วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

นครกุสินารา ๒




ขอขอบคุณภาพจากbuddhaforyou.wordpress.com

การปรับไหมผู้ไม่รับเสด็จพระพุทธองค์

พระบรมศาสดาได้เสด็จจาริกมายังนครกุสินารา โรชะมัลลกษัตริย์ถวายการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติยิ่ง เนื่องจากพระอานนท์และโรชะมัลลกษัตริย์เป็นสหายกันมาก่อน พระอานนท์ได้กล่าวชมการต้อนรับครั้งนี้
โรชะมัลลกษัตริย์ตรัสว่า
"ที่ข้าพเจ้ากระทำการต้อนรับอย่างมโหฬารเช่นนี้ เนื่องด้วยพวกญาติตั้งกติกาไว้ว่า ผู้ใดไม่ต้อนรับเสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า จะต้องถูกปรับสินไหม ๕๐๐ กหาปณะ ข้าพเจ้ามิได้ทำด้วยความศรัทธาของตน "
พระอานนท์ไม่คาดว่าจะได้รับคำตอบเช่นนั้น จึงเข้าไปกราบทูลพระบรมศาสดา เพื่อจะหาทางทำใฟ้โรชะมัลลกษัตริย์เกิดความเลื่อมใสในพระตถาคตและพระธรรมวินัย
พระพุทธองค์ตรัสว่า
"อานนท์ การที่จะให้โรชะมัลลกษัตริย์เลื่อมใสนั้น ตถาคตทำได้ไม่ยากเลย "
ลำดับนั้น พระองค์ทรงแผ่เมตตาจิตไปยังโรชะมัลลกษัตรย์ แล้วเสด็จเข้าไปในวิหาร
โรชะมัลลกษัตริย์อันพระเมตตาจิตของพระพุทธองค์สัมผัสแล้ว ได้เที่ยวตามหาพระพุทธองค์ไปทั่วบริเวณ ดุจโคแม่ลูกอ่อนตามหาลูกของตน




ขอขอบคุณภาพจากsites.google.com

พวกภิกษุทั้งหลายถวายพระพรว่า พระพุทธองค์ประทับอยู่ในวิหาร พระทวารนั้นปิดเสียแล้ว แต่แนะนำให้เคาะพระทวาร
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเปิดทวารรับ ได้ทรงแสดงอนุปุพพิกถา แล้วทรงประกาศอริยสัจ ๔
โรชะมัลลกษัตริย์ได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว กราบทูลขอประทานวโรกาส ให้พระภิกษุสงฆ์รับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ คิลานปัจจัย เภสัชบริขาร ของพระองค์แต่ผู้เดียว โดยไม่รับของผู้อื่น
พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธ ตรัสว่า
"ภิกษุในธรรมวินัยนี้ จักรับปัจจัยของท่านด้วย ของผู้อื่นด้วย เพื่อความอนุเคราะห์แก่ชนทั้งทั้งหลายโดยถ้วนหน้ากัน"
ขณะที่โรชะมัลลกษัตริย์รอลำดับเพื่อจะถวายภัตตาหาร ได้เสด็จเข้าไปสำรวจโรงครัว ได้เห็นสิ่งที่ยังขาดอยู่ ๒ อย่างคือ
ผักสด ๑ ของขบฉันที่ทำด้วยแป้ง ๑ จึงเข้าไปหารือพระอานนท์ว่า สองอย่างนี้เป็นสิ่งสมควรหรือไม่ที่จะถวายแก่สงฆ์
พระอานนท์กราบทูลเรื่องนี้แก่พระศาสดา พระองค์จึงทรงอนุญาต ผักสดทุกชนิด และของขบฉันที่ทำด้วยแป้ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สู่แดนพระพุทธองค์ อินเดีย-เนปาล โดยพระราชรัตนรังษี (ว.ป.วีรยุทฺโธ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น