วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สู่แดนพระพุทธองค์ ๗๓ เรื่องราวคราวพุทธกาล ๔ พระรัฏฐปาลเถระ





ขอขอบคูณภาพจาก

พระรัฏฐปาลเถระ

พระรัฏฐปาลเถระ เป็นรบุตรชายของรัฏฐปาลเศรษฐี เป็นหัวหน้าประชาชนชาวถุลลโกฏฐิตนิคม แห่งแคว้นกุรุ

สมัยหนึ่งพระบรมศาสดาเสด็จจาริกบรรลุถึงถุลลโกฏฐิตนิคม ประชาชนเป็นอันมากมาฟังพระธรรมเทศนาเกิดความเลื่อมใสแล้วลากลับไป 

ส่วนรัฏฐปาละเกิดความเลื่อมใสจะออกบวช จึงไปเข้าเฝ้ากราบทูลขอบรรพชา ครั้นทราบว่าพระพุทธองค์จะไม่บวชให้กับกุลบุตรที่บิดามารดามิได้อนุญาต จึงกราบทูลลากลับไปขออนุญาตบิดามารดา บิดามารดาไม่อนุญาตให้ท่านบวช จึงอดอาหาร โดยคิดว่า

"ถ้าบิดามารดาไม่อนุญาตให้บวช จักขอยอมตาย" ท่านอดอาหารได้ ๗ วัน
บิดามารดาจึงว่า
" ถ้าไม่ได้บวชเขาจักตาย จะมีประโยชน์อะไร ถ้าเขาบวชจักได้เห็นเขาตามเวลาอันสมควร ถ้าเขาเบื่อหน่ายก็จะกลับมาเอง "

บิดามารดาจำใจอนุญาตให้ท่านบวชได้

รัฏฐปาละดีใจกลับมาบริโภคอาหารพอให้ร่างกายมีกำลัง แล้วไปเฝ้าพระบรมศาสดากราบทูลขอบวช บวชแล้วในสำนักของพระเถระรูปหนึ่ง ตามพระบัญชาของพระบรมศาสดา พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่ถุลลโกฏฐิตคามประมาณกึ่งเดือนก็เสด็จกลับกรุงสาวัตถี



รัฏฐป่าละก็ตามเสด็จไปเมืองสาวัตถี ท่านเป็นผู้ไม่ประมาท บำเพ็ญสมณธรรม ทำกิจในโยนิโสมนสิการ เจริญวิปัสสนาก็ได้สำเร็จอรหัตตผล แล้วถวายบังคมลากลับไปยังถุลลโกฏฐิตนิคม




ท่านเข้าไปพักอยู่ที่มิคจิรวัน พระราชอุทยานของพระเจ้าโกรัพยะ กษัตริย์แห่งแคว้นกุรุ

 ในตอนเช้าได้เข้าไปบิณฑบาตที่บ้านของบิดามารดาของท่าน พบนางทาสีกำลังจะโยนขนมกุมภมาสบูดทิ้ง นางทาสีจำเสียงได้จึงถวายขนมนั้น แล้วจึงเข้าไปบอกแก่บิดามารดาของท่าน 

บิดาออกมาเห็นท่านกำลังฉันขนมบูดเสร็จแล้ว ได้นิมนต์ให้ท่านเข้าไปในบ้าน แต่พระเถระไม่ยอมเข้าไป

 วันรุ่งขึ้น พระรัฏฐปาละไปบิณฑบาตที่บ้านบิดามารดาอีก ท่านทั้งสองอ้อนวอนให้พระเถระลาสิกขา เมื่อฉันเสร็จแล้วอนุโมทนาแล้วกลับมิคจิรวัน

พระเจ้าโกรัพยะเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ทอดพระเนตรเห็นพระเถระทรงจำได้
ตรัสปราศัยด้วยแล้วทรงถามว่า
" ท่านผู้เจริญ คนบางจำพวกประสบความเสื่อม ๔ อย่างคือ ๑ .แก่เฒ่าชรา ๒ เจ็บป่วย ๓ สิ้นสมบัติ ๔ ไร้ญาติ จึงออกบวช" ส่วนท่านมีความเห็นอย่างไรจึงออกบวช



พระรัฏฐปาลละ กล่าวว่า

" มหาบพิตร อาตมาได้ฟังธัมมุสทเทส ๔ ข้อ คือ
๑.โลกคือหมู่สัตว์ ถูกชรานำไปไม่ยั่งยืน
๒.โลกคือหมู่สัตว์ ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่เป็นใหญ่เฉพาะตน
๓.โลกคือหมู่สัตว์ ไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไป
๔. โลกคือหมู่สัตว์ พร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา
ดังนี้จึงออกบบวช

พระเจ้าโกรัพยะทรงเลื่อมใสและอนุโมทนา

ท่านพระรัฏฐปาละ พักในนิคมนั้นพอสมควร จึงกลับมายังสำนักพระบรมศาสดา ภายหลังท่านได้รับยกย่องว่า เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้บวชด้วยความศรัทธา
ท่านดำรงเบญจขันธ์ตามกาลอันควรก็ดับขันธปรินิพพาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก สู่แดนพระพุทธองค์ อินเดีย-เนปาล โดยพระราชรัตนรังษี (ว.ป.วีรยุทฺฺโธ)

หมายเหตุ
ธัมมุสทเทส  ๔ ข้อ นี้  พลอยโพยมมักได้ยินพระอาจารย์ สว่าง ติกฺขวีโร ท่านกล่าวในเวลาแสดงธรรมในช่วงเข้าปฏิบัติธรรมบ่อย ๆ ชอบ และติดใจ ๔ ข้อนี้มาก เลยขอปันสู่ท่านผู้อ่าน  พระอาจารย์มักกล่าวเสมอว่า

โลกคือหมู่สัตว์ อันชรานำไปไม่ยั่งยืน.......รวมทั้ง ข้อ ๒ ข้อ ๓ และข้อ ๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น