วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

[บทความ] น่าฉงน.....ต้นกล้วย

น่าฉงน.....ต้นกล้วย



อะไรเอ่ย ลำต้นเท่าขา ใบยาว หนึ่งวา
เฉลยเลยก็ได้ คนอ่านไม่ต้องเสียเวลาคิด คำตอบ คือ กล้วย
กล้วยพืชพันธุ์อันธรรมดา แต่ มีรายละเอียดที่ไม่ธรรมดาเลย

ส่วนใหญ่เรามักจะนึกถึงกล้วยเวลานำมาเปรียบเทียบกับของที่ทำได้สำเร็จง่ายดายว่า "ของกล้วย ๆ" หรือไม่ก็ "ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก " แต่ในความรู้สึกของพลอยโพยมคิดว่าต้นกล้วยเองเป็นต้นไม้ที่มีความซับซ้อนยุ่งยากอยู่ในตัวของกล้วยเอง
จะทำความเข้าใจกับพืชพันธุ์ไม้ ที่มีนามว่า "กล้วย " ไม่ง่าย...เหมือนปอกกล้วยดิบเข้าปากเสียมากกว่า"

ส่วนประกอบของกล้วยนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่โบราณเอามาเปรียบเปรยเลยสักนิด

กล้วยเป็นพืชล้มลุก และ เป็นหนึ่งในพรรณไม้สำคัญและจำเป็นกับวิถีชีวิตคนไทยโดยเฉพาะต่างจังหวัดหรือ ให้ชัดลงไปก็คือของคนบ้านนอก แทบทุกบ้าน มักมีต้นไม้หรือพืชพันธุ์ไม้สารพัดประโยชน์ 3 อย่าง คือ ไผ่ มะพร้าวและกล้วย โดยเฉพาะที่จะเขียนถึงนี้ คือ ต้นกล้วย
พลอยโพยมอยากเรียกชื่อต้นกล้วยใหม่ว่า ต้นประหลาด ต้นพิสดาร หรือต้นพิลึกกึกกือ เสียมากกว่า….



แต่ละองค์ประกอบของกล้วย ใช้ชื่อเรียกที่ไม่เหมือนต้นไม้อื่นๆ เกือบทุกส่วน เริ่มจาก ต้น
ต้นกล้วยส่วนที่เป็นต้นจริง ๆ คือเหง้าซึ่งอยู่ใต้ดิน ลำต้นที่เรามองเห็นกันถ้าเป็นต้นเล็ก ๆ ที่โผล่พ้นดินขึ้นมาเราเรียกว่า หน่อกล้วย กล้วยดำรงพันธุ์ได้ด้วย หน่อ ที่มาจากเหง้าเดิม เราคงเคยได้ยินคำว่า หน่อเนื้อเชื้อไข ก็คือ ทายาทที่จะสืบตระกูลของ พ่อแม่ หน่อกล้วยก็เหมือนกัน รวมทั้งคงเคยได้ยินคำว่าโค-ตะ -ระ-เหง้า กันบ่อยๆ
สำหรับกล้วย ดำรงพันธุ์โดย หน่อกล้วย ของเหง้าเดิม
สำหรับ มนุษย์ การดำรงสกุลของเผ่าพันธุ์ คือ การมีหน่อเนื้อเชื้อไขไว้สืบตระกูลให้ โคตรเหง้า

ถ้าหั่นลำต้นของกล้วยนี้ออกจะเรียกว่า หยวกกล้วย เช่น ที่เขาหั่นเอาไปเลี้ยงหมู หรือสัตว์อื่นๆหรือหั่นเป็นชิ้น ๆ หรือ ท่อน ๆ เอามาทำฐานกระทง ไว้ลอย ขอขมาพระแม่คงคาในเทศกาลวันลอยกระทง
มีคำพูด ถึงคนที่มีผิวขาวว่า  "ขาวเหมือนหยวกกล้วย " คงเคยได้ยินกัน



ในทางวรรณคดี กวีมักเปรียบขาของนางงามว่าเหมือนต้นกล้วย ในกลบทมีกล่าวว่า
“ เจ้างามเพลากลกัทลีพรรณ” คงหมายถึงกลมกลึงและขาวเหมือนหยวก

ในกาพย์ห่อโคลง นิราศธารโศก ของ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ

ชมเพลาเจ้าเรียวรวย คือต้นกล้วยสวยสดเปลา
เข่าแข้งงามกว่าเพลา หรือพรหมกลึงจึงนางงาม
อูรูดูเรียบร้อย คือเหลา
ลำกล้วยกลมปลายเปลา ห่อนแห้ง
ชังฆาธนูเหลา เฉลิมรูป
หรือว่าพรหมกลึงแกล้ง แต่งให้นางงาม

การเปรียบขาผู้หญิงว่างามเหมือนต้นกล้วยเป็นคำเปรียบที่มีมาเก่าแก่ ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง(สมัยสุโขทัย ) ได้กล่าวถึงผู้หญิง ในแผ่นดิน อุตรกุรุทวีป ไว้ตอนหนึ่งว่า “ แลมีลำแข้งลำขานั้นงามดังลำกล้วยทองฝาแฝดนั้นแล “ เป็นต้น
คนโบราณก็ช่างคิดช่างเปรียบเทียบกันเสียเหลือเกิน


(มีแก้ไข )

หยวกกล้วยนี้ยิ่งใกล้แกนกลางลำต้นเท่าใดหยวกกล้วยก็จะยิ่งมีสีขาวนวลมากขึ้นเท่านั้น และแกนในนี้เอามาต้มกินกับน้ำพริกได้

นอกจากลูกมะพร้าวและสะโพกจากแล้วก็ยังมีต้นกล้วยที่เด็ก ๆ ในชนบทใช้พยุงตัวเวลาฝึกว่ายน้ำ

แต่ถ้าเราแกะลำต้นกล้วยออกมาทีละชิ้นเราจะเรียกว่ากาบกล้วย
กาบกล้วยผิวเรียบเป็นมันลื่น ขนาดกว้างกว่าฝ่ามือ ขึ้นสลับซ้อนกันชั้นแล้วชั้นเล่าจนรวมเป็นลำต้นอวบแน่นแล้วค่อย ๆ เรียวเล็กลงเป็นก้านใบ
กาบกล้วยที่หุ้มซ้อน ๆ กัน เป็นวงกลมของลำต้นกล้วยนี้เป็นต้นเทียมของกล้วยเมื่อถึงอายุก็จะล้มลงเอง ต้นจริงของกล้วยคือเหง้าใต้ดิน

ใบของต้นกล้วยเราไม่นิยมเรียกว่า ใบกล้วย แต่เรียกเป็น ใบตอง
คำว่า ตอง ใน พจนานุกรม แปลว่าใหญ่ คงเป็นเพราะใบใหญ่ กระมัง
การเรียกลักษณะนามของใบตองเราจะเรียกว่า ทาง นอกจากไม่เรียกว่าใบกล้วยแล้ว หากจะกล่าวถึงจำนวนของใบกล้วยว่า 3 ใบ 4 ใบ เราจะเรียกว่า 3 ทาง 4 ทาง
ใบตองสด และใบตองแห้ง นำมาใช้ประโยชน์มากมาย



เวลาที่กล้วยจะตกเครือคือออกดอกนั้น ลำต้นที่เป็นหยวกกล้วยจะแทงแทรกกลางลำต้นขึ้นมาจากโคนต้นและโผล่ออกที่ปลายเป็นปลี

เวลากล้วยออกดอกเราก็ไม่เรียกดอกกล้วย แต่จะเรียก ปลีกล้วย การเรียกดอกกล้วย 3 ดอก หรือ 4 ดอก เราจะเรียกว่า ปลีกล้วย 3 หัว หรือ 4 หัว บางคนก็ไม่เรียกปลีกล้วยแต่เรียกเป็น หัวปลี เช่นตามร้านอาหารมีเมนูยำหัวปลี แกงเลียงหัวปลี เป็นต้น

ปลีกล้วยมีรูปทรง ยาวกลมและอ้วน มีปลายแหลม ( อ่านแล้วดูตลก ๆ กับรูปทรงแบบนี้ ยาว กลม อ้วน) ส่วนใหญ่มีสีชมพูแก่ถึงม่วงเข้ม ข้างใน ปลี กล้วย จะเป็นดอกเล็ก ๆ ยาว ๆ เรียงกันคล้ายหวี มีกลีบดอกเลี้ยงสีขาว หุ้มสลับหลายชั้น
(ส่วนนี้เอามาต้มจิ้มน้ำพริก หรือหลน ได้อร่อยมาก หรือกินสดแนมกับผัดไทย )



ผลของกล้วยที่ได้จาก ปลีกล้วย เรียกว่าลูก
กล้วยหลาย ๆ ลูก อยู่รวมกันมีขั้วเดียวกันรวมกันเรียกว่า หวี
กล้วยหลาย ๆ หวี อยู่รวม งวง เดียวกัน เรียกว่าเครือ ( ส่วนใหญ่ เราจะใช้คำว่า งวง กับช้างนี่นำมาใช้กับกล้วยด้วย อืม ... นอกจากใช้กับกล้วยแล้วคำว่างวงยังใช้กับต้นตาล)

กล้วยแต่ละผล (ลูก) จะไม่อยู่แบบโดดเดี่ยวให้ว้าเหว่เอกา แต่จะอยู่รวมกันเหมือนมีพี่น้องรวมกันเป็นหวี แล้วแต่ละหวีก็จะมีพี่น้องอีกรวมกันเป็นเครือ
กล้วยบางพันธุ์ในหนึ่งเครือ มีถึง ร้อยหวี
ดังนั้นจะมีคำพูดว่า "วงศ์วานหว่านเครือเดียวกัน " หรือบางครั้งก็เป็นเครือญาติกัน หรือ การเป็นบริษัทในเครือเดียวกัน ยังไม่เคยได้ยินว่า เครือเพื่อนเดียวกัน ( เพราะคนละเชื้อสายวงศ์ตระกูลกันนั่นเองกระมัง)

เครือกล้วย จึงนำมาใช้ ในการบอกความสัมพันธ์ของวงศาคณาญาติ เชื้อสายบรรพบุรุษเดียวกัน คนโบราณเวลาถามหาที่มาของคน หากเป็นคนเจ้าสำบัดสำนสวน ก็จะถามเป็นกลอนว่า

“วงศ์วานหว่านเครือเนื้อหน่อ พงศ์เผ่าเหล่ากอมาแต่ไหน “




ต้นกล้วยเมื่อออกเครือแล้วก็จะตาย จึงมีสุภาษิตขึ้นว่า

“ผลกล้วยฆ่าต้นกล้วย ขุยไผ่แลดอกอ้อฆ่าไม้ไผ่แลไม้อ้อ ลาภผลฆ่าคนชั่ว...

ลักษณะนามของผลของต้นไม้ที่อยู่รวมกันหลายๆผล นอกจากหวี และเครือแล้ว ก็ มี คำว่า พวง เช่น พวงองุ่น พวงมะม่วง พวงลำไย ( แต่พวงมาลัยไม่ใช่เป็นคนเรื่อง แต่ถ้าจะลองเรียกว่าหวีมาลัยรู้สึกพิกลอยู่มาก ๆ
พวง แปลว่า กลุ่มของสิ่งที่ห้อยย้อยไปทางเดียวกัน องุ่น ก็เลยเป็นพวง มาลัยก็เลยเป็นพวง เหมือนกัน ) นอกจากนี้มีคำว่า ทะลาย เช่น ผลหมาก และ ผลของมะพร้าว คำเรียกคือ หมาก 1 ทะลาย มะพร้าว 2 ทะลาย และมีผลระกำ ที่มีลักษณะนามว่ากระปุก  ใช้คำรียกว่าระกำกระปุกหนึ่ง

ใบไม้ ที่มีลักษณะนามว่าทาง นอกจากกล้วยแล้วยังมี  ทางหมาก ทางมะพร้าว ทางจาก

ภาษาไทยของเราช่างซับซ้อน ซ่อนเรื่องรายละเอียดไว้มากมาย
พลอยโพยม ไม่ใช่ครูภาษาไทยจากโรงเรียนไหนเป็นแค่ศิษย์ครูภาษาไทยเท่านั้น ซึ่งทุกคนไทยที่เรียนหนังสือในโรงเรียนไทย ได้สิทธิ์นี้เหมือนพลอยโพยม เสมอหน้าเท่าเทียมกัน ไม่เป็นสองมาตรฐานแน่นอน)









คุณประโยชน์ของกล้วย
ต้นกล้วยมักถูกนำไปใช้ประกอบพิธีต่าง ๆ คล้ายกับอ้อย เช่น ในพิธีงานบุญ ประเพณีงานแต่งงาน



กาบกล้วยคนโบราณใช้นำมาแกะสลักตกแต่งเชิงตะกอนเมรุลอยในงานเผาศพได้สวยงามมาก

หยวกกล้วย ใช้เลี้ยงสัตว์ สมัยก่อนที่บางกรูดจะหั่นหยวกกล้วยผสมกับรำข้าวใช้เลี้ยงหมู บ้านที่เลี้ยงหมูจะต้องปลูกกล้วยไว้มาก ๆ และใช้งานอื่น ๆ




ใบกล้วยที่เรียกว่า ใบตองนั้น
ทั้งใบตองสดและใบตองแห้ง มีคุณประโยชน์มากมายนับอเนกอนันต์ กับคำพูดที่ว่า สิ่งใดมีคุณอนันต์ก็มีโทษมหันต์ แต่ ใบตองของกล้วยมีแต่ คุณอนันต์ อย่างเดียว นึกหาโทษของใบตองเท่าไร นึก นึก เท่าไร นึกไม่ออกสักที..








ใบตองสด
มีตำนานวัดตองปุ ว่า มีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์หนึ่ง เสด็จไปที่วัดกะทันหัน ที่วัด ไม่มีผ้าไม่มีพรมรับเสด็จ จึงใช้ใบตองทั้งทาง ปูติดๆกันให้ทรงเสด็จพระราชดำเนินบนใบตอง ชื่อตองปุ เพี้ยนมาจาก ตองปู นั่นเอง








ก้านกล้วยสด
 เอามาประดิษฐ์ของเล่น เช่น ทำเรือ ทำม้าก้านกล้วยให้เด็ก ๆ ได้เล่นขี่ม้าก้านกล้วย ม้าก้านกล้วยถือเป็นเอกลักษณ์การละเล่นเด็กไทยโบราณอย่างหนึ่ง ทำเป็นปืนเล่นก็ได้โดยใช้มีดเฉือนสันก้านกล้วยให้ตั้งขึ้นเป็นแถวยาว เวลายิงปืน ก็อามือลูบสันที่ตั้งขึ้นล้มลงจะมีเสียงดังไล่กันว่า พับ พับ พับ ๆ  ๆ  ๆ หรือจะทำดาบก้านกล้วยก็ได้



ส่วนใบดองแห้ง
ก็ใช้ประโยชน์ได้มากมายเช่ย ใช้ห่อของ ใช้กรุกระจาด  ใช้กรุพิ้นภาชนะบ่มผลไม้ให้สุกเช่น มะม่วง ละมุด ใช้หุ้มกาบมะพร้าวทำจุกปิดข้าวหลาม ใช้ทำกระทงใบตองแห้งใส่สิ่งของต่าง ๆ เช่น ทำขนมเข่ง ใส่อาหารต่าง ๆ

ก้านใบของใบตองแห้ง
ก็ใช้ทำเชือกกล้วยโดยรูดเอาใบแห้งออก เอาไปแช่น้ำแล้วฉีกเป็นเส้น ๆ จะได้เชือกกล้วย ร้านค้าสมัยก่อนไม่มีเชือกพลาสติกหรือหนังยางที่เป็นวง ๆ ที่เราเรียกกันว่าหนังสติ๊กใช้ จะใช้เชือกกล้วย หรือไม่ก็กกแห้งสำหรับมัดของขาย เช่นมัดผักเป็นมัด ๆ หรือของที่ซื้อที่ใช้ห่อด้วยกระดาษเช่น น้ำตาลทราย หรืออื่น ๆ ก็จะต้องใช้เชือกกล้วยหรือเส้นกกนี้ มัดห่อของอีกที

นอกจากนี้คนโบราณมีความเชื่อกันว่า งูเหลือมแพ้เชือกกล้วย ด้วย



ปลีกล้วย สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอด คนโบราณจะให้กินแกงเลียงหัวปลี เพื่อช่วยให้มีน้ำนมเลี้ยงลูก
เป็นผักสดกินกับผัดไทย หรือจิ้มน้ำพริกทั้งสดหรือ ต้ม ก็อร่อยเหลือหลาย บางบ้านก็เอาไปทำต้มยำหัวปลีที่มีรสชาติคล้าย ๆ ไก่ต้มข่าทำนองนั้น คนมีฝีมือก็ทำได้อร่อยมาก

มีตำรายาว่า กินกล้วยดิบแก้ท้องเสียได้ผลดี แต่ก็น่าประหลาดใจอีก ที่กล้วยสุกกลับเป็นยาระบายแก้ท้องผูก ได้ดีเช่นกัน มหัศจรรย์ กล้วย

ผลกล้วย ใช้กินได้ อุดมคุณค่าทางโภชนาการ ใช้เป็นยารักษาโรคทั้งกล้วยดิบและกล้วยสุก แถมตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
สรุปว่ากล้วยนั้นกินได้ทั้งกล้วยดิบและกล้วยสุก สำหรับคนที่ชอบกินแหนมเนืองอาหารญวน หากขาดกล้วยดิบละก้อหมดอร่อยไปเลย กินแล้วเหมือนไม่ได้กินแหนมเนือง ส่วนประกอบอื่นเช่น มะเฟืองหากหามะเฟืองไม่ได้ ใช้มะม่วงดิบแทนยังพอได้รสชาติ แต่กล้วยดิบจะขาดเสียไม่ได้ (ในความรู้สึกส่วนตัว)
กล้วยห่าม ๆ ใช้ทอดกล้วยแขกได้อร่อยถ้ากินตอน ร้อน ๆ เพิ่งขึ้นจากกระทะ ถ้าปล่อยไว้เย็น ก็จะแข็งไปสักหน่อย และเอามาทำกล้วยฉาบน้ำตาล หรือกล้วยอบเป็นแว่น ๆ




สำหรับกล้วยสุกนอกจากกินแบบธรรมดาสามัญกล้วยแล้ว ยังเอากล้วยมาทำขนมได้มากมาย ทั้งขนมกล้วย กล้วยบวชชี กล้วยเชื่อม ใช้ห่อข้าวต้มผัด (ข้าวต้มมัด) หรือเอามาต้ม หรือนึ่ง หั่นซอยแบบกล้วยแขก กินกับมะพร้าวขูดโรยน้ำตาลทราย กล้วยทับ กล้วยปิ้ง เค้ก (กล้วยหอม) หรือแปรรูปเป็น กล้วยตาก ไปยาลใหญ่

สำหรับเด็กทารก นอกจากนมแล้วคนไทยส่วนใหญ่จะให้ลูกหลาน กินกล้วยขูดเละ ๆ เป็นอาหารชนิดแรกของเด็กกันแทบทุกบ้าน
และมีคนเอากล้วยไปทำไวน์กล้วยก็ได้



ยางกล้วยก็ยังสามารถทำเป็นสีย้อมผ้าได้ ดังนั้นถ้าไม่ระวังตัวหากยางกล้วยเปรอะเสื้อผ้าแล้วจะซักไม่ออกประเภทใช้แล้วสีไม่ตก

มีหนังสือนิทานของอินเดียกล่าวว่า ในเบงกอลสมัยก่อน เวลาซักผ้าเขาจะเอาต้นกล้วยมาเผาแล้วเอาขี้เถ้าต้นกล้วยนี้มาทำสบู่

ส่วนประกอบของกล้วย เรียกชื่อแปลกประหลาดไปเสียเกือบทุกส่วนประกอบ คงมีแต่ส่วนที่เป็นราก ที่เรียกเหมือนเพื่อนพ้องพันธุ์ไม้ด้วยกัน

กล้วยในความรู้สึกของพลอยโพยม ช่างเป็นพรรณไม้ที่ไม่ธรรมดา แต่เป็นมหัศจรรย์พรรณไม้ให้น่าพิศวงเสียมากกว่า

ที่มาของภาพ หนังสืออ่านประกอบวิชาเรียนภาษาไทย "กล้วย"
โครงการตำรา โรงเรียนรุ่งอรุณ

3 ความคิดเห็น:

  1. ดีครับ ขอบคุณครับ ได้สาระ แปลก
    ผศ.ดร.ธวัชชัย นาคะบุตร

    ตอบลบ
  2. ขออนุญาตนำรูปที่ 2 ไปใช้ทำป้ายจัดฝึกอบรมหน่อยนะคะ

    ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

    ตอบลบ
  3. เพลงไพเราะค่ะ เดินผ่านมาเจอค่ะ

    ตอบลบ