วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

พรรณไม้น้ำ...สารภีทะเล

สารภีทะเล


ชื่อวิทยาศาสตร์: Calophyllum inophyllum L.
ชื่อสามัญ Alexandrian Laurel
ชื่อพื้นเมือง: สารภีทะเล ชื่ออื่น : กระทิง, กากะทิง (กลาง); ทิง (กระบี่); เนาวกาน (น่าน); สารกีแนน (เหนือ) , สารภีทะเล (ประจวบคีรีขันธ์)
วงศ์ : GUTTIFERAE ( CLUSIACEAE )




สารภีทะเล เป็นไม้ต้นขนาดกลาง - ใหญ่ สูง 5 - 17 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมสีเขียวเข้ม กิ่งอ่อนเกลี้ยง ยอดอ่อนเรียวเล็ก ปลายทู่



ลำต้น
ไม่มีพูพอน กิ่งค่อนข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม เปลือกน้ำตาลปนเทา เปลือกในสีชมพูเนื้อไม้สีน้ำตาลปนแดง มีน้ำยางเหนียวสีขาวอมเหลือง










ใบ
เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม แผ่นใบรูปรี รูปไข่ รูปไข่กลับ หรือ รูปขอบขนาน ฐานใบรูปลิ่มถึงกลม เป็นครีบที่โคน ขอบใบเรียบเป็นคลื่นยาว ปลายใบกลมถึงเว้าบุ๋มหรือแหลมเล็กน้อย เนื้อใบหนาคล้ายหนัง เส้นใบมีจำนวนมากเรียงชิด และขนานกัน มีก้านใบใบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ด้านบน สีเขียวเป็นมัน ด้านท้องใบสีจางกว่า



ดอก
เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ดอกสีขาว ออกตามปลายกิ่งและซอกใบใกล้ปลายกิ่ง เป็นช่อกระจะ ช่อดอกสั้น แต่ละช่อมี 5 - 15 ดอก กลีบรวม 8 กลีบ เรียงซ้อนเป็นสองชั้น ชั้นนอก 2 คู่ เรียงตรงข้างสลับตั้งฉากกัน ชั้นใน 4 กลีบ เรียงเป็นวงซ้อนเหลื่อมกัน เกสรเพศผู้มีจำนวนไม่แน่นอน โคนก้านติดกัน เกสรตัวเมียรังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ยอดเกสรแยกเป็นแฉกเท่าจำนวนห้องในรังไข่



ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน



ผล เป็นผลเมล็ดเดี่ยว รูปกลม ผลอ่อนสีเขียวเป็นมันเมื่อแก่เป็นสีน้ำตาลอมเขียว มีรอยย่น
ออกดอกเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม และ ออกผลเดือนกรกฎาคม - พฤศจิกายน



สารภีทะเลนี้ เปลือกมีน้ำยางสีขาวแกมเหลือง เนื้อใบหนาคล้ายหนัง ดอกสีขาว ผลกลม




สารภีทะเล พบได้ทั่วไปตามแนวเขตรอยต่อระหว่างป่าชายเลนกับป่าบก หรือ ชายหาดเป็นทราย



ประโยชน์
ลำต้นใช้ทำฟืน ใช้ก่อสร้าง
ดอก ปรุงเป็นยาหอม บำรุงหัวใจ
เมล็ด ให้น้ำมันใช้ทาถูนวดแก้ปวดข้อ เคล็ดบวม ทำเครื่องสำอาง



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://tanhakit.blogspot.com
สารานุกรมสมุนไพรเล่มที่ 2 สยามไภษัชยพฤกษ์
หนังสือไม้ดอกและไม้ประดับ



สารภีทะเล เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดระยอง





สารภีทะเล พบมากตามหาดทราย และไม่มีในธรรมชาติที่ตำบลบางกรูด เป็นพรรณไม้ที่ต้องซื้อหามาปลูก ซึ่งก็เจริญเติบโตได้ดี สำหรับที่จังหวัดระยองแนวถนนเลียบขายหาดไปหาดแม่รำพึง บ้านเพ ฝั่งหนึ่งของถนนเป็นชายทะเล และข้ามฟากอีกฝั่งถนนจะพบต้นสารภีทะเลขึ้นปะปนกับต้นสนมากมายเป็นแนว ซึ่งในความรู้สึกของพลอยโพยมเกี่ยวกับต้นสนก็คือ ต้นสน( สนปฎิพัทธ์) นี้ไม่มีความสามัคคีปรองดองกับพันธุ์ไม้ชนิดอื่น ๆ เลยก็ว่าได้ ในบริเวณต้นสนนี้แม้แต่หญ้าซึ่งเป็นวัชพืชที่ขึ้นได้ทั่วไปโดยไม่ต้องร้องขอก็ไม่สามารถสอดแทรกลำต้นลงในบริเวณที่ใบต้นสนหล่นลงเรี่ยรายได้เลย ต้นสนจะโดยปลูกหรือขึ้นเองก็จะขึ้นเป็นแนวและเป็นต้นสนล้วน ๆ



พลอยโพยมไม่เคยใส่ใจต้นสารภีทะเล หมายความถึงเข้าไปดูใกล้ ๆ เคยพบเห็นจากการนั่งอยู่บนรถ ซึ่งนาน ๆ ครั้งจะได้เห็นทั้ง ๆ ที่ไปเที่ยวที่บ้านเพบ่อย ๆ เพราะองค์กรที่ทำงานมีบ้านพักเป็นสวัสดิการ เหตุที่ไม่ค่อยได้เห็น เพราะนั่งหลับทุกครั้งที่นั่งรถไปไหนมาไหน

ต่อมาแม่ค้าในสวนจตุจักรก็เชิญชวนให้พลอยโพยมซื้อต้นกระทิง บอกว่าดอกหอม และดอกคล้ายดอกสารภี ฟังชื่อแล้วรู้สึกแปลกดีก็เลยซื้อราคาค่อนข้างแพงเพราะขายในร้านขายไม้ดอกหอม


คุณมีนกรก็บอกว่า ต้นกระทิงมีชื่อว่าสารภีทะเลด้วย และเป็นไม้หาง่ายมักขึ้นตามชายหาดที่ระยองมีเยอะ พอไประยองอีกพลอยโพยมก็ถึงได้เห็นต้นสารภีทะเล หรือกระทิง ขึ้นเป็นแถวเป็นแนวร่วมกับต้นสน ก็รู้สึกว่าเสียรู้คนขายต้นกระทิง พอปลูกจนมีดอกและออกเป็นผล ร่วงหล่นโคนต้น ก็มีต้นอ่อนขึ้นมากมาย ยิ่งรู้สึกว่าคบกันมาหลายปีกับคุณแม่ค้า ทำไมถึงทำกับพลอยโพยมอย่างนี้ได้หนอ



เมื่อเข้าไปที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงฉะเชิงเทรา ก็ถูกชี้ชวนว่า นี่ต้นสารภีทะเล ถ่ายรูปไว้ซี พลอยโพยมก็หยิ่งว่าที่บ้านก็มีต้นกระทิง ถ่ายภาพต้นไม้อื่น ๆ ที่ไม่มีที่บ้านดีกว่า อากาศก็ร้อนแดดก็แรง แต่ก็ถ่ายเป็นภาพต้นไว้ เมื่อกลับมาค้นภาพที่คิดว่าถ่ายจากต้นที่บ้านไว้ ก็หาภาพไม่เจอตามเคย ครั้นไปถ่ายต้นของบ้านก็ต้องเสียดายว่าต้นที่บ้านทรงก็ไม่สวยองค์ประกอบก็ไม่ดี ไม่มีดอกด้วย ออกเป็นผลหมดแล้วและอยู่สูงตามเคย คราหน้าคราวหลังจะไม่หยิ่งแบบนี้อีกแล้ว พอดีวันต่อมาต้องย้อนไป .ศ.พ.ช ฉะเชิงเทราอีก ก็เลยได้ภาพมา ทำให้ไม่ต้องร้องเเพลงว่า หมดเสียแหละดี มีแล้วทำเป็นหยิ่ง.เจ็บใจคัวเองเหลือเกิน (เผอิญต้นสารภีทะเลที่ศูนย์ ฯ พอจะมีดอกมีผลให้ถ่ายภาพได้ 1 ต้น ในจำนวนหลาย ๆ ต้น)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น