วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อดีตชาติพระอานนท์ ๔ ในมหานารทกัสสปชาดก ๓





เมื่อคุณาชีวกทูลปราศรัยแล้ว
ทันทีนั้น พระราชาผู้เป็นจอมทัพทรงใคร่ธรรมได้ตรัสถามอรรถธรรมและเหตุว่า
ท่านกัสสปะ นรชนพึงประพฤติธรรมในมารดาและบิดาอย่างไร
พึงประพฤติธรรมในอาจารย์อย่างไร
พึงประพฤติธรรมในบุตรและภรรยาอย่างไร
พึงประพฤติธรรมในวุฒบุคคลอย่างไร
พึงประพฤติธรรมในสมณะและพราหมณ์อย่างไร
พึงระพฤติธรรมในพลนิกายอย่างไร
และพึงประพฤติธรรมในชนบทอย่างไร ชนทั้งหลายประพฤติธรรมอย่างไร
ละโลกนี้ไปแล้วจึงไปสู่สุคติ ส่วนคนบางพวกผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ไฉนจึงตกลงไปในนรก




คุณาชีวกกัสสปโคตร ได้ฟังพระดำรัสของพระเจ้าวิเทหราชแล้ว ได้กราบทูลว่า
ข้าแต่พระมหาราชา ขอพระองค์ทรงสดับทางที่จริงแท้ของพระองค์ ผลแห่งธรรมที่ประพฤติแล้วเป็นบุญเป็นบาปไม่มี
ขอเดชะปรโลกไม่มี ใครเล่าจากปรโลกนั้นมาในโลกนี้
ปู่ย่าตายายไม่มี มารดาบิดาจักมีที่ไหน
ขึ้นชื่อว่าอาจารย์ไม่มี ใครจักฝึกผู้ที่ฝึกไม่ได้
สัตว์เสมอกันหมด
ผู้ประพฤติอ่อนน้อมต่อท่านผู้เจริญไม่มี
กำลังหรือความเพียรไม่มี
บุรุษผู้มีความหมั่นจักได้รับผลแต่ที่ไหน
สัตว์ที่เกิดตามกันมาเหมือนเรือน้อยห้อยท้ายเรือใหญ่
สัตว์ย่อมได้สิ่งที่ควรได้ ในข้อนั้นผลทานจักมีแต่ที่ไหน
ผลทานไม่มี ความเพียรไม่มีอำนาจ
ทานคนโง่บัญญัติไว้ คนฉลาดรับทาน คนโง่สำคัญตัวว่าฉลาด เป็นผู้ไม่มีอำนาจย่อมให้ทานแก่นักปราชญ์ทั้งหลาย




รูปกายอันเป็นที่รวม ดิน น้ำ ลม ไฟ สุข ทุกข์และชีวิต ๗ ประการนี้เป็นของเที่ยง ไม่ขาดสูญ ไม่กำเริบ
รูปกาย ๗ ประการนี้ ของสัตว์เหล่าใด ชื่อว่าขาดไม่มี ผู้ที่ถูกฆ่าหรือถูกตัด หรือเบียดเบียนใคร ๆ ไม่มี
ศาตราทั้งหลายพึงเป็นไปในระหว่างรูปกาย ๗ ประการนี้ ผู้ใดตัดศีรษะของผู้อื่นด้วยดาบอันคม ผู้นั้นไม่ชื่อว่าตัดร่างกายเหล่านั้น ในการทำเช่นนั้น ผลบาปจะมีแต่ที่ไหน
สัตว์ทุกจำพวกท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสาร ๘๔ มหากัป ย่อมบริสุทธิ์ได้เอง เมื่อยังไม่ถึงกาลนั้น แม้จะสำรวมด้วยดีก็บริสุทธิ์ไม่ได้ เมื่อยังไม่ถึงกาลนั้น
แม้จะประพฤติความดีมากมาย ก็บริสุทธิ์ไม่ได้ ถ้าแม้กระทำบาปมากมาย ก็ไม่ล่วงขณะนั้นไป
ในวาทะของเราทั้งหลาย ความบริสุทธิ์ย่อมมีได้โดยลำดับเมื่อถึง ๘๔ กัป พวกเราไม่ล่วงเลยเขตอันแน่นอนนั้น เหมือนคลื่นไม่ล่วงเลยฝั่งไป ฉะนั้น.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://84000.org/tipitaka/atita/s.php?B=28&A=5180&Z=5625#863

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น