วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สายตระกูล แซ่อื้อ จากเมืองแต้จิ๋ว สู่สยามประเทศ 6

คุณตามานิตย์ เจริญวงษ์ ( กุ่ยฮั้ว แซ่อื้อ )




พวกเราเรียกท่านว่าก๋งฮั้ว
ก๋งฮั้ว เป็นผู้ไปดำเนินการขอเปลี่ยนแซ่อื้อเป็นนามสกุลเจริญวงษ์
ก๋งฮั้ว ที่พลอยโพยมรู้จักท่านก็เข้าสู่วัยชราแล้ว แต่ก็ยังพอมองเห็นเค้ารางว่า เมื่อหนุ่ม ๆ ท่านเป็นชายรูปหล่อ รูปร่างดี หน้าตาดี นัยน์ตาคมกริบ และท่านก็เหมือนคุณตาชาญ พี่ชาย คือมีภรรยาสองคน
ภรรยาคนแรกคือคุณยายบุญช่วย รักษาทรัพย์ บุตรสาวคนเดียวของคุณยายว้วย รักษาทรัพย์ ซึ่งมีบ้านหลังใหญ่อยู่ใกล้บ้านอื้อเฮียบหมง แต่พวกเด็ก ๆ จะเรียกคุณยายบุญช่วยว่าคุณยายโอ่ง
คุณยายโอ่งอายุสั้นมากหลังจากมีบุตรชายให้ก๋งฮั้วหนึ่งคน ไม่นานท่านก็เสียชีวิต บุตรชายคนโตของก๋งฮั้วนี้เติบโตขึ้นโดยมีคุณยายว้วย รักษาทรัพย์ดูแลอยู่ห่าง ๆ เพราะคุณยายว้วยได้ไปสู่ขอคุณยายทองม้วน พงษ์สุวรรณ จัดพิธีแต่งงานให้มาเป็นภรรยาก๋งฮั้ว แยกบ้านไปอยู่คนละฝั่งแม่น้ำบางปะกง
เด็ก ๆไม่ว่ารุ่นเด็กโต หรือรุ่นเล็ก ทุกคนก็รู้จักคุณยายโอ่งเพียงแต่ชื่อและเรื่องเล่าของท่านเท่านั้นเอง
บุตรชายคนโตเรียนโรงเรียนนายเรือ เรียนจบก็รับราชการทหารเรือ ต่อมาเป็น พลเรือโทสุรินทร์ เจริญวงษ์ ( ซึ่งนายแพทย์วิจิตร พัวพันธุ์ เมื่อเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพ ฯ ได้มาพักอาศัยที่บ้านคุณน้าสุรินทร์ และภรรยาคือ คุณน้าถนิม (สิทธิสรเดช) ท่านนี้เอง )



ก๋งฮั้ว มีบุตรธิดากับคุณยายทองม้วน อีก 3 คน คือ คุณน้าสุพล คุณน้าทวี (หญิง) และ พ.ต.ท. สุภา
แต่เนื่องจากบ้านก๋งฮั้วอยู่คนละฟากแม่น้ำ การไปมาหาสู่ก็ต้องใช้เรือพายข้ามฝั่งไปหากัน ก๋งฮั้วก็จะพายเรือข้ามฝั่งมาเพื่อเซ่นไหว้เจ้าพ่อที่ศาลเจ้าพ่อ และอัฐิบรรพบุรุษ ตามเทศกาลต่าง ๆ และมักพาน้อง ๆ หลานตาลูกของคุณน้าทวีบุตรสาวของท่านมาด้วย ส่วนบุตรชายของท่านก็แยกย้ายไปตามหน้าที่การงาน บ้านก๋งฮั้ว ก็เป็นอีกบ้านหนึ่งที่แต่งงานรับลูกเขยเข้าบ้าน
เพราะบ้านห่างกันแค่ฟากฝั่งแม่น้ำ ก๋งฮั้วจึงไม่ต้องมาค้างที่บ้านอื้อเฮียบหมง ตอนเช้าพายเรือข้ามแม่น้ำมา พอเสร็จกิจธุระท่านก็พายเรือกลับไปบ้าน เวลาท่านมาที่บ้านฝั่งนี้ ท่านก็จะสนทนาแต่กับ พี่่ ๆ น้อง ๆ ของท่าน พลอยโพยมเป็นเด็กก็อยู่ส่วนเด็ก จึงไม่มีเรื่องราวของก๋งฮั้วเป็นความทรงจำพิเศษ



เมื่่อถามน้องหมูคุณพันทิพา งามวงษ์น้อย (วิไลพันธ์ ) บุตรสาวคนโตของคุณน้าทวี ว่าในวันนี้หากนึกถึงก๋ง น้องหมูคิดถึงก๋งในเรื่องใดบ้าง
น้องหมูตอบว่า ก๋ง เปรียบเสมือนคุณครูของหลาน ๆ ท่านจะสั่งสอนเรื่องราวต่าง ๆ ให้กับหลาน ๆ อีกทั้งเป็นผู้คอยดูแลกำกับการศึกษาเล่าเรียนของหลาน ๆ เมื่อกลับจากโรงเรียน ท่านจะดุแลให้หลาน ๆ ทำการบ้านทุกวัน หลังกินข้าวเย็นอาบน้ำอาบท่ากันแล้วก็จะดูแลหลาน ๆ ให้อ่านหนังสือเรียน พลอยโพยมก็เลยเข้าใจว่าที่ลูกๆ ของก๋งฮั้วเรียนหนังสือได้ดีกันทุกคนนั้นก็คงเป็นเพราะก๋งฮั้วดูแลกวดขันเรื่องการเรียนหนังสือของเด็ก ๆ มาตั้งแต่รุ่น ลูก ๆ ของท่าน

ช่วงเวลาที่น้อง ๆ บุตรธิดาของคุณน้าทวีย้ายไปเรียนชั้นโต (ประถมปีที่ห้า) ในเมือง ระยะแรกๆ ที่น้อง ๆ เปลี่ยนสถานที่เรียน ในตอนเช้าก๋งฮั้วจะเดินมาส่งน้อง ๆ ที่วัดบางกรูดเพื่อรอขึ้นรถประจำทางที่ผูกขาดวิ่งเข้ามารับนักเรียนไปเรียนหนังสือในเมือง ก๋งจะรอส่งจนหลาน ๆ ขึ้นรถเรียบร้อยท่านจึงจะเดินกลับบ้าน เป็นความห่วงใยที่ก๋งมีให้หลาน ๆ
ส่วนหลาน ๆ ที่เติบโตในกรุงเทพฯ ก็จะมาอยู่กับก๋งในช่วงปิดเทอม มาอยู่กันเป็นระยะยาว คึกคักและสนุกสนานไม่แพ้บ้านฝั่งตรงข้ามกัน ก๋งก็คงเป็นก๋งที่ใจดีมากของหลาน ๆ ของท่านนั่นเอง (สายตระกูลแซ่อื้อ สายนี้ใจดีทุกคน)

คุณยายทองม้วน เจริญวงษ์ (พงษ์สุวรรณ)




พวกเราเรียกท่านว่า คุณยายอ้วน ทั้งที่ท่านก็ไม่ได้เป็นคนรูปร่างอ้วนใหญ่อะไรแม้จะดูเป็นคนโครงร่างใหญ่ อาจเป็นเพราะท่านมีพี่สาวชื่อเล็ก พงษ์สุวรรณ และมีรูปร่างเล็กผอมบางจริงสมชื่อ พี่สาวของท่านเป็นภรรยา คุณลุงเกียฮึน แซ่ตั้น (กำนันศิริ บำรุงวงศ์) บุตรชายคุณยายทองสุข (แซ่พัว) พี่สาวคนที่สองของก๋งบุญ แซ่พัว (พัวพันธุ์) ดังนั้นจึงมีการเรียกลำดับชั้นที่ค่อนข้างแปลก คือ พี่สาวคุณยายทองม้วน มีศักดิ์ที่เด็ก ๆ รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่เป็นหลานปู่หลานตาก๋งบุญ เรียกท่านว่า คุณป้าเล็ก และเรียกน้องสาวของคุณป้าเล็กว่า คุณยายทองม้วน

สรุปว่าเรียกพี่สาวคุณยายอ้วนว่าคุณป้าเล็กตามศักดิ์ที่นับทางก๋งบุญ ส่วนคุณยายอ้วนเรียกคุณยายตามศักดิ์ทางสายตระกูลของยายขานั่นเอง

แม่น้ำบางปะกงหาใช่ลำน้ำที่กั้นเขตแดนระหว่างคนสองฝั่ง หากแต่สายน้ำบางปะกงคือสายธารที่เชื่อมโยงสืบสานสายสัมพันธ์ระหว่าคนสองฝั่งเข้ามาเกี่ยวดองกัน ความเป็นเครือญาติจึงเกิดทั่วทั้งสองฝั่งน้ำ

คุณยายอ้วนเลี้ยงดูบุตรสี่คนอย่างดีมีคุณน้าทวี เป็นบุตรสาวอยู่กับบ้านแต่งงานกับคุณน้าพิพัฒน์ วิไลพันธุ์ คุณน้าทวีก็เรียนตัดเสื้อเหมือนกัน คุณยายอ้วนมีฝีมือในการทำแป้งข้าวหมาก ซึ่งเอาไปทำข้าวหมากแล้วอร่อยลือชื่อมาก การทำแป้งข้าวหมากถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เพราะเข้าข่ายเป็นแอลกอฮอล์ ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่สรรพสามิตรู้ว่าผู้ใดผลิตแป้งข้าวหมากก็สามารถดำเนินการจับกุมได้


คุณน้าทวีเล่าให้น้องพันทิพาฟังว่า
มีอยู่คราวหนึ่งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตหลายคนมาที่บ้านแจ้งข้อหาคุณยายอ้วนและจะดำเนินการจับกุม หัวหน้าที่นำคณะมาเผอิญหันไปหันมาพบภาพเพื่อนนักเรียนที่เคยเรียนด้วยกัน คือคุณน้าสุพล เจริญวงษ์ ติดภาพหราอยู่ที่ข้างฝาบ้าน จึงสอบถามคุณยายอ้วนว่าคนในภาพเป็นใคร เป็นอะไรกับคุณยาย คุณยายจึงตอบว่าเป็นภาพลูกชายของชั้นเอง
หัวหน้าที่นำคณะจึงยกมือขึ้นไหว้คุณยายบอกกับคุณยายว่า "ผมเป็นเพื่อนนักเรียนกับสุพลลูกชายคนนี้ของคุณแม่ " และเอ่ยปากลากลับไป และไม่วนเวียนมาที่บ้านนี้อีกนานทีเดียว ตัวคุณน้าสุพลทำงานที่องค์การท่าเรือ มีเพื่อนเป็นสรรพสามิต



สูตรแป้งข้าวหมากนี้คุณน้าทวีสืบทอดมรดกการหมักมาได้ แต่บ่อยครั้งที่ได้ยินข่าวว่าคูณน้าทวีต้องเทแป้งข้าวหมากลงแม่น้ำ เมื่อมีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตออกมาตรวจตราจับกุมซึ่งจะมีการส่งข่าวแจ้งบอกกันมาเป็นทอด ๆ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงบ้าน ก็ไม่มีของกลางหลงเหลือ
ปัจจุบันมีการทำข้าวหมากมาวางขายในตลาด อีกทั้งมีการหาบเดินขายกันโจ่งแจ้งทั้งตามตลาดในเมืองและตามตลาดนัดย่านชุมชนต่าง ๆ

คุณยายอ้วนไม่ค่อยออกนอกบ้านไปบ้านญาติคนไหน ๆ พลอยโพยมจะเห็นท่านเวลาไปทำบุญที่วัดบางกรูดกับยายขาและคุณยายประไพ หรือเป็นฝ่ายไปที่บ้านก๋งฮั้ว แต่เด็ก ๆ รุ่นโตจะคุ้นเคยกับท่าน เพราะการข้ามฝั่งไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดบางกรูด
นอกจากนี้บ้านก๋งฮั้วและคุณยายอ้วนมีบ่อน้ำค่อนข้างใหญ่เก็บกักน้ำจืด ในหน้าแล้งน้ำในแม่น้ำเป็นน้ำกร่อยพวกเราต้องไปตักน้ำบ่อที่วัดบางกรูด บางที่ก็น้ำบ่อที่บ้านก๋งฮั้วเอามาเทใส่ในลำเรือข้ามแม่น้ำแล้วขนถ่ายน้ำ ในลำเรือด้วยกระแป๋งเอาขึ้นใส่ตุ่มน้ำในบ้าน ทั้งที่บ้านก๋งบุญก็ขุดบ่อเก็บกักน้ำ แต่น้ำเค็มจะซึมมาตามใต้ดินเข้าไปในบ่อทำให้น้ำในบ่อไม่จืดจึงต้องลำบากลำบนต้องมาตักน้ำบ่อคนละฝั่งแม่น้ำเอาไปใช้สอย การไปตักน้ำบ่อที่บ้านก๋งฮั้วก็สนุกสนานเพราะเป็นช่วงที่ต้นมะขามเทศออกฝัก บ้านก๋งฮั้วมีต้นมะขามเทศเรียงรายกันมากมายเราก็ไปเก็บมะขามเทศกันสนุกสนาน ถ้ามะขามเทศมีรสฝาดมากเราก็เก็บเอามาต้ม(ทั้งฝัก) ก็จะทำให้มะขามเทศออกรสหวานขึ้น บางครั้งที่คุณน้าทวีเก็บมะขามเทศได้มาก ๆ โดยเราไม่ได้ข้ามฝั่งมาตักน้ำ คุณน้าทวีก็จะต้มมะขามเทศพายเรือข้ามฝั่งเอามาให้เด็ก ๆ ทางฝั่งนี้



คุณน้าทวี ทำขนมเทียนผสมแป้งสาคูไส้หวานที่เป็นถั่วเขียวกวน ได้อร่อยมาก พอต่างบ้านต่างทำขนมเทียนเสร็จก็จะพายเรือข้ามฝั่งเอาขนนมเทียนของเราไปแจกญาติ ๆ ญาติ ๆ ก็เตรียมขนมของตนเองให้คืนกลับมา พลอยโพยมหรือพี่ ๆ ต้องพายเรือเอาขนมเทียนข้ามฝั่งแม่น้ำมาแจก สองสามบ้านที่ฝั่งวัดบางกรูด นอกจากบ้านก๋งฮั้วแล้ว ก็มีบ้านก๋ง ทางด้านพ่อมังกร และบ้านที่นับถือกันอีก (เป็นร้านค้าฝั่งวัดบางกรูด)
นอกจากนี้พอถึงวันไหว้ ที่บ้านก๋งฮั้วต้องข้ามฝั่งมาเซ่นไหว้ พ่อมังกรก็ต้องข้ามฝั่งไปเซ่นไหว้บิดาของท่าน ตอนไปรับของเซ่นไหว้กลับ แต่ละบ้านก็เอาขนมต่างบ้านเก็บไว้และใส่ขนมของตัวเองกลับคืนมา
ต่อมาเมื่อสิ้นบุญยายขา แม่ละม่อมต้องย้ายบ้านจากบางกรูดมาอยู่ในที่ดินที่ยายขายกให้ พลอยโพยมซึ่งชอบกินขนมเทียนผสมแป้งสาคูไว้หวานถั่วของคุณน้าทวีมากถึงมากที่สุด ก็ใช้วิธีขอคุณน้าทวีเอาดื้อ ๆ เลย

คุณยายอ้วนที่มีโรคประจำตัวอย่างแปลก ๆ แม่ละม่อมอธิบายว่า เป็นโรคเลือดจะไปลมจะมา เป็นอาการของผู้หญิงเมื่อใกล้หมดประจำเดือน แม่ละม่อมบอกว่าเมื่อใกล้หมดประจำเดือนให้ดูแลตัวเองให้ดี ให้ร่างกายแข็งแรง ระวังอย่าให้เป็นอย่างคุณยายอ้วน
แม้อาการจะไม่ร้ายแรงแต่ก็บั่นทอนความสุขของตนเอง ซึ่งขณะนี้ตัวพลอยโพยมเข้าข่ายมีอาการเดียวกับคุณยายอ้วน คือ บางครั้งบางเวลาเราจะรู้สึกร้อนผะผ่าวกระจายออกมาจากหน้าอก หากกระทบความเย็นบางครั้งจะรู้สึกหนาวกว่าคนอื่น ๆ บางครั้งเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เวลาร้อนก็ร้อนผะผ่าวออกมาจากหน้าอก เป็นความร้อนจากภายใน แม้จะรู้ว่าเป็นการแสดงของเตโชธาตุในร่างกาย แต่พลอยโพยมรู้สึกว่าเป็นความผิดปกติแบบไม่ธรรมดา เวลาอยู่ในรถยนต์ก็จะมีการเดี๋ยวเร่งแอร์ เดี๋ยวร้องให้ปิดแอร์ ลูก ๆ ของพลอยโพยมเอือมระอากับอาการนี้แม้จะไม่บ่นว่าหรือพูดอะไร

เวลาไปเยี่ยมคุณยายอ้วนถ้าถามท่านว่าคุณยายสบายดีไหม ท่านจะตอบแบบตรง ๆ ว่าไม่ค่อยสบายเลย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว บางทีท่านใช้คำว่าสะบัดร้อนสะบัดหนาว
มาวันนี้พลอยโพยมก็เข้าใจอาการของคุณยายอ้วนแล้วว่าเป็นอย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น