วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

[บทความ] สาวเครือฟ้า...

สาวเครือฟ้า...



สาวเครือฟ้า เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2496 เป็นภาพยนตร์สี 16 ม.ม. สร้างจากบทละครร้องเรื่อง สาวเครือฟ้า พระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ โดยใช้นามแฝงว่า ประเสริฐอักษร ซึ่งเคยจัดแสดงที่ โรงละครปรีดาลัย.



เรื่องสาวเครือฟ้านี้ ดัดแปลงมาจากอุปรากร เรื่อง มาดามบัตเตอร์ฟลาย ของจาโกโม ปุชชีนี ซึ่งได้ต้นเค้ามาจากนวนิยายของจอห์น ลูเธอร์ ลอง อีกต่อหนึ่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2450 ทรงทอดพระเนตรอุปรากรเรื่องนี้ เมื่อเสด็จนิวัติพระนคร ได้ทรงเล่าให้กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ฟัง กรมพระนราธิปฯ ทรงดัดแปลงเป็นบทละครร้องแสดงถวายหน้าพระที่นั่ง โดยเปลี่ยนสถานที่จากญี่ปุ่น เป็น เชียงใหม่ เปลี่ยนบทนางเอกจากสาวญี่ปุ่น โจโจซัง เป็น เครือฟ้า เปลี่ยนบทพระเอกจากนายทหารเรืออเมริกัน นายเรือเอกพิงเคอร์ตัน เป็น ร้อยตรีพร้อม



ภาพยนตร์สาวเครือฟ้า ฉบับ พ.ศ. 2495 กำกับโดย มารุต นำแสดงโดย วิไลวรรณ วัฒนพานิช, ชลิต สุเสวี, สอางค์ ทิพยทัศน์, สมพงษ์ พงษ์มิตร ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้กับวิไลวรรณ จนได้รับฉายาว่า "นางเอกเจ้าน้ำตา" ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รางวัลตุ๊กตาทอง ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2500 มีภาคต่ออีกหลายภาค พ.ศ. 2498 ชื่อเรื่อง ลูกเครือฟ้า พ.ศ. 2503 ชื่อเรื่อง ปีศาจเครือฟ้า นำแสดงโดย วิไลวรรณ วัฒนพานิช, ชลิต สุเสวี และล้อต๊อก

ครูมารุต ได้นำภาพยนตร์เรื่องนี้มาสร้างใหม่อีกครั้ง เมื่อ พ.ศ. 2508 นำแสดงโดย พิศมัย วิไลศักดิ์, มิตร ชัยบัญชา ร่วมด้วย ประจวบ ฤกษ์ยามดี, น้ำเงิน บุญหนัก, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม พร้อมกับและผู้ให้เกียรติมาร่วมแสดง ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง 3 รางวัล คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม และพากย์เสียงยอดเยี่ยม

ต่อมา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ นำเรื่องนี้กลับมาสร้างอีกครั้ง เมื่อ พ.ศ. 2523 ใช้ชื่อเรื่องว่า เครือฟ้า นำแสดงโดย สุพรรษา เนื่องภิรมย์, นิรุตต์ ศิริจรรยา และวิยะดา อุมารินทร์
เรื่องสาวเครือฟ้า ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์หลายครั้ง ครั้งหนึ่งนำแสดงโดย ปาหนัน ณ พัทลุง และรอน บรรจงสร้าง



เรื่องย่อ

ร้อยตรีพร้อม (ชลิต สุเสวี) นายทหารหนุ่มชาวใต้ ย้ายมารับราชการที่เชียงใหม่ เกิดรักใคร่กับ เครือฟ้า (วิไลวรรณ วัฒนพานิช) หญิงช่างฟ้อนชาวเชียงใหม่ เป็นลูกของคนเลี้ยงช้าง แล้วก็ได้ผูกสมัครรักใคร่กันขึ้น เพราะร้อยตรีพร้อมชอบให้เครือฟ้าพาไปเที่ยวป่า จากนั้นทั้งคู่อยู่กินฉันท์ได้เป็นสามีภรรยากันชั่วระยะสั้นๆ จนให้กำเนิดบุตรชื่อ เครือณรงค์

ต่อมาจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ไทยเข้าร่วมรบกับฝ่ายพันธมิตรและมีการระดมทหารอาสาไปรบที่ยุโรป ข่าวมาถึงเชียงใหม่ ร้อยตรีพร้อมได้คำสั่งย้ายกลับกรุงเทพฯ ร้อยตรีพร้อมเลยอาสาไปรบ ก่อนจากได้ร่ำลากันด้วยความรักและอาลัย เครือฟ้าร้องไห้ปิ่มว่า น้ำตาจะเป็นสายเลือด แต่ร้อยตรีพร้อมก็สัญญาว่าจะกลับมาเชียงใหม่อีก ร้อยตรีพร้อมจากไปแล้ว เครือฟ้าก็ตั้งท้อง ร้อยตรีพร้อมไปรบที่ยุโรป ยิงเครื่องบินเยอรมันตกไปหลายลำ แต่ตัวเองก็ประสบเคราะห์กรรมเครื่องบินตกได้รับบาดเจ็บเช่นกัน พอกลับเมืองไทยก้ได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็นพันตรีหลวงณรงรักษ์ศักดิ์สงคราม แต่ก็ไม่สามารถจำอะไรในอดีตไม่ได้เลยแม้แต่เครือฟ้าและเชียงใหม่



ร้อยตรีพร้อมได้ถูกทางญาติบังคับให้แต่งงานกับจำปา (สุจิตรา ทิพยทัศน์) เป็นลูกผู้ดีมีสกุล จนเกิดรักใคร่ชอบพอกันแล้วก็แต่งงานกันถูกต้องตามกฎหมาย จนถึงวันที่คุณหลวงพร้อมต้องเอาเครื่องบินไปแสดงบินที่เชียงใหม่ และพอไปก็คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเคยมาอยู่ที่นี่ แต่ก็โดนคอยขัดขวาง ฝ่ายเครือฟ้าเฝ้ารอสามี เมื่อได้ข่าวว่าสามีเดินทางมาเชียงใหม่ ก็ไปคอยต้อนรับด้วยความดีใจ เมื่อพบว่าร้อยตรีพร้อมแต่งงานแล้ว พร้อมกับพาภรรยามาด้วย แต่คุณหลวงจำไม่ได้และยังโดนจำปาไล่กลับและดูหมิ่นดูแคลนต่างๆ นาๆ เครือฟ้าเสียใจมาก จึงใช้มีดแทงตัวตาย ด้วยหัวใจที่แตกสลาย แต่คุณหลวงจำได้ก็สายเกินไปเสียแล้ว

ที่มา จาก วิกิพีเดีย



ร้อยตรีพร้อมและสาวเครือฟ้า

พลอยโพยม จำรายละเอียดของสาวเครือฟ้าไม่ได่้ลองเปิดอ่านดู แล้วก็ประหลาดใจแต่แรกไม่ได้คิดอะไรตอนเล่าเรื่องคุณยายน้องสาวยายขา

นายร้อยตรีพร้อมที่พบรักกับสาวเครือฟ้า ต่อมาได้ยศเป็นพันตรีหลวงณรงรักษ์ศักดิ์สงคราม
สามีคุณยาย ชื่อ พันตรีหลวงสมรรถยุทธการ เดิมเป็นร้อยตรีฉัตร ร้อยตรีฉัตรพบรักกับคุณยายอุไร (ชื่อสองพยางค์เหมือนเครือฟ้า) เมื่อแต่งงานกัน บุตรคนแรกของท่านเป็นผู้ชายเหมือนลูกร้อยตรีพร้อม

แต่ตำนานของคุณยายเกิดก่อน ในปี พ.ศ. 2455-2456 ก่อนภาพยนตร์เรื่องนี้ 40 ปี ไม่ทราบว่าสมัยนั้นคุณตาคุณยายท่านไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้หรือไม่

แสดงว่านายทหารพันตรี จะได้ยศเป็นคุณหลวง ด้วย
และช่วงชีวิตของคุณตา คุณยาย คู่นี้ ก็เจอสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ท่านออกจากราชการก่อนหน้าแล้วท่านจึงไม่ต้องไปรบ

ที่มาของภาพ จากอินเทอร์เนท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น