เง่า มาเอาบุญ

เสริมพลัง ตั้งจิต อธิษฐาน
พรประทาน ธรรมะ ละว้าวุ่น
มาอวยพร พี่วะ นะพวกคุณ
ฉันหัวหมุน อ่านเมล์ โยเยกัน

ทั้งคุณหอย แมงหวี่ พี่แมลงภู่
เอมี่ ยู ยากเยือน คำเตือนนั่น
นับอายุ ย่อมเยาว์ เอาร่วมพัน
ตัวเลขนั้น นับหาร การเวอร์ไป

( หอย ) แมลงภู่ ดูท่า ว่าสนุก
เธอคิดรุก ล่วงล้ำ ลำน้ำใส
ขอบอกย้ำ คำว่า น่าเสียใจ
จะไม่ได้ ดูเนื้อนวล อวบอ้วนเลย

หอยแมงหวี่ ดีใจ ใช่ไหมนั้น
โนมเนื้อฉัน นั้นเป็นทอง ต้องไม่เผย
เอาเป็นว่า แมลงภู่หมาย เป็นหม้ายเอย
แค่ชื่นเชย ชมชล บนฝั่งพอ

กินอาหาร ชานฝั่ง นั่งดูน้ำ
มาเพ้อพร่ำ พรรณนา นินทาหนอ
ใครไม่อยู่ พรูกระหน่ำ ยำไม่รอ
สำราญจ้อ เจื้อยแจ้ว แล้วกลับเรือน

จะชมนก ชมไม้ พอได้อยู่
เรือนลำพู พบปักษา มากรายเกลื่อน
จะชมสวน ล้วนแล้ง แห้งเยี่ยมเยือน
ขอให้เพื่อน เลือนฝัน วันที่มา

อิอิ จะเปลี่ยนใจไหมนี่ ...พลอยโพยม



เพื่อนๆคะ

กว่าจะนัดได้สักครั้งนั้นแสนยาก
แสนลำบากวุ่นวายตั้งหลายหน
เดี่ยวนั้นว่างนี่ไม่ว่าง โอ!!ปวดกมล
พอจรดล ก็สนุกทุกครั้งไป

ถ้าได้ไปครบทีมเช่นพี่วะ
พี่ติ๋มกะพี่แอนแสนสดใส
พี่แดง สุ ปุ๊ มิว น่าชื่นใจ
อัมและไต๋ ภาและตุ๊ก สนุกดี

ขาดไม่ได้คือพี่ติ๊ก หัวเรือใหญ่
จัดอะไรก็น่าชมมีสรรศรี
อุ้ย เกือบลืม น้องเหม่ง ที่แสนดี
รวมคราวนี้ร่วมพันเกินบรรยาย(จ้ะ)

จากหอยแมงหวี่

จะรอเป็นลูกศิษย์ พลอยโพยม (ฮิ ฮิ)





ถึง พี่หอยแมงหวี่

คำก็เหม่ง อุ๊ย!น้องเหม่ง ไอ้คุณเหม่ง
พี่อวบเปล่ง เบ่งเบอะบาน วานขานไข
คนหัวล้าน หัวโล้นลัก ไปหนักใคร
แต่ทนไหว เพราะเหม่ง ปัญญามี

ไม่หูหนา ตาเลินเล่อ เต่อขาสั้น
ไม่มัวมัน คันปากกล้า ท้าสู้ผี
ไม่เยาะเย้ย (คน)พิการผม ดมไม่ดี
พี่แมงหวี่ ควรเข้าวัด ดัดอันธพาล.

จาก น้องหอยแมลงภู่ ผู้พิการผม




ถึง น้องหอยแมงภู่

เรียกน้องเหม่งผิดตรงไหนไยกล่าวโทษ
ดูเหมือนโกรธมานานปีเป็นไฉน
ถ้าหากเรียกขุนช้างสิ ควรเจ็บใจ
นี้อะไร แซวเพียงนิดคิดเสียยาว

ถึงจะเหม่งแต่ก็หล่อ ผ.อ.ชอบ
ชื่นชมออกนอกหน้าพวกสาวสาว
กรี๊ก หวิด หวิว หวาด แหวว แงว แงว งาว
หัวเลี่ยนพราว ล้านดังนะ จ้ะพ่อคุณ
พี่แมงหวี่

(จะกลับบ้าน หิวข้าวแล้ว เขียนไม่ออกจ้ะ)



ถึงอาจารย์ พลอยโพยม

คนเมืองกรุง ยุ่งไม่หนัก สักแต่เที่ยว
จะไปเปรี้ยว ไปทำหวาน ท้ายบ้านสวน
ขอแม่พลอย โพยมศรี ไม่แปรปรวน
ขอให้เชิญ ขอให้ชวน เราจะไป

ไม่ต้องเลิศ ไม่ต้องเชิด ไม่ต้องหรู
ขอพธู ใจต้อนรับ จิตผ่องใส
ขอเพียงแค่ น้ำแข็งเปล่า เวลาไป
โลกไหนไหน ไม่มีเปรียบ เทียบได้เลย.

จากศิษย์ คิดล้างจาน


ถึง พี่หอยแมงหวี่

ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ กึ่งบ้า
เราแต่งผิดหวี่ประณาม เราชอบ
เราแต่งถูกหวี่มาหยาม หวี่นี้ตูดเป็นหนอง.

โดย...ศรีเปิ้น ศิษย์พลอยโพยม



ถึงน้องหอยแมงภู่

วานทุกคนในแกงค์นี้ เป็นพยาน
เราไม่เคยคิดจะหยาม ภู่เล่น
เราชมเราเชยชื่น เราชอบ
กลับมาแช่งตูดเป็นหนอง อย่างนี้ต้องเจอกัน
จากพี่แมงหวี่





เก่งจำนรรจ์ กันนะน้อง ต้องแจ้งเกิด
แมงภู่เปิด ประเด็น เป็นหัวข้อ
น้องแมงหวี่ ปรี่ใส่ ไม่รั้งรอ
เหม่งอือออ อวบเปล่ง เบ่งเบอะบาน

คนหัวล้าน โล้นสัก ไม่หนักจิต
หวี่หวุดหวิด ขวิดใส่ ให้เหิมหาญ
เหม่งรีบโวย หวี่นั้น อันธพาล
หวี่เลยหวาน วุ๊ยแหวว แนวเอ็นดู


เหม่งรูปหล่อ ผอ.ออ พะนอรัก
แจ้งประจักษ์ จนออก นอกหน้าอยู่
ชื่นชมชอบ ชิดเชื้อ ช่างเชิดชู
เหม่งเลิศหรู รื่นรมย์ เริงร่าเชียว


เปิดเมล์ใหม่ ม้วนนี้ มีสยอง
หอยพี่น้อง หนองติดตูด พูดแล้วเสียว
ผลัดกันแคะ แกะแผล แย่จริงเจียว
จงกลมเกลียว กอดคอ รอเยียวยา

เราทั้งหลาย สหายเก่า เฝ้าเรียกขาน
เป็นพยาน ย่อมได้ ไม่หนักหนา
แมลงหวี่ พี่แมลงภู่ วู้สมญา
ขุนช้างซ่า ซัดไว้ ไม่ทันดู

ทั้งถูกหยาม เยาะเย้ย เอ่ยเสียดสี
จนสุดที่ หวี่จะแหวว เจื้อยแจ้วสู่
นัดเจอกัน วันสงกรานต์ งานพันตู
เดี๋ยวก็รู้ หมู่หรือจ่า ว่าประจาน

เหม่งลดเลี้ยว เกี่ยวก้อย พลอยโพยม
ทำประโลม ปะเหลาะ เหยาะคำหวาน
น้ำแข็งเปล่า เหมาว่าหรู ดูเบิกบาน
ปลื้มประมาณ ปานเปรียบ เทียบเมืองแมน

ช่างฉอเลาะ เพราะพริ้ง จริงหรือน้อง
กินน้ำคลอง โคลนคลุก สนุกแสน
หาผักหญ้า ยลชิม อิ่มเอมแทน
อย่ารีบแจ้น แจวอ้าว ชาวเมืองกรุง....

เรื่องน้ำใจ จิตแจ่ม ย่อมแย้มออก
คนบ้านนอก หน่ายจริง สิ่งเหยิงยุ่ง
กินอะไร รอบตัวมี นี้จรุง
เราลูกทุ่ง มุ่งที่ วิถีไทย



แมลงภู่ รู้ไหม ใช้เรียกหา
เป็นชื่อปลา ชะโด ตัวโตใหญ่
พ่อชะโด โอ๋ลูก พันผูกใจ
กัดพรรณไม้ ในน้ำ ทำรังเรือน

ล้มเป็นแพ แลลอด สอดไปกัด
แอ่งกลางจัด แจงแต่ง แหว่งโหว่เหมือน
คนหัวล้าน กระบาลใส ไร้ผมเยือน
รอบล้านเลือน หรอมแหรม แซมประปราย

เฝ้าดูแล ลูกน้อย กลอยใจพ่อ
กบดานรอ ระวังภัย ไม่ห่างหาย
ลูกครอกอยู่ เย็นฉ่ำ ใครกล้ำกราย
ถูกทำร้าย รู้ทั่ว กลัวชะโด

กัดนิ้วขาด ข่าวดัง ในครั้งก่อน
อุทาหรณ์ หาปลา พาวิ่งโร่
นักดำน้ำ ร่ำลือไว้ ให้คุยโว
นักเลงโต ตามวารี นี้เด่นดัง

เจ้าฟ้ากุ้ง กาพย์เห่เรือ เผือคำเพรียก
คำใช้เรียก แมลงภู่ คู่เคียงหวัง
เคยคลอเคล้า เจ้าเนื้อนวล ยวนใจจัง
เห็นปลาดั่ง ได้ชมชิด สนิทนาง

รังชะโด ได้เทียบ เปรียบเปรยขาน
คนโบราณ รุ่นเก่า เขาสรรสร้าง
ชะโดตีแปลง แจ้งใจ ไม่ระคาง
เรียกหนึ่งอย่าง ยามเย้ายั่ว หัวล้านไทย
พลอยโพยม




พี่่.พลอยโพยม

บทสุดท้ายแสนไพเราะเสนาะโสต
เป็นบทโปรดที่แมงหวี่เปรมปรีดิ์เหลือ
คนโบราณท่านเปรียบได้ไม่คลุมเครือ
หัวคนเมื่อหมายกับปลาน่าสนใจ

น้อง แมงหวี่



ถึง สว.พี่ติ๋ม

ดีใจจัง พี่ติ๋มชม สมใจนัก
แต่งเพราะรัก ไม่เป็นศัพท์ ก็หนับหนุน
รู้สึกดี อยากแต่งอีก ช่วยการุณ
มาช่วยลุ้น คนบ้ายอ รอการชม


เพื่อนเพื่อนจ๋า อยู่ไหน มาลองเขียน
มาลองเพียร กล่าวกลอน พรสุขสม
เรามีพลอยโพยม เจ้าคารม
ช่วยมาบ่ม เจียรนัย ให้เขียนดี

ทั้งคุณเปิ้น คุณไต๋ ไปไหนแล้ว
คุณตุ๊กแหวว คุณภาเพริศ บรรเจิดศรี
การเขียนกลอน ช่วยให้เพลิน เกินเปรมปรีดื์
สติมี หายบ้องส์ ลองกันเอย (ฮิฮิ)
น้องแมงหวี่จ้ะ


ถึงพี่น้องผองเพื่อนล้วนเป็นมิตร
แนบสนิดชิดเชื้อล้วนสุขสันต์
รอนับวันที่สิบห้าเร่งมาพลัน
ทุกคืนฝันได้พบกัน มันส์จริงเอย.......

มือใหม่ ตุ๊กแหวว


คงแก้เซ็งให้หลาย ๆ ท่านได้

เพิ่มเติม
ยังตั้งชื่อบทกวีสองบทนี้ไม่ได้ว่าจะชื่อบทกวีอะไรดี แต่ที่แน่ ๆ นี่เป็นคำบ่นปนเล่าความ บทที่ 1 มีเนื้อความว่า

กำลังลังยุ่ง มุ่งแต่งาน งานหนักหนา
เดี๋ยวขาโน้น เดี๋ยวขานี้ นี้กระไร
เดี๋ยวชุมโน้น เดี๋ยวชุมนี้ ประชุมอยู่ได้
รายงานโน้น รายงานนี้ ได้แต่แต่ตาม
อีกพ่อตา ดันมาตาย มลายชีวา
เลยไม่ว่างมาตอบเมล์
มิวครับ

กับอีกบทกวี ทำทีจะเป็นบทกลอน แต่ เจ้าของบทประพันธ์ พอใจและตั้งใจสร้างรูปผังการสัมผัสระหว่างบทใหม่่ ไม่มีสัมผัสระหว่างบท นี่เป็นฉันทลักษณ์เฉพาะตัวของคนประพันธ์ ผู้ประพันธ์บอกว่าเป็นศิษย์แม่พลอย ไม่แน่ใจว่าแม่พลอยไหน แม่พลอยแถวบ้านคนเขียน แม่พลอยโพยมศรี ของคุณ ศิษย์คิดล้างจาน หรือแม่พลอยในสี่แผ่นดิน ลักษณะคำประพันธ์ บ่นปนเล่าความประนามปิดท้าย

ไม่ได้หาย ไปไหน แต่ไม่มี เวลา
ผู้ช่วยลา ลูกน้องไม่มา แทบเป็นบ้า
อะไรเจ้าขาตัวข้า ฮ่าฮ่าฮ่า
ยืนจังก้า โอเวอร์ไรด์ ได้ทั้งวัน

ชีวิตนี่หนา ช่วงนี้ ช่างหฤหรรษ์
ถึงวันโบนัสออก นกกระจอก ไม่ทันกินน้ำ
ถูกลูกน้อง ที่รัก หักให้ช้ำ
ยื่นใบลาซ้ำซ้ำ เจ็ดแปดคน ทนไม่ไหว

นี่ล่ะหนาคน รู้หน้า ไม่รู้ใจ
พอก่อนเท่านี้นะ ต้องทำงานต่อ
เดี๋ยวผอ.รู้เข้า จะถูกด่าทอ
รอพบกันต่อ วันที่ สิบห้านี้ ดีแฮ

น้องไต๋ ศิษย์แม่พลอยฯ

อย่างไรก็ตามที น้องทั้งสองคน ก็มีอารมณ์สุนทรี ไม่น้อยเลยทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น