วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2554

[บทความ ] คงคา... พระแม่เจ้าแห่งสายน้ำ

คงคา พระแม่เจ้าแห่งสายน้ำ


หิมาาลัย

เขาไกรลาสซึ่งกล่าวกันว่าเป็นที่อยู่ ของเท้ากุเวรและเป็นสวรรค์ของพระศิวะ มีลักษณะ ที่พรรณนากันว่า สีขาว อย่างเงินยวง บางทีก็เรียกกันว่าผาเผือกตั้งอยู่บนภูเขาหิมาลัยซึ่งเป็นยอดสูงสุดในตอนใต้ ของทะเลสาบมานัส อันเป็นเทือกเขาตอนที่กั้นแดนทางเหนือของภรตวรรษ ซึ่งชาวฮินดูนับถือกันมาก ถือกันว่าเป็นที่สถิตแห่งเทพและประชาบดี หรือฤาษีสำคัญ ๆ

ชื่อภูเขาไกรลาสนี้จะหาไม่พบในแผนที่


ทะเลสาปมานัสโรวา

ภูเขาไกรลาสมีชื่อเป็นทางการว่า กังติ-สู-ชาน (Kangti-ssu-shan) ในปัจจุบันอยู่ในเขตทิเบต หรืออีกชื่อหนึ่งคือ กัวลา มาน ฮาตา (Gurla mand hata) ตั้งอยู่บนเขตพื้นที่ไกรลาส (Kailasrange) ซึ่งมีช่องเขาเป็นเส้นทางไปได้จากทางอินเดีย บางทีภูเขาลูกนี้ก็เรียกกันว่า ภูเขาเงิน อยู่ ทางตะวันตก ของทิเบต เพราะยามเมื่อหิมะที่จับขาวโพลนต้องแสงอาทิตย์ จึงดูประดุจแผ่นเงินซึ่งพวกอารยันนับถือมาตั้งแต่สมัยโบราณว่าเป็นภูเขา ศักดิ์สิทธิ์มี ทะเล สาบมานัสโรวา (Manasrowar) ซึ่งเป็นที่นับถือ กล่าวกันว่า พระศิวะประทับอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ครั้งสร้าง โลก ซึ่งชาวอินเดียนับล้านๆ คนที่นับถือ ได้พยายามหาทางที่จะไปให้ถึงเพื่อทำการสักการบูชาให้ได้


เส้นทางจากเบื้องล่างขึ้นสู่ต้นน้ำคงคา


เส้นทางเดินทางสู่โคมุข


ที่ตำบลฤาษีเกศ


โยคีผูเพียรเพ่งสมาธิ


ยอดเขาต้นกำเนิดของแม่น้ำคงคา

ภูเขาหิมาลัยเป็นเทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก และก็มียอดเขาที่สูงที่สุดในโลกตลอดจนสูงติดอันดับมากมายหลายยอดเช่นเอเวอเรสต์ที่สูง 29,028 ฟุต และยอดเขาไกรลาสสูงเป็นลำดับที่ 32 ในโลก คือสูง 22,020 ฟุต และสูงเป็นที่ 19 ในหมู่ยอดเขาในเทือกเขาหิมาลัย

เทือกเขาหิมาลัย พาดผ่าน หก ประเทศ คืออินเดีย ปากีสถาน เนปาล ภูฏาน พม่า จีน (รวมธิเบต)

น้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสำคัญ ๘ สาย ได้แก่ แม่น้ำโขง แม่น้ำอิรวดี แม่น้ำสาละวิน แม่น้ำคงคา แม่น้ำสินธุ แม่น้ำพรหมบุตร แม่น้ำแยงซี และแม่น้ำเหลือง





ชาวฮินดูบางพวกเชื่อว่าภูเขาลูกนี้คือภูเขาพระสุเมรุ อันเป็นแกนของโลกและมีทะเลขวางอยู่ และเป็นที่ประทับของพระศิวะ ซึ่งผู้นับถือศาสนาพราหมณ์กล่าวว่า ณ กึ่งกลางทะเลสาบนี้ มี ต้นชมพู่ (Jumbu) ศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษย์ไม่อาจมองเห็น ซึ่งมีสายน้ำไหลออกมาจากผลของต้นไม้นี้ เกิดเป็น น้ำในทะเลสาบขึ้น เป็นสายน้ำอันมีคุณวิเศษ ทำให้อายุยืนยาว และ สายน้ำในทะเลสาบนี้เป็น ต้นน้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์









บริเวณโคมุข เป็นปากถ้ำ ที่แม่น้ำคงคา ไหลออกมาจากใต้ธารน้ำแข็งที่มีอายุหลายพันปี

คงคาทรี
ในสมัยโบราณ ต้นแม่น้ำคงคาอยู่ที่ คงคาทรี โดยผุดขึ้นมาจากธารน้ำแข็ง แต่ปัจจุบัน ธารน้ำแข็งได้ถอยร่นขึ้นไปอีก 19 กิโลเมตร ต้นกำเนิดคงคา จึงขึ้นไปอีกที่บริเวณ โคมุข ลักษณะเป็นปากถ้ำ ที่แม่น้ำคงคา ไหลออกมาจากใต้ธารน้ำแข็งที่มีอายุหลายพันปี



เส้นทางไหลของแม่น้ำคงคาต่อจากโคมุข


แม่น้ำคงคาเริ่มไหลลงสู่เบื้องล่าง


แม่น้ำคงคาในที่ราบ








แม่น้ำคงคาที่เมืองพาราณศรี


ศาสนาพราหมณ์
ถือกำเนิดเมื่อราว 1,000-1,500 ปี ก่อน พุทธกาล เป็นศาสนาที่มีคนนับถือมากเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากคริสต์และอิสลาม เป็นศาสนาที่ไม่มีองค์ศาสดา ศาสนานี้มีต้นกำเนิดมาแต่ครั้งโบราณ ตั้งแต่ชนชาติอารยันเรืองอำนาจในใจกลางทวีปเอเชีย
ชาวอารยัน หรืออริยกะ หรือ อินโด-ยูเรเปียนนั้น เป็นการรวมของคนหลายเชื้อชาติเข้าด้วยกัน อาทิ กรีกโบราณ เปอร์เชีย อิหร่าน
ทางด้านภูมิศาสตร์นั้น ไซบีเรีย ในปัจจุบันนี้ แต่เดิมคือใจกลางทวีปเอเชียของชาวอารยันมา ก่อน เคยเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด จนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา ผืนแผ่นดินที่เคยติดกันเป็นพื้นเดียวกัน เกิดการแตกแยกและชั้นบรรยากาศเปลี่ยนไป จนใจกลางทวีปเอเชียนี้แห้งแล้ง เป็นมูลเหตุแห่งการย้ายถิ่นฐานในเวลาต่อมา

ทางวรรณคดีนั้น เรียกแผ่นดินที่เรียงต่อกันเป็นพื้นเดียวว่า “ชมพูทวีป” ดังนั้นการเรียกอินเดียในเวลาต่อมา ว่า “ชมพูทวีป” นั้น เป็นเพราะความเคยชินของชนชาติอารยัน หาใช่อินเดียคือ”ชมพูทวีป”ไม่ และคำนี้มักปรากฏในวรรณคดี ของภาษาบาลีและสันสกฤต
สังคมและพระเป็นเจ้าในศาสนาฮินดูในยุคหลัง เป็นวิวัฒนาการที่ต่อเนื่องมาจากชนชาติอารยัน เข้ามายังดินแดนของชนพื้นเมืองของอินเดีย ซึ่งชนชาติอารยันมี วัฒนธรรม ประเพณีและความเชื่อซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นแบบอย่างและ เป็นปฐมบรรพบุรุษของชนชาติกรีก อิหร่านและอินเดีย
ดังนั้นอินเดียโบราณ ที่พวกอารยันมีอิทธิพลนี้ คือแม่พิมพ์อันสำคัญซึ่งก่อให้เกิดการพัฒนา มาเป็นศาสนาพราหมณ์ และฮินดู ในลำดับต่อมา
คำว่าฮินดู และอินดุส นั้นแผลงมาจากคำว่า สินธุ หรือสินธู นั่นเอง
ที่มา ธนเดช ธนเดชสวัสดิ์

เมื่อ 4 พันห้าร้อยปี ชาวอารยันผิวขาว ได้อพยพมาจาก ทะเลสาบแคสเปียน ในเอเชียตอนกลาง เข้าสู่ลุ่มน้ำสินธุในอินเดียตอนเหนือ ปัจจุบันคือปากีสถาน และได้ขับไล่ชาวดราวิเดียน ชนพื้นเมืองผิวดำของอินเดีย จนถอยร่นออกไป
ชาวอารยัน มีความเชื่อในเทพเจ้า โดยเชื่อว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความทุกข์ ความสุข ของมนุษย์ เกิดจากเทพเจ้า มีการบูชาไฟ การบูชายัญ มีบทสวด และมีคัมภีร์บทสวด คือคัมภีร์พระเวท ผู้ท่องบทสวดคือพราหมณ์ ถือว่า พราหมณ์ เป็นผู้สื่อสารกับเทพเจ้า เป็นผู้ทำพิธีบวงสรวง ให้เทพเจ้าบันดาลความสุขให้โลกมนุษย์ จนในที่สุด พราหมณ์ จึงมีความสำคัญ เกือบเทียบเท่ากษัตริย์ และทำให้เกิดระบบชนชั้นวรรณะขึ้น
ในระหว่างที่ชาวอารยันเข้ามาขับไล่ชาวพื้นเมือง เกิดสงครามการต่อสู้

กษัตริย์ ทรงเป็นผู้นำของนักรบ เป็นนักรบ นักปกครอง
พราหมณ์ เป็นผู้สร้างขวัญกำลังใจให้เหล่านักรบคือวรรณะกษัตริย์ เป็นผู้ทำพิธีและสื่อสารกับเทพเจ้า
แพศย์ เป็นผู้ทำการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ จัดหาเสบียง เลี้ยงสังคม รวมทั้งการค้าขายด้วย
ศูทร คือผู้แพ้สงคราม และตกเป็นข้ารับใช้
และต่อมาก็เกิด วรรณะ จัณฑาล อีก วรรณะหนึ่ง
หลังจากมีคัมภีร์พระเวท ยังเกิดคัมภีร์ อุปนิษัท ขึ้น มีหลักการว่าความสุขที่ยิ่งใหญ่ของชีวิตนั้นจะต้องปฏิบัติตนให้บรรลุถึงความหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ให้วิญญาณได้ไปรวมกับพรหม ได้ในที่สุด
คนพยายามหาทางหยุดการเวียนว่ายตายเกิด ด้วยวิธีต่างๆ
100 ปีก่อนพุทธกาล พราหมณ์ได้สร้างพระพรหมขึ้นเพื่อตอบข้อสงสัยว่า เทพเจ้าที่มีอยู่มาจากไหน ใครเป็นผู้สร้างเทพเจ้าและสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ พระพรหมจึงเป็นเทพเจ้าผู้สร้างสูงสุด

ชาวฮินดู เชื่อว่า เทพเจ้าคงคา เป็นเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ผู้ประทานน้ำมาหล่อเลี้ยงทุกชีวิตในโลก
แม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชา ตั้งแต่เกิดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ทุกวันจะมีการบูชาแม่น้ำคงคาด้วยการนำดวงไฟลอยในแม่น้ำ การลอยไฟสู่แม่น้ำ เพื่อบูชาและสื่อสารนำทางคำร้องขอไปยังเทพเจ้า รวมทั้งมีการจาริกแสวงบุญไปยังดินแดนแห่งเทพเจ้า คือต้นกำเนิดคงคาของเทือกเขาหิมาลัยซึ่งถือว่าเป็นดินแดนแห่งเทพเจ้า

เส้นทางสู่ต้นแม่น้ำคงคา จาก ฮาริดวา – ฤาษีเกศ- -คงคาทรี
ต้นแม่น้ำคงคา เป็นธารน้ำแข็งบนความสูงเกือบ 4 พันเมตรของเทือกเขาหิมาลัย
ฮาริดวา เป็นสถานที่ที่พระศิวะ ใช้มวยผมรองรับพระคงคาให้บรรเทาความรุนแรงลงและลงมาสู่โลกมนุษย์ เป็นเมืองแรกที่พระคงคาไหลลงสู่ที่ราบ
ฤาษีเกศ เป็นภูเขาสูงเป็นเส้นทางของคงคา ความแรงของแม่น้ำแรงมากจนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ แม้แต่การนำไปปั่นกระแสไฟฟ้า
คงคาทรี ในสมัยโบราณ ต้นแม่น้ำคงคาอยู่ที่ คงคาทรี โดยผุดขึ้นมาจากธารน้ำแข็ง แต่ปัจจุบัน ธารน้ำแข็งได้ถอยร่นขึ้นไปอีก 19 กิโลเมตร ต้นกำเนิดคงคาคือบริเวณที่เรียกว่า "โคมุข " ซึ่งแปลว่า ปากวัว (cow’s mouth) ตามลักษณะเป็นปากถ้ำที่แม่น้ำคงคาไหลออกมาจากใต้ธารน้ำแข็ง ที่มีอายุหลายพันปี

ที่ตำบลฤาษีเกศ (เกตุ) เป็นเมืองแห่งนักพรต แต่โบราณ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา เป็นที่รวมของฤาษี และโยคี ผู้แสวงหาความหลุดพ้น ปัจจุบัน ก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะการฝึกโยคะ
การฝึกโยคะ เพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อให้สามารถนั่งสมาธิได้นานๆ จะได้ไม่รู้สึกเจ็บ โยคะจะควบคุมจิตใจให้นิ่งอยู่ในวินัยได้จากนั้นจะกวาดล้างมลทินที่ห่อหุ้มจิตใจออกไปได้ เหลือแต่ดวงจิตที่บริสุทธิ์จะบรรลุหนทางไปสู่ พรหม เป็นความสุขสูงสุดในชีวิต

ที่มาของบทความและภาพจาก สารคดี ตามรอยพระพุทธเจ้า

เมื่อกาลก่อนนั้นสายน้ำเป็นสายธารแห่งชืวิตหล่อเลี้ยงเหล่าบรรพชนได้สงบสุขร่มเย็นเป็นที่กำเนิดอารยธรรมต่าง ๆ มากมาย แต่วันนี้สายน้ำสายเดิมเดียวกัน กลับนำพาชะตากรรมอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้มาสู่ผู้คนอนุชนรุ่นหลังของบรรพชนเหล่านั้น ผู้ลิขิตชะตากรรมเหล่านี้คือมวลมนุษย์นั่นเอง หาใช่ใครอื่นไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น